เครือข่ายสันติวิธีรวมพลัง "จุดเทียน" ขับไล่ความมืดบอดออกจากสังคมไทย
พระไพศาล ร่วมจุดเทียนส่องทาง ต่อต้านยุติความรุนแรง วอนสังคมใช้สติตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม ขจัดความมืดบอด มองทุกฝ่ายเป็นเสมือนพี่น้อง เป็นคนไทยด้วยกัน หวังความสงบสุขกลับสู่บ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานวานนี้ (15 มี.ค.) ว่า เวลา 19.00 น. ที่ หอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร เครือข่ายสันติวิธี ประกอบด้วย ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล เครือข่ายพุทธิกา กลุ่มเยาวชนศึกษาสันติวิธี กลุ่มประชาชนผู้ไม่เอาสงครามกลางเมือง เครือข่ายหยุดทำร้ายประเทศไทย พร้อมด้วยกลุ่มสันติอาสาพยาน กว่า 200 คน รวมตัวกัน เพื่อจุดเทียนภาวนาต่อต้านยุติความรุนแรง พร้อมทั้งเขียนข้อความร่วมอธิษฐานติดบนกำแพงสันติภาพเพื่อแสดงให้เห็นถึงการรณรงค์ใช้วิธีสันติวิธีในการชุมนุม
พระไพศาล วิสาโล ประธานเครือข่ายพุทธิกา กล่าวว่า สันติภาพจะเกิดขึ้นเพื่อเกิดความสว่างไสว ขณะนี้บ้านเมืองเราถูกปกคลุมด้วยความมืด ความมืดแผ่คลุมจิตใจ เกิดความหลง ที่ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นความเป็นพี่น้องได้ เหตุการณ์ขณะนี้อยากให้เป็นเครื่องเตือนใจผู้คนว่า กลุ่มผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ของรัฐ ล้วนเป็นพี่น้องกัน และเป็นคนไทยด้วยกัน ขอให้ใช้สันติวิธีช่วยกันขับไล่ความมืด ความทุกข์ ความพยาบาทให้หายไป
“การจุดเทียนเป็นเครื่องหมายความสว่างของสังคมและบ้านเมือง ขับไล่ความมืด ที่มาจากความโกรธ ความเกลียด อวิชชา ที่อยู่ในสังคมไทย เพื่อให้เห็นความเป็นพี่น้องและไม่ใช้ความรุนแรงเข้าหากันในการชุมนุม”
พระไพศาล กล่าวอีกว่า บ้านเมืองกำลังร้อนรุ่ม เราต้องช่วยรวมพลเพื่อเกิดให้เกิดสันติ รวมเป็นพลังแห่งเมตตา และส่งต่อความรักเป็นยังผู้คนในสังคม ช่วยเตือนสติ ว่าเราไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ตั้งมั่นอยู่ในกฎ กติกา ของสังคม เกิดความไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ปรารถนาให้บ้านเมือง ตั้งอยู่ในธรรมะ หมดซึ่งความโกรธ ความแค้นเคือง จะสามารถช่วยให้ชี้ถูกชี้ผิดได้ เพราะเราไม่สามารถที่จะดับไฟด้วยไฟได้ ไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ซึ่งมีแต่ธรรมะเท่านั้นที่จะช่วยยุติความรุนแรง รักษาศีลให้มั่นคง เพื่อแผ่ความสงบเย็น ปกคลุมสู่บ้านเมือง
ด้านนายวีระพงษ์ เกรียงสินยศ ตัวแทนจากกลุ่มประชาชนผู้ไม่เอาสงครามกลางเมือง กล่าวว่า ทางออกของสังคมไทยที่มีอยู่ข้างหน้า ปัญหาบ้านเมืองมีทางออกเสมอ ขอเพียงเราไม่เข่นฆ่ากัน อย่างที่เคยเกิดขึ้น ใน 14 ตุลาคม 2516 เหตุการณ์ หรือ 6 ตุลา 2519 หรือ พฤษภาคม 2535 คนไทยได้มีการเข่นฆ่า กันมามากแล้ว และขอภาวนาโดยการใช้เทียนช่วยเตือนสติทุกฝ่าย อย่าใช้ความรุนแรง เราต้องช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ ไม่ให้เกิดขึ้นมาอีก
“เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 5 ที่ผ่านมาตั้งแต่หลังเลือกตั้ง 23 ธันวาคม ส่วนครั้งแรกที่เกิดขึ้นจากพันธมิตรที่มีการปักหลักชุมนุมร้อยกว่าวัน ซึ่งมีการบุกยึดทำเนียบฯ ปิดรัฐสภา ยึดสนามบิน แต่ละครั้งรุนแรงทั้งสิ้น แต่เราผ่านมาได้ และเมื่อสงครามของคนเสื้อแดงที่ชุมนุมเรียกร้องกันในประเทศ เราก็ผ่านมาได้ เราเชื่อมั่นเหลือเกินว่า ถ้าผู้ที่รักสันติภาพได้รวมตัวกัน ช่วยเหลือกันเท่าที่ทำได้ วิกฤตการณ์ในครั้งนี้ของประเทศไทย ก็จะผ่านไปได้อย่างแน่นอน”
ขณะที่นายพัชรวีร์ พรหมวงศ์ ตัวแทนกลุ่มเยาวชนศึกษาสันติวิธี กล่าวถึงการจุดเทียนและการร่วมกันเขียนข้อความเพื่ออธิษฐานให้ประเทศใช้สันติวิธีว่า การมารวมตัวกันเพราะพวกเรามีความรัก ความคิดเห็นตรงกันในการไม่ใช้ความรุนแรง การมีสตินำไปสู่ปัญญา เรามีหน้าที่สร้างสติ แล้วจะเป็นทางออกที่ดี ซึ่งความคาดหวังที่มีในวันนี้ คือ การอยู่รอดของสังคมไทย และอยากเห็นทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกัน เชื่อว่า เราต้องก้าวไปข้างหน้าได้อยู่แล้วต้องพึ่งพา อดทนอดกลั้น ไม่รีบร้อน แล้วสังคมก็จะไม่พบกับวิกฤตการณ์ดังเช่นที่เคยผ่านมา ขอให้ถือเป็นบทเรียนแก่ประเทศไทย ได้เรียนรู้ว่าทุกการกระทำของเรา ต้องไม่เป็นเพียงการใช้อารมณ์ แต่ต้องเป็นไปอย่างถูกต้อง