ราษฎรอาวุโส วอนสังคมออกแรงหนุนแนวคิดสันติวิธี
ย้ำชัดสังคมไทยขณะนี้เป็นสังคมที่ขาดความเป็นธรรม ทั้งการเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ แหล่งน้ำ กฎหมาย การเงิน เชื่อหากลดช่องว่างนี้ลงได้ อย่าให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวย-คนจนเกิน 4 เท่า จะเป็นจุดสำคัญช่วยลดความขัดแย้ง
ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ให้สัมภาษณ์ในงานประชุมวิชาการระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 1 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ถึงวิธีลดปัญหาความขัดแย้งในประเทศว่า ขณะนี้สังคมไทยกำลังปฏิเสธความรุนแรง ถ้าหากใครพูดถึงความรุนแรง จะเสียความชอบธรรม สังคมจะไม่สนับสนุน พลังจะอ่อนลง วิธีที่ดีที่สุด คือ การใช้วิธีสันติวิธี ในการเจรจา เพราะสันติวิธีจะมีกำลังมากในการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ขณะที่ประชาชนเริ่มเบื่อหน่ายกับความรุนแรงและหันมาเลือกการใช้สันติวิธี ในการต่อสู้
“อย่ามามัวนั่งคิดว่า ทำไมต้องมีการประท้วง ทำไมต้องมีคนออกมาพูดให้ใช้สันติวิธี สันติอหิงสา การที่มีกลุ่มคนออกมาพูดเรื่องเช่นนี้ให้ถือว่าเป็นเรื่องดี ที่ต้องสนับสนุน ถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวของชนชั้นล่างให้เกิดขึ้นและสร้างความชอบธรรมในสังคม”
ราษฎรอาวุโส กล่าวว่า ถ้าในประเทศมีคนจนมาก ความแตกต่างในด้านชนชั้นก็จะเกิดขึ้นมากแล้วก็จะผลักดันให้เกิดความรุนแรง สำหรับในสังคมไทยยังเป็นสังคมที่ขาดความเป็นธรรม การเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ทั้งแหล่งน้ำ กฎหมาย การเงิน ยังขาดความชอบธรรมอยู่ ซึ่งหากลดช่องว่างในสังคมได้ จะเป็นจุดสำคัญที่จะลดความขัดแย้ง
“ความเป็นธรรม คนยังให้ความสนใจน้อย เราจึงควรที่จะให้ความสำคัญกับความเป็นธรรมด้านต่างๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม แล้วต้องตั้งเป้าหมายว่า ทรัพยากรที่เรามีนั้นสามารถสร้างความเป็นธรรมให้กับมนุษย์ทุกคนได้ ไม่ว่ารวยหรือจน จะมีพลังเท่ากัน แม้ว่าการสร้างความเป็นธรรมยังเป็นเรื่องยาก เพราะคนที่ได้เปรียบจะไม่ยอมเสียเปรียบ แต่ถ้าไม่ทำอะไร ก็จะนำไปสู่ความขัดแย้งความรุนแรง ดังนั้น เราต้องมีการปรับตัวใหม่ ช่วยสร้างความเป็นธรรมให้ได้”
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวถึงการทำให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นว่า จะต้องทำให้คนมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น สร้างความมั่นคงในชีวิต และไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจนเกิน 4 เท่า พร้อมกับยกตัวอย่าง อากาศหายใจ คนทุกคนมีสิทธิ์หายใจ ไม่มีใครมาสัมปทาน และที่ดิน ทุกคนสามารถทำกินได้ และสามารถประกอบอาชีพได้ ไม่แบ่งแยก คนยากจนต้องได้รับการส่งเสริมอาชีพ และสามารถดูแลตัวเองได้ คนที่รวยต้องยอมจ่ายภาษีในอัตราที่แพงกว่า เพื่อช่วยให้การขับเคลื่อนและพัฒนาไปด้วยกันทั้งประเทศ
“แม้บ้านเรายังติดโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรมอย่างแน่นหนา แต่ประชาชนก็มีตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น ทำให้สร้างพลังในการคิดและพูดคุยในสิ่งที่ตนเองต้องการ ถ้าหากภาครัฐยังคงจะใช้ความรุนแรง ไม่ใช้ความรู้ ไม่ใช้เหตุผลมาคุยกัน ยังต้องการการเอาชนะ ประเทศไทยก็จะพบกับความรุนแรงอย่างไม่จบสิ้น”