นพ.ประเวศชี้สื่อใหม่สร้างพลังปฏิรูปประเทศได้
‘ประธานสมัชชาปฏิรูป’ จับมือสื่ออีสานเปิดเวทีสนทนาปฏิรูปประเทศไทย ชี้สื่อใหม่สร้างพลังปฏิรูปประเทศได้ ด้านสื่อภาคอีสานเห็นพ้องเปิดพื้นที่ให้สื่อท้องถิ่นอย่างเสรี แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกติกาที่กำหนด ขณะที่ ผอ.สปร. แนะสื่อรวมตัวเข้าไปมีส่วนร่วมทำประชาพิจารณ์ กสทช.
วันที่ 27 พฤศจิกายน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในฐานะองค์กรเลขานุการของคณะกรรมการสื่อสารเพื่อการปฏิรูป ร่วมกับองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ได้แก่ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย จัดประชุมรับฟังความคิดเห็น โดยเปิดเวทีสาธารณะ “สื่อมวลชนกับการปฏิรูปประเทศไทย” (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ณ โรงแรมเจริญโฮเต็ล จังหวัดอุดรธานี โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป กล่าวปาฐกถาเรื่อง “สื่อมวลชนกับการมีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศไทย” ตอนหนึ่งว่า สื่อใหม่ในสังคมโลกไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊คหรือทวิตเตอร์ จะมีส่วนช่วยในการสร้างพลังทางสังคมได้อย่างมาก เพราะเป็นกระบวนการสื่อสารที่รวดเร็ว เข้าถึงผู้รับสารได้อย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ผู้ส่งสารไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชนหรือประชาชนธรรมดาจะต้องมีวิจารณญาณในส่งสารด้วยเช่นกัน
ศ.นพ. ประเวศ กล่าวว่า วิทยุชุมชนเป็นเครื่องมือที่มีพลังในการขับเคลื่อนประชาชนสูง เพราะชุมชนสามารถสื่อสาร ร้องทุกข์ได้อย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกันประเทศนี้ เมื่อภาคประชาชนอยากทำดีกลับต้องขออนุญาตกระบวนการทางกฏหมาย ทำไมไม่ใช้ข้อกฏหมายมาจับจ้องเมื่อมีการทำผิดแทน ซึ่งถือเป็นตลกร้ายของประเทศไทย
“วิทยุชุมชนเป็นเครื่องมือปฏิวัติประชาธิปไตยอย่างหนึ่ง ทุกวันนี้กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกับชาวบ้านที่ถูกไล่รื้อที่ดิน เพราะองค์กรเหล่านี้อยู่มาก่อนที่ตัวบทกฏหมายอย่างร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) จะออกมาเสียอีก แต่สุดท้ายก็โดนข้อจำกัดหลายประการ จนกลายเป็นว่าพวกเขาผิดกฏหมาย” ศ.นพ. ประเวศ กล่าว
ขณะที่ว่าที่ร้อยโทอิศเรศนุชิต จันทร์ศรี บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ร่วมช่วยด้วยใจ จ.อุดรธานี กล่าวว่า การที่จะปฏิรูปประเทศได้ ต้องเริ่มจากให้คนมีความรู้ เมื่อคนมีความรู้ก็จะเกิดการสร้างงานสร้างอาชีพ การทำให้วิทยุชมชน 8,000 สถานีถูกต้องตามกฏหมาย จะช่วยทำให้คนไทยประมาณ 320,000 คน มีงานทำโดยที่รัฐไม่ต้องลงทุนงบประมาณใดๆ ถือเป็นการปฏิรูปประเทศทางอ้อม เพราะเมื่อคนมีอาชีพที่มั่นคงจะก่อให้เกิดที่อยู่อาศัยมั่นคง สุขภาพที่ดี แนวคิดที่ดี ฯลฯ ซึ่งส่งผลให้ภาพการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้นตามไปด้วย
“หากรัฐจริงใจในการปฏิรูปประเทศอย่างแท้จริง รัฐต้องมองว่าจะทำให้คนมีความมั่นคงทางด้านอาชีพอย่างไร โดยเฉพาะวิทยุชุมชน ทำอย่างไรให้ไม่ต้องประมูลคลื่นสัญญาณแข่งกัน เพราะภาคประชาชนไม่มีแรงพอที่จะไปต่อสู้กับนายทุน หากสามารถเปิดวิทยุชุมชนได้อย่างอิสระเสรี จะทำให้คนมีงาน ซึ่งทำให้ประเทศมีความแข็งแรงมั่นคงยิ่งขึ้น” ว่าที่ร้อยโทอิศเรศนุชิต กล่าว
นายสุนทร จันทร์รังสี รองประธานกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติคนที่ 1 และกรรมการที่ปรึกษาเครือข่ายหนังสือพิมพ์ภาคอีสาน กล่าวว่า นอกจากสร้างการศึกษาและสัมมาอาชีพที่มั่นคงแล้วนั้น สิ่งที่ควรจะมาก่อนคือการสร้างจิตสำนึกและคุณภาพชีวิตของคนให้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน ทุกวันนี้แม้จะมีคนว่างงาน แต่ก็มีงานอีกมากมายที่ว่างคนทำเช่นกัน ในกรณีของวิทยุชุมเห็นด้วยกับการเปิดให้กระทำได้อย่างเสรี อย่างไรก็ตามจะต้องมีกรอบกติกาเข้ามากำหนด มาทำความเข้าใจ เพื่อไม่ให้วิทยุชุมชนเข้าไปล้ำเส้นหรือละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น
ทั้งนี้ ดร.วณี ปิ่นประทีป ผอ.สำนักงานปฏิรูป กล่าวว่า ในขณะที่กฏหมายของ พรบ.กสทช. ยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ในกระบวนการสรรหากินเวลาถึง 8 เดือน เครือข่ายวิทยุชุมชนทั่วประเทศควรจับมือผนึกกำลังกันหาหนทางเพื่อเข้าสู่กระบวนการสรรหาให้ได้ เพื่อให้เกิดประชาพิจารณ์ ให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศด้านการสื่อสาร ทั้งนี้หากต้องการปฏิรูปประเทศ สื่อท้องถิ่นต้องเปิดพื้นที่ให้กับคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเข้ามาร้องเรียนด้วยเช่นกัน เพื่อขจัดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในสังคม
นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ ประธานคณะทำงานวิชาการ คณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป กล่าวปิดท้ายว่า การปฏิรูปสื่อจะสำเร็จหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับประชาชนซึ่งต้องเป็นกลไกในการขับเคลื่อนสังคม ชุมชนต้องเรียนรู้เพื่อที่จะเท่าทันสังคม จะทำให้เกิดการสร้างชีวิตที่ดีขึ้น หากทำให้ชุมชนเข้มแข็ง มีความรู้สึกเป็นเจ้าของพื้นที่นั้นๆ ก็ต้องสร้างกติกาให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างชุมชนกับราชการท้องถิ่น ซึ่งนำมาสู่การใช้อำนาจควบคู่กัน ตรงนี้สื่อมวลชนมีความสำคัญมาก ไม่ใช่แค่สื่อส่วนกลาง แต่สื่อท้องถิ่นก็มีพลังในการขับเคลื่อนเช่นกันิ อันจะก่อให้เกิดการปฏิรูปทั้งแนวราบและแนวดิ่งควบคู่ไปพร้อมกัน