นักวิชาการชี้ชาติ ตอ.จะยิ่งใหญ่บนเวทีโลก
รศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเราศึกษาโลกสมัยใหม่โดยยึดนิยามและแบบอย่างจากตะวันตกเป็นศูนย์กลางทำให้เข้าใจว่าตะวันตกเป็นผู้สร้างโลกสมัยใหม่ ส่งผลให้การพัฒนาประเทศในโลกตะวันออกเป็นการเลียนแบบและพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งที่ความเป็นจริงตามข้อมูลการสร้างโลกสมัยใหม่ มีสิ่งใหม่หลายอย่างที่ชาติตะวันออกเป็นผู้ริเริ่ม
นักวิชาการชื่อดัง กล่าวอีกว่า จากการวิจัยพบหลักฐานว่าตั้งแต่ค.ศ.๖๐๐-๑๕๐๐ ภูมิภาคตะวันออกนั้นเจริญก้าวหน้ากว่าและเป็นครูของตะวันตกมาโดยตลอดตามลำดับ และประเทศตะวันตกเริ่มก้าวหน้าเมื่อเข้าสู่คริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ เห็นได้ชัดจากหลักฐานสำคัญ เช่น ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมของจีนสมัยซ้องช่วงศตวรรษที่๑๑-๑๒ ที่มีเครื่องมือทางการเกษตร มีผานเหล็กใช้มากว่า ๒,๐๐๐ปีขณะที่อังกฤษเพิ่งมีกว่า ๓๐๐ ปี และจีนมีเครื่องมือปักดำใช้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ ๓ ก่อนคริสตกาล เครื่องจักรไอน้ำ ถ่านหิน เหล็กกล้า น้ำมัน และจีนก็มีปืนใหญ่ใช้ก่อนยุโรปกว่า ๕๐ ปี
อย่างไรก็ตามรศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ กล่าวอีกว่า จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาโลกตะวันออกเคยมีรายได้ ๒.๒ เท่าของตะวันตกในสมัยอยุธยา ต่อมาค.ศ.๑๘๓๐-๑๘๖๐ รายได้ลดลงกว่าตะวันตก ๑.๒๔ เท่า และในช่วงต้นสมัยร.๕ รายได้เหลือเพียง๑ ใน๓ ของโลก ซึ่งจีดีพีของจีนขณะนั้นเป็น ๒๙% ของโลกหรือเท่ากับจีดีพีของสหรัฐอเมริกาปัจจุบัน นอกจากนี้ชาติมุสลิมและอาหรับต่างเคยมีความเจริญรุ่งเรืองเช่นเดียวกับจีนปรากฏชัดเจนจากหลักฐานทางการค้าโลกตะวันออกกลาง ประวัติศาสตร์เส้นทางสายไหม การใช้ธนบัตรของจีนและอินเดียที่มีก่อนชาติตะวันตก และนครใหญ่ๆ ในโลกตะวันออกที่มีกำเนิดช้านานกว่าตะวันตก รวมถึงศิลปะ วัฒนธรรม ศาสนา และสถาปัตยกรรมอีกด้วย
“ในอนาคตประเทศทางโลกตะวันออกจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง หรือล้มชาติตะวันตกได้ เห็นได้จากเศรษฐกิจจีนปัจจุบันใหญ่เป็นอันดับสามของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น หรือผลกีฬาโอลิมปิกส์ที่จีนเป็นผู้นำ นักวิชาการมองว่าโลกตะวันออกกำลังฟื้นเส้นทางสายไหมอีกครั้ง วันนี้ลมตะวันออกกำลังพัดแรง ส่วนลมตะวันตกแผ่วเบาลง แล้วไทยจะทำอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้” อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าว
ขณะเดียวกันศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และประธานโครงการปฏิรูปประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันการศึกษาของไทยเป็นการศึกษาแบบตัดแปะ เรากำลังดูถูกตัวเองและกำลังยึดตามตะวันตก การศึกษาของเราเคารพแต่ความรู้ในตำรา และเราต้องเปลี่ยนความคิดกันใหม่ วันนี้มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ของไทยกำลังลอยตัวนอกสังคมไม่สนใจชุมชนและท้องถิ่น เอาวิชาการเป็นตัวตั้ง เราควรต้องปรับตรงจุดนี้อย่างมหาศาล
ด้านรศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า วันนี้ไม่ว่าประเทศไทยจะพัฒนาตามอย่างตะวันตกหรือจะดำรงความเป็นตะวันออกก็ตาม สิ่งที่เราควรเรียนรู้จากชาติตะวันตกคือ วิธีการปรับใช้ความคิดจากตะวันออกไปใช้จนกระทั่งประสบความสำเร็จ
ศ.ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด ผู้อำนวยการสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ กล่าวว่า ไทยต้องรู้เรียนรู้และประยุกต์จุดแข็งจากชาติตะวันตกนั่นคือความสามารถในวิธีการนำไปปฏิบัติใช้ได้จริง ขณะที่ชาติตะวันออกก็มีวิธีการคิดที่ถูกต้องและเหมาะสมสอดคล้องกับไทย เราต้องเข้าใจในความแตกต่างนี้และนำมาใช้ให้เหมาะสมกับสังคมไทย ซึ่งแนวทางที่จะเป็นไปได้คือ เราต้องปฏิรูประบบการศึกษา.