นพ.สมศักดิ์เผยต้นปีจัด ‘สมัชชาแห่งชาติ’ สร้างฉันทามติสู่การปฏิรูป
ระดมความคิดสื่อภาคกลาง-ตะวันออก เสนอทำข้อมูลข่าวสารกลางในการเผยแพร่ แก้ปัญหาสื่อแบ่งฝ่าย ด้าน สปร. เตรียมจัด เวทีย่อย ก.พ.54 ระดมความเห็นจากทุกภาคส่วนเข้าสู่ ‘สมัชชาแห่งชาติ’
วันที่ 18 ธันวาคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในฐานะองค์กรเลขานุการของคณะกรรมการสื่อสารเพื่อการปฏิรูป ร่วมกับองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ได้แก่ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย จัดประชุมรับฟังความคิดเห็น โดยเปิดเวทีสาธารณะ “สื่อมวลชนกับการปฏิรูปประเทศไทย” (ภาคกลาง) ณ โรงแรม พักพิง อิงทาง บูติค โฮเทล อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อกำหนดทิศทาง และระดมความคิดเห็นสื่อมวลชนภาคกลาง-ภาคตะวันออกในการปฏิรูปประเทศ
โดยมีนายมานิจ สุขสมจิตร ประธานคณะกรรมการสื่อสารเพื่อการปฏิรูป นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ คณะทำงานวิชาการ คณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป และรศ.ดร.วิลาสินี อดุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักรณรงค์และสื่อสารสาธารณะเพื่อสังคม (สสส.) และเลขานุการคณะกรรมการสื่อสารเพื่อการปฏิรูป (คสป.) ร่วมอภิปราย
นายมานิจ กล่าวถึง “ทิศทางและประเด็นสำคัญของการปฏิรูปประเทศ” ว่า สื่อท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญในการสอดแทรกความรู้ให้กับประชาชน ในด้านปัจจัยเชิงโครงสร้างของการปฏิรูป เพราะสื่อท้องถิ่นเป็นคนในพื้นที่จะมองเห็นภาพความเหลื่อมล้ำในส่วนท้องถิ่นเกี่ยวกับประเด็นเชิงโครงสร้างได้ง่ายกว่าว่ามีอะไรบ้าง
ด้านนพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้สื่อท้องถิ่นเปรียบเหมือนสื่อเชิงรับที่พร้อมเข้าร่วมกระบวนการปฏิรูปประเทศ เพียงแต่รอข้อมูลจากทีมปฏิรูปไปเผยแพร่ต่อ แต่สื่อท้องถิ่นยังสามารถเป็นสื่อเชิงรุกได้ด้วยการจับประเด็น และช่วยกันสื่อให้ประชาชนเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างของประเทศที่จะต้องปฏิรูป
“เราน่าจะสร้างทีมร่วมกัน สื่อท้องถิ่นจะมองเห็นประเด็น และเรื่องราวในแต่ละท้องที่ อันจะนำไปสู่กระบวนการปฏิรูปได้ง่าย นักวิชาการในท้องถิ่นก็ควรร่วมมือกันกับสื่อผนึกกำลังสร้างเป็นเครือข่ายในแต่ละภาค ชูประเด็นปัญหาในท้องถิ่นที่สำคัญๆ มานำเสนอ โดยต้องปรับความคิดก่อนว่าทุกวันนี้สื่อไม่ได้มีหน้าที่นำเสนอเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีบทบาทในการร่วมแก้ปัญหาให้สังคมด้วย”
นพ.สมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ทางสำนักงานปฏิรูป (สปร.) จะจัด ‘สมัชชาแห่งชาติครั้งที่ 1’ ขึ้นในเดือนมีนาคม ปี 2554 เพื่อเป็นเวทีให้ภาคประชาชน หรือฝ่ายที่ไม่มีอำนาจมาเจอกับฝ่ายที่มีอำนาจ เสมือนเป็นเวทีขมวดรวมความคิดเห็นที่จากนี้ไปจะมีการระดมในทุกภาคส่วนมารวมกัน และสร้างเป็นฉันทามติเพื่อให้เกิดรูปธรรม และนำไปปฏิบัติได้จริงในการปฏิรูปประเทศไทย
“เราจะเชิญทุกภาคส่วนทั้งประชาชน สื่อมวลชน นักการเมือง นักวิชาการ และนักวิชาชีพ เพื่อระดมความคิดเห็นในทุกประเด็น เช่นในเดือนกุมภาพันธ์ จะมีการจัดเวทีระดมความคิดเห็นเรื่องปัญหาที่ดินทำกิน และที่ดินทับซ้อน เพื่อรวบรวมความคิดเห็นทุกประเด็นเข้าสู่เวทีสมัชชาแห่งชาติที่จะหาฉันทามติร่วมกัน”
ด้านสื่อท้องถิ่นภาคกลางและภาควันออก มีข้อเสนอว่า ทุกวันนี้สื่อวางตัวลำบาก ในสถานการณ์ความไม่สงบของบ้านเมือง จึงเสนอให้มีจุดตรงกลางของข้อมูลข่าวสารเพื่อใช้ในการนำเสนอ แต่ยืนยันว่าพร้อมที่จะร่วมมือในการะผลิตเนื้อหาเพื่อให้สอดรับกับการปฏิรูป แต่ขอให้องค์กรศูนย์กลางเข้ามาช่วยเหลือด้านการผลิตเนื้อหาข้อมูลด้วย ส่วนนักวิชาการ เสนอการปรับการเรียนการสอนเพื่อการปฏิรูปประเทศที่ต้องเปลี่ยนวิธีคิดว่าทุกวันนี้แหล่งข่าวที่สำคัญจริงๆ คือชาวบ้าน ไม่ใช่ผู้บริหารอีกต่อไป