“สมัชชาคุณธรรม 53” ชูแนวคิดซื่อสัตย์-รับผิดชอบ-พอเพียง
ศูนย์คุณธรรมดึง 6 องค์กรร่วมจัดงาน “สมัชชาคุณธรรม” ปี 5 ย้ำพันธกิจร่วมสร้างปฏิญญาคุณธรรม-แผนงานคุณธรรม ก่อนยกร่างเสนอเป็นนโยบายระดับชาติต่อไป
วันนี้ (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมโอเคเอ็มดี อาคารดิออฟฟิศเศสแอทเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 17 กรุงเทพฯ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) สังกัดสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) ร่วมกับ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (OKMD),มหาวิทยาลัยนเรศวร,กรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและสร้างเสริมธรรมาภิบาล วุฒิสภา,องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (สสท.), ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, องค์กรด้านศาสนา และสถาบันไทยพัฒน์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การจัดงานสมัชชาคุณธรรมประจำปี 2553”
นพ.พลเดช ปิ่นประทีป ประธานกรรมการจัดงานสมัชชาคุณธรรมประจำปี 2553 กล่าวว่า จากงานสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติและตลาดนัดคุณธรรมปีที่ผ่านมาทำให้หลายหน่วยงานต้องการเห็นแนวทางปฏิบัติและการขับเคลื่อนสมัชชาอย่างต่อเนื่อง งานในปีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะในแนวคิดเรื่องความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ และความพอเพียงอย่างมีส่วนร่วมให้สอดคล้องกับสถานการณ์สังคมปัจจุบันและส่งเสริมการปลูกฝังคุณธรรมแก่สังคม
“เป้าหมายหลักของการจัดงานต้องทำให้เกิด 3 ภารกิจหลัก คือ 1.ปฏิญญาคุณธรรม 2.แผนงานส่งเสริมพัฒนาคุณธรรมที่ต้องทำร่วมกัน 3.กระตุ้นให้แต่ละกลุ่มเครือข่ายยกร่างเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสู่รัฐบาลหรือหน่วยงานต่างๆ ในระดับชาติที่จะนำเป็นนโยบายต่างๆ ต่อไป”
พลเรือเอกฐนิธ กิตติอำพน ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ กล่าวว่า OKMD เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องของคุณธรรม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีศักยภาพจะเกิดขึ้นไม่ได้หากขาดคุณธรรม ซึ่งองค์กรต่างๆ ควรมีความเข้มแข็งทั้งทางด้านคุณธรรมควบคู่กับความเจริญเติบโตทั้งเศรษฐกิจ รวมทั้งมีธรรมาภิบาล
“คุณธรรมเป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังคนไทยให้มีความเข้าใจ ทุกวันนี้เราค่อนข้างขาดหายเรื่องคุณธรรม ความซื่อสัตย์ โดยเฉพาะความรับผิดชอบซึ่งสำคัญมากสำหรับสังคมไทย ถ้าไม่ปลูกฝังเรื่องนี้แก่เด็กและเยาวชนในอนาคตคงลำบาก”
ด้านพล.ต.ต.เกริก กัลยาณมิตร รองประธาน กมธ.ศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและสร้างเสริมธรรมาภิบาล วุฒิสภา ในฐานะตัวแทนภาคการเมือง กล่าวถึงการสร้างคุณธรรมว่า จะได้ผลจริงๆ ต้องสร้างอุดมการณ์ตั้งแต่เด็ก แม้เป็นผู้ใหญ่แล้วก็สามารถสร้างสำนึกคุณธรรมได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับฐานของบุคคล ถ้าไม่สร้างสำนึกในคุณธรรมให้เกิดขึ้นบ้านเมืองก็จะแย่ ดังนั้นจะทำอย่างไรให้นักการเมือง ข้าราชการตระหนักในประโยชน์ส่วนรวมและสำนึกในแผ่นดิน เรื่องนี้ต้องผ่านกระบวนการอบรมการสร้างเสริมคุณธรรมและต้องทำให้เกิดบทลงโทษที่เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นคนในระดับใดก็ตาม
ส่วนนายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการ สสท. ตัวแทนสื่อสารมวลชน กล่าวว่า สื่อมวลชนจะต้องมีหน้าที่นำเสนอข่าวสารด้านดี เช่น เรื่องของคุณธรรมที่จะทำให้สังคมได้รับข่าวสารที่ดี แม้อาจจะยากที่จะได้รับความสนใจ แต่สื่อก็ควรพยายามปฏิบัติทำให้ทุกคนในสังคมตระหนักในเรื่องนี้ โดยต้องเริ่มจากสำนึกจากสิ่งเล็กๆ ใกล้ตัว พร้อมยกตัวอย่าง แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวโกงลูกชิ้นในชามเพียงเล็กน้อยก็ต้องทำให้ตระหนักว่า การโกงกันนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
“คุณธรรมต้องมีอยู่ในทุกส่วนของสังคมและในทุกระดับ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือจะทำอย่างไรให้สังคมไทยถกเถียงกันเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในทุกวัน แทนที่จะถกเถียงกันเพียงเรื่องร้ายๆ เราก็สามารถถกเถียงกันเรื่องความดีงามได้”นายเทพชัย กล่าว
สำหรับตัวแทนภาคการศึกษา รศ.สมบัติ นพรัก คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า อยากให้ทุกคนอย่าเพิ่งสิ้นหวังกับภาพการศึกษาไทยที่ถูกนำเสนออยู่ขณะนี้ จาก 3 หลักคิดของงานในปีนี้ที่ยึดความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ และความพอเพียงนั้น หากเด็กเยาวชนและทุกคนในสังคมไทยยึดในหลักการนี้ก็จะทำให้สังคมมีความเข้มแข็งมากขึ้น