สุเทพเปิดข้อเสนอกก.ปฏิรูปตำรวจชุด “วสิษฐ”
เผยนายกฯอภิสิทธิ์ ส่งไม้ต่อให้รับผลการศึกษาของคณะกรรมการปฏิรูประบบตำรวจไปดำเนินการ เพื่อให้การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจเป็นไปด้วยความโปร่งใส สะท้อนหลักคุณธรรม จริยธรรม ขณะที่ กมธ. ยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา เตรียมส่งรายงานปฏิรูประบบงานตำรวจ ให้นายกฯ พิจารณาต่อ
วานนี้ (29 ก.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน กล่าวภายหลัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เชิญให้เข้าพบหารือ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ขณะนี้ทางพล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ประธานคณะกรรมการปฏิรูประบบตำรวจ ได้จัดทำรายงานผลการศึกษาเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว จึงได้เชิญตนและพล.ต.อ.ปทีปมาพบ และได้มีคำสั่งให้รับผลการศึกษาของพล.ต.อ.วสิษฐ ไปดำเนินการต่อไป
นายสุเทพ กล่าวถึงข้อเสนอดังกล่าวเป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจเป็นไปด้วยความโปร่งใส สะท้อนหลักคุณธรรม จริยธรรม กำลังพลมีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่
สำหรับข้อเสนอของพ.ต.อ.วสิษฐ คือ 1. ขอให้เพิ่มสัดส่วนของผู้อาวุโสที่สำรวจว่าได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น โดยระบุว่ากฎของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับสารวัตรถึงจเรตำรวจแห่งชาติและรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) พ.ศ. 2549 ข้อ 33 ที่กำหนดว่าจะต้องให้มีการแต่งตั้งเรียงตามลำดับอาวุโสจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของจำนวนตำแหน่งที่ว่างลง แต่ผลการศึกษาของพล.ต.อ.วสิษฐ เสนอให้เพิ่มสัดส่วนขึ้นอีกเป็นไม่น้อยกว่าร้อยละ 33
2. การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติครบในปีแรกนั้น ต้องการให้มีการจัดทำประวัติและผลงานดีเด่นของผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งหรือเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น โดยประกาศให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดได้รับทราบ เพื่อให้ได้รับทราบข้อมูลการแต่งตั้งไม่ใช่ว่ามุบมิบแต่งตั้งและได้รับการแต่งตั้งเร็วกว่าคนอื่น แต่ต้องบอกว่าคนนั้นมีความสามารถอย่างไร
และ 3.ในการแต่งตั้งโยกย้ายทุกครั้งต้องมีการทำบัญชีรายชื่อที่เหมาะสมที่จะเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นในระดับกองบังคับการ ซึ่งทางพ.ต.อ.วสิษฐ ได้เสนอให้นำบัญชีที่กองบังคับการทำไว้นำมาติดประกาศให้ข้าราชการตำรวจได้รับทราบล่วงหน้าเผื่อจะมีการทักท้วงหรือขอแก้ไข หากมีการแต่งตั้งข้ามอาวุโสจะต้องมีการอธิบายเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจนว่ามีเหตุผลอะไร
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เมื่อตนได้รับข้อเสนอดังกล่าวแล้วจะนัดหมายประชุมก.ตร.ในสัปดาห์หน้า คาดว่าคงไม่เกินวันที่ 10 สิงหาคมนี้ หาก ก.ตร.ให้ความเห็นชอบแล้วตนก็จะประกาศให้ทุกหน่วยในสำนักงานตำรวจแห่งชาติปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน ทั้งนี้ทางพล.ต.อ. วสิษฐ เห็นว่า หากการแต่งตั้งโยกย้ายเป็นไปด้วยความโปร่งใสและเข้าใจได้ก็จะทำให้ขวัญและกำลังใจของข้าราชการตำรวจดีขึ้น
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ทางคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา เตรียมส่งรายงานปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและการบริหารงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปรับปรุงการทำงานและการบริหารงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยกรรมาธิการฯ ได้มีข้อเสนอแนะ ให้เร่งปฏิรูประบบงานตำรวจ ที่เน้นการตัดโอนอัตราข้าราชการตำรวจระดับชั้นประทวนหรือระดับที่เป็นผู้ปฏิบัติการจากหน่วยงานหนึ่งไปอีกหน่วยงานหนึ่งในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างปริมาณงานและอัตรากำลังพลต่อไป