“หมอประเวศ” ชู 8 แนวทาง สื่อมวลชนพาชาติออกจากวิกฤติ
ประธานสมัชชาปฏิรูปประเทศไทย ชี้วันนี้สื่อส่วนใหญ่ถูกใช้เพื่อการบริโภคและการบริภาษทำให้ความรู้สึกนึกคิดผู้คนในสังคมแตกเป็นเสี่ยงๆ เชื่อใช้สื่อให้ดีๆ จะเกิดพลังเปลี่ยนแปลงสังคมได้
วันนี้ (1 ก.ค.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเสวนาโต๊ะกลมปฏิรูปโทรทัศน์เพื่อปฏิรูปประเทศไทย ณ โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส กรุงเทพฯ โดยในช่วงเช้ามีบรรยายพิเศษ เรื่อง “โทรทัศน์ต้องช่วยกันปฏิรูปประเทศไทยให้น่าอยู่ที่สุดในโลก” โดยศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ในฐานะประธานสมัชชาปฏิรูปประเทศไทย
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า สื่อส่วนใหญ่ในวันนี้ถูกใช้เพื่อการบริโภคและการบริภาษทำให้ความรู้สึกนึกคิดผู้คนในสังคมแตกเป็นเสี่ยงๆ ถ้าเราใช้สื่อให้ดีๆ จะเกิดพลังเปลี่ยนแปลงสังคมได้ ตนไม่มีความรู้เรื่องสื่อ แต่มีความเชื่อว่าสื่อสามารถเป็นพลังทางปัญญาในการพาชาติออกจากวิกฤติได้
สำหรับแนวทางที่สื่อมวลชนสามารถทำได้ในการพาชาติออกจากวิกฤติ ประธานสมัชชาปฏิรูปฯ กล่าวว่า มี 8 แนวทาง คือ 1.สื่อสามารถร่วมกันช่วยสร้างจิตสำนึกใหม่ให้คนไทยได้ 2.คณะนิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์สื่อสารมวลชนควรให้นักศึกษาร่วมช่วยทำเรตติ้งสื่อเพื่อสะท้อนปัญหา 3.เสนอกระบวนการสามเส้า โดยสื่อ นักวิชาการ และภาคสังคม ต้องเรียนรู้ปฏิบัติการร่วมกัน (Interactive Learning to action) เพื่อให้เกิดความเชื่อใจกัน ซึ่งตอนนี้เราขาดความเชื่อใจกัน 4.มหาวิทยาลัยต้องร่วมกันช่วยหนุน ให้ทุนนักข่าวให้ได้เรียนต่อและให้ได้พัฒนาตนให้เก่งมีความรู้ อย่างน้อย 1,000 คน ซึ่งนักข่าวจะเป็นคนสำคัญในการเชื่อมโยงความรู้ให้คนในสังคม 5.ดึงภาคธุรกิจมาร่วมกันช่วยหนุนการสื่อสารที่ดีเพื่อสังคม 6.องค์กรสื่อทีวีไทยควรปรับตัวเป็นองค์กรการสื่อสารเพื่อการเรียนรู้ครบวงจรให้สังคม 7.ให้มีคณะทำงานศึกษาเรื่องสร้างการสื่อสารที่สร้างสรรค์ และ8.ควรตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาระบบการสื่อสารครบวงจร อาจเป็นสวรส.ภาคการสื่อสาร
“การสื่อสาร ต้องทำให้คนไทยเกิดจิตสำนึกใช้เหตุผลพิจารณา ไม่เช่นนั้นคนไทยทุกคนจะตกเป็นเหยื่อของการบริโภคความขัดแย้งต่างๆ ความจริงซับซ้อน” ศ.นพ.ประเวศ กล่าว และว่า วันนี้เป็นมายาคติที่ทำอย่างไรจะเข้าใจสื่อ ต้องพัฒนา ต้องส่งเสริมการทำข่าวเชิงสืบสวน ส่งเสริมและพัฒนานักข่าว ขณะเดียวกัน การสื่อสารต้องใช้หลักวจีสุจริต พูดเป็นปิยวาจา , พูดถูกกาลเทศะ ใช้จังหวะ , พูดแล้วเกิดประโยชน์ พูดแล้วเกิดโทษก็ไม่ควร
ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงเหตุการณ์วิกฤตที่ผ่านมาทำให้คนไทยล้มตายจำนวนมากนั้น สื่อต้องช่วยป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก สื่อต้องเกิดจิตสำนึก การใช้อำนาจไม่ได้ผล เพราะไม่มีใครบังคับใครได้ ต้องใช้กระบวนการเรียนรู้พร้อมกัน ระหว่าง สื่อ สังคม วิชาการ
ส่วนการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย ราษฎรอาวุโส กล่าวว่า ควรให้ทำพร้อมกัน 10 เรื่อง คือ การสร้างจิตสำนึกใหม่คนไทย, สร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่,ทำให้ชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง, สร้างระบบการศึกษาที่พาชาติออกจากวิกฤต, สร้างธรรมาภิบาลการเมืองการปกครอง,สร้างระบบสวัสดิการสังคมที่ก้าวหน้า, สร้างดุลยภาพสิ่งแวดล้อมและพลังงาน, ปฏิรูประบบสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล,ทำการวิจัยยุทธศาสตร์ชาติ และทำระบบการสื่อสารที่ผสานการพัฒนาทั้งหมด
“เรื่องปฏิรูปไม่ได้ยากอย่างที่คิด ขณะนี้คนไทยต้องการการปฏิรูป เป็นกลไกสร้างความเป็นธรรม ไม่ควรนำไปปนกันกับเรื่องปรองดอง มิฉะนั้นจะคิดไม่ออก ปรองดองเป็นเรื่องอดีต แต่ปฏิรูปเป็นเรื่องการคิดใหม่ เมื่อหลายคนถามว่า ปรองดองไม่ได้จะปฏิรูปได้อย่างไร ก็อย่านำมาปนกัน อยากเชิญชวนให้คนไทย ทุกภาคส่วนเข้ามาจับประเด็นทางการเมือง สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลี่ยมล้ำ ของคนทั้งหมด ส่วนจะเสนอมาตรการอย่างไร ชาวบ้านทุกจังหวัด มหาวิทยาลัย ผู้ใช้แรงงาน ต้องมาร่วมกันจึงจะมีพลังขับเคลื่อน"
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวด้วยว่า ทุกปัญหาถ้าใช้อำนาจแก้ก็จะออกจาก ปัญหาไม่ได้ ยิ่งใช้อำนาจยิ่งเกิดปัญหา ต้องเปิดพื้นที่ทางปัญญาให้สังคมร่วมแก้ เชื่อว่าประเทศไทยมีทรัพยากรจำนวนมากที่สามารถสร้างสังคมที่คนไทยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยผ่านเวทีประชุมปฏิรูปประเทศไทยที่ทำมากว่า 2 ปีแล้ว ที่สมาชิกเครือข่ายสถาบันทางปัญญา ไม่ได้มีเพียงแค่หมอ หากมีนักวิชาการหลายสาขาร่วมขับเคลื่อนด้วย