อดีตนายก สมาคมนักข่าวฯ ติงสื่อขาดความรับผิดชอบ
ชี้วิกฤตคนอ่านไม่เชื่อถือสื่อ จี้เร่งปรับคุณภาพทั้งข่าว-การวางตัว "กวี จงกิจถาวร" แนะเพิ่มศักยภาพรายงานข่าวในสถานการณ์ความขัดแย้ง จัดรอบรมสร้างองค์ความรู้ให้นักข่าว หน.ข่าว ตลอดจนบก. ฟื้นความเชื่อมั่น
เมื่อวันที่ 8 เมษายน นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นัดประชุมหารือร่วมกับคณะที่ปรึกษา และคณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าว ฯ ซึ่งประกอบด้วยอดีตนายกฯ และอดีตเลขาธิการ สมาคมนักข่าว ฯ ได้มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในปัจจุบันว่าขาดความรับผิดชอบ และมีปัญหาการรายงานข่าวในสถานการณ์ความขัดแย้ง พร้อมตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการวางตัวและการแต่งกายของนักข่าวว่าไม่เหมาะสม
นายวีระ ประทีปชัยกูร อดีตนายก สมาคมฯ กล่าวถึงการทำงานของสื่อมวลชนในปัจจุบันว่า มักจะรายงานข่าวโดยขาดความรับผิดชอบ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอย่างมาก การที่สื่อทำงานโดยไม่ได้รับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะข่าวที่ต้องอิงกับการเมืองและในสถานการณ์ที่บ้านเมืองมีการแบ่งสี แบ่งฝ่าย เลือกข้าง หากสื่อมวลชนไม่สามารถทำหน้าที่บนพื้นฐานของความรับผิดชอบ ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดซ้ำร้อยกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ดังนั้นองค์กรวิชาชีพสื่อจะต้องคิดว่าจะสามารถเข้าไปทำอะไรในเรื่องนี้ได้บ้าง
ด้านนายกวี จงกิจถาวร อดีตนายก สมาคมฯ กล่าวว่า นักข่าวไทยไม่มีปัญหาในการรายงานข่าวยามบ้านเมืองปกติ แต่จะมีปัญหาในการรายงานข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้ง ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องเพิ่มศักยภาพการรายงานข่าวในสถานการณ์ความขัดแย้ง จึงได้เสนอให้สมาคมนักข่าวฯ จัดทำโครงการอบรมอย่างต่อเนื่องในการสร้างองค์ความรู้ให้กับนักข่าว หัวหน้าข่าว ตลอดจนบรรณาธิการ ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดความมั่นใจแก่คนที่อ่านหนังสือพิมพ์
“ วิกฤตของโลกปัจจุบันคือคนอ่านไม่เชื่อถือสื่อ และคนอ่านรู้สึกว่า สื่อไม่เคยคุ้มครองประชาชน ดังนั้นสื่อจะต้องรับผิดชอบต่อคนอ่านด้วย รวมทั้งให้คนข้างนอกได้รู้เรื่องจริยธรรมและกระบวนการทำงานที่โปร่งใสจะได้ทำหน้าที่อย่างมีคุณภาพและสง่างาม “ นายกวี กล่าว
ส่วนนายมานิจ สุขสมจิตร อดีตนายก สมาคมฯ กล่าวว่า นักข่าวจะต้องมีเกียรติและเชื่อถือได้ ควรวางตัวให้เหมาะสมและมีสัมมาคารวะ การแต่งกายถือว่า มีส่วนสำคัญ แต่นักข่าวในปัจจุบันไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ต่างจากนักข่าวในอดีต
ขณะที่ นายเรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์ กรรมการควบคุมจริยธรรม สมาคมนักข่าว ฯ กล่าวว่า ควรเชิญผู้บริหารของแต่ละองค์กรสื่อเข้ามาหารือเพื่อขอให้แต่ละองค์กรช่วยดูแลเรื่องการวางตัวและการแต่งกายของผู้สื่อข่าวและช่างภาพที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ภาคสนาม ตัวอย่างเช่น ทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาจะเห็นนักข่าวแต่งกายไม่เรียบร้อย สวมเสื้อยืด การเกงยีนส์เข้าไปทำงาน จึงเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม ขอให้เป็นหน้าที่ของสมาคมนักข่าวฯ ที่จะต้องเข้าไปดูแลในเรื่องนี้
“ สถานที่ราชการหลายแห่งเห็นว่า นักข่าวแต่งกายไม่เหมาะสม การที่เจ้าของสถานที่ไม่ว่าอะไร เพราะไม่อยากมีปัญหากับนักข่าว เพราะกลัว นักข่าวมีปากกาอยู่ในมือ จะไปเขียนหรือทำให้เขาเสียหายได้“ นายเรืองชัย กล่าว
สำหรับนายพรชัย ปุณณวัฒนาพร เลขาธิการ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เสนอให้มีการรณรงค์เรื่องการแต่งกายและการวางตัวของนักข่าวให้เหมาะสม เชิญผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำเป็นการพัฒนาบุคลิกภาพของนักข่าว เพราะหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ผู้บริหารจะให้ความสำคัญและกำชับให้นักข่าวต้องแต่งกายเรียบร้อยเมื่อไปปฏิบัติหน้าที่ด้วย
สำหรับที่ปรึกษาสมาคมนักข่าวฯ ซึ่งเป็นอดีตนายก และอดีตเลขาธิการ สมาคมนักข่าว ฯ ที่เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วยสำหรับ นายมานิจ สุขสมจิตร นายกวี จงกิจถาวร นายบัณฑิต รัชวัฒนะธานินทร์ นายสมาน สุดโต นายวีระ ประทีปชัยกูร นางสาวนาตยา เชษฐโชติรส นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ นายดำฤทธิ์ วิริยะกุล นายบุตรดา ศรีเลิศชัย นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ นายวีระศักดิ์ พงศ์อักษร นายพรชัย ปุณวัฒนาพร เลขาธิการ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติและนายเรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์ กรรมการควบคุมจริยธรรม สมาคมฯ