เร่งรัฐบาลปรับสำนึกคนไทยให้อยู่ทิศทางเดียวกัน
“ผู้ใหญ่โชคชัย” เชื่อยังไม่สายเกินไป สร้างจิตสำนึกใหม่ให้เกิดขึ้นในจิตใจคนไทย โดยใส่ความรู้ที่เป็นจริง ย้ำเรื่องด่วนไม่ควรปล่อยให้สังคมรับรู้แต่ความเท็จ ที่สำคัญต้องให้คนทั้งประเทศรับสื่อตรงกัน
นายโชคชัย ลิ้มประดิษฐ์ ผู้ใหญ่บ้านหนองกลางดงหมู่ที่ 7 ต.ศิลาลอย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ หนึ่งในเครือข่ายสถาบันทางปัญญา กล่าวถึงสถานการณ์วิกฤติการเมืองไทยในช่วงเดือนที่ผ่านมาว่า สังคมไทยขณะนี้ต้องสร้างจิตสำนึกใหม่ โดยการสร้างความรู้ที่เป็นความจริงเพราะความรู้เป็นพื้นฐานของปัญญา วันนี้เรานำสิ่งที่ไม่ควรจะรู้หรือความเท็จเข้ามาสู่การรับรู้เสียมาก เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องสร้างสำนึกใหม่ให้เกิดขึ้น พร้อมมองว่า การที่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลพยายามใช้หลักการตลาดให้ข้อมูลเท็จผ่านสื่ออยู่ทุกวัน และสร้างสำนึกที่ไม่ดีด้วยการให้ข้อมูลเท็จซ้ำๆ สุดท้ายจะทำให้พฤติกรรมคนเปลี่ยนได้ ส่งผลให้คนจำนวนหนึ่งที่ไม่รู้ความจริงหลงเชื่อ
“ต้องยอมรับความจริงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่แห่งใดก็ใช้หลักการตลาดทุกที่ พออยู่ในภาวะวิกฤติก็เช่นกัน การโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งผู้โฆษณาไร้ความละอาย ไม่สนใจคนที่รู้เท่าทันว่าจะมีความรู้สึกอย่างไร เพราะเขาเชื่อว่า คนที่รู้มีน้อยกว่าคนที่ไม่รู้ เมื่อใช้หลักการตลาด หวังผลเพื่อเพิ่มลูกค้าจากคนที่ไม่รู้ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าคนที่รู้เท่าทัน คนจำนวนมากนี้เองอยู่ในไร่นา หรือในชนบท ดังนั้นคนในชนบทก็ตกเป็นเครื่องมือทางการตลาด ทั้งนี้ หากรัฐบาลยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปปัญหาจะยิ่งแก้ยากขึ้น เพราะลูกค้าที่ไม่รู้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรื่องเหล่านี้รัฐบาลต้องใช้สื่อแสดงความจริงด้วยเหตุและผลเผยแพร่ออกมาให้ประชาชนรับรู้”
นายโชคชัย กล่าวถึงการสร้างจิตสำนึกใหม่ให้คนไทยว่า มองได้ 2 ระดับ คือ 1.ระดับบนต้องสร้างความรู้เพื่อปรับสำนึกประชาชนทั้งประเทศให้มาสู่ทิศทางเดียวกัน 2.ระดับล่างต้องสร้างการเรียนรู้ระหว่างกัน ระหว่างความรู้ ความเป็นจริง เช่น กรอบประชาธิปไตยชุมชนนั้น จะทำอย่างไรหากไม่ต้องไปแก้รัฐธรรมนูญก็สามารถนำพาชุมชนเข้มแข็งให้รู้รอดได้ เป็นต้น
“ถึงเวลาต้องสร้างความเข้าใจให้คนทั้งประเทศรับสื่อที่ตรงกัน ถ้าตราบใดที่คนรับสื่อสามารถรับได้หลายทิศทาง และรับเฉพาะช่องที่ตนเองศรัทธา ความแตกแยกทางความคิดจะเกิดขึ้น และวันนี้คงไม่สายเกินไป”ผู้ใหญ่บ้านหนองกลางดง กล่าว และว่า ปมปัญหาเส้นแบ่งระหว่างความถูกหรือผิดของกฎหมาย หรือรัฐธรรมนูญนั้นคิดว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรียังไม่กล้าตัดสินพอ ทำให้เกิดข้อกังขาถึงความพอดีระหว่างการใช้หลักรัฐศาสตร์กับหลักนิติศาสตร์นั้นอยู่จุดใด จึงเกิดคำถามว่า วันนี้ปัญหาคือใช้หลักรัฐศาสตร์มากเกินไปหรือไม่ และขณะนี้มีคนส่วนหนึ่งที่ไม่เชื่อมั่นในกระบวนการศาล ดังนั้นรัฐบาลต้องกล้ามากกว่านี้ ซึ่งคิดว่าหากหลักนิติศาสตร์ไม่สามารถทำงานได้นั้น ก็จะทำให้หลักรัฐศาสตร์ไม่สามารถทำหน้าที่ได้เช่นกัน ในที่สุดแล้วความเชื่อมั่นในระบบความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายก็จะหมดไป และสังคมจะอยู่ไม่ได้