คณะกรรมการ สสส.เห็นชอบมาตรการพัฒนาสื่อออนไลน์เพื่อการเรียนรู้
วันนี้ (19 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพครั้งที่ 2/2553 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาการพัฒนาแผนงานลดปัญหาจากการพนัน โดยมีมติเห็นชอบในการดำเนินยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาจากการพนัน 4 ด้านที่สำคัญคือ 1. การพัฒนานโยบายเพื่อลดปัญหาจากการพนัน 2. การรณรงค์เพื่อปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ส่งเสริมการพนัน 3. การทำงานเชิงพื้นที่ และ 4. การพัฒนากลไกการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาจากการพนันในระดับชาติ
ทั้งนี้สถานการณ์การพนันในประเทศไทย จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า มีผู้ใหญ่ถึง 70% เล่นการพนันเป็นประจำ โดยมีมูลค่าในการใช้เงินเพื่อการพนันถึง 360,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกิจการที่ผิดกฎหมาย ในจำนวนนี้พบว่า หวยใต้ดิน การพนันฟุตบอล และบ่อนคาสิโน มีสัดส่วน 2 ใน 3 ของมูลค่าการพนันทั้งหมด หรือคิดเป็น 4-8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ
และจากรายงานของสถาบันรามจิตติ พบว่า ในช่วงที่มีการเปิดหวยบนดินระหว่างปี 2548-2549 พบว่า เยาวชนประถมศึกษามีพฤติกรรมการซื้อหวยบนดิน 7% และลดลงเหลือ 3% ในปี 2552 เช่นเดียวกับกลุ่มมัธยมศึกษาตอนต้น จาก 12% ลดลงเหลือ 7% และอุดมศึกษา จาก 27% เหลือ 22% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการพนันในกลุ่มเยาวชนของสถาบันรามจิตติคือ การเล่นพนันฟุตบอลของเด็กและเยาวชน ปี 2550-2552 พบว่า มีเยาวชนในระดับประถมศึกษาที่เล่นการพนันบอลถึง 4% โดยเยาวชนในระดับอุดมศึกษา เป็นกลุ่มที่มีการเล่นการพนันสูงสุดถึง 17% ผลกระทบจากการพนันก่อให้เกิดการติดพนันของเยาวชน มีทั้งการโดดเรียนเพื่อหนีหนี้พนัน การลักขโมย การขู่กรรโชกทรัพย์ การถูกทำร้ายร่างกาย รวมถึงการค้าประเวณีเพื่อใช้หนี้ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางการดำเนินงานเรื่องสื่อออนไลน์กับเด็กและเยาวชน โดยจากผลสำรวจของเอแบคโพลล์ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 พบว่า พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของเยาวชน เฉลี่ย 3.14 ชั่วโมง/วัน รองจากพฤติกรรมการดูโทรทัศน์เฉลี่ย 5.7 ชั่วโมง/วัน และยังพบว่า เยาวชนไทยอายุต่ำกว่า 20 ปี ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านเฟชบุ๊ค สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ถึง 600,000 คน รองจากประเทศโปรแลนด์ และมีพฤติกรรมการใช้ทวิตเตอร์มากเป็นอันดับ 7 ของเอเชีย อย่างไรก็ตามผลการสำรวจของเอแบคโพลล์ถึงพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเยาวชน 3 อันดับแรก พบว่า อันดับ 1. คือ การใช้งานเพื่อค้นหาข้อมูล เช่น google มากที่สุดสูงถึง 87% ตามด้วยการเล่นเกม 67% และการสนทนา 66%
จากพฤติกรรมการใช้งานทางอินเทอร์เน็ตของเยาวชนดังกล่าวเห็นได้ว่าที่มีทิศทางที่ดีขึ้น จึงได้ดำเนินมาตรการพัฒนาสื่อออนไลน์เพื่อการเรียนรู้ พร้อมกับการปรับหลักสูตรไอซีทีเพื่อพัฒนาสื่อการเรียนการสอนในพื้นที่นำร่อง 2,000 แห่ง ขยายเครือข่ายสังคมออนไลน์ด้านการศึกษาและจิตสาธารณะ การสร้างทักษะรู้เท่าทันสื่อออนไลน์ โดยการจัดตั้งศูนย์ hot line เว็บเสี่ยง ผ่าน "นักสืบไซเบอร์"เพื่อให้เยาวชนร่วมเป็นอาสาสมัครเฝ้าระวังเว็บไซด์ที่ไม่เหมาะสมร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม การสนับสนุนร้านเกมส์สีขาว 3,000 แห่ง และการขยายพื้นที่สื่อออนไลน์สร้างสรรค์ ผ่านการจัดประกวด สื่อดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ
อีกทั้งที่ประชุมเห็นชอบแผนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน มีระยะเวลาดำเนินงาน 2 ปี 6 เดือน ภายในวงเงินโดยรวมประมาณ 87 ล้านบาท โดยคาดว่าแรงงาน 137,500 คน สามารถเข้าถึงสิทธิและบริการเพื่อสุขภาวะที่ดี เช่น การเข้าถึงประกันสังคม การดูแลด้านอาชีวอนามัย และกลุ่มแรงงานในระบบหลังพ้นวัยเกษียนการทำงาน 9 ล้านคน สามารถเข้าถึงหลักประกันสังคม รวมทั้งเกษตรกรพันธสัญญามีกลไกการจัดการและควบคุมความเสี่ยงอันเนื่องจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรม