เผยผลสำรวจสนง.สถิติฯ พบคนไทยส่วนใหญ่คิดตัวเอง"จน"ลง
"สาทิตย์" เผยสำนักงานสถิติแห่งชาติสำรวจความคิดเห็นประชาชนกว่าแสนคน 12 อาชีพ ระหว่าง 16 - 24 มิ.ย. ด้านชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัว พบเดือดร้อนอันดับแรก ปัญหาสุขภาพ รองลงมา ปัญหาความคิดเห็นในครอบครัวที่ไม่ตรงกัน เล็งนำข้อมูลส่งคณะกก.ชุดต่างๆ ก่อนจัดทำพิมพ์เขียว
วันนี้ (15 ก.ค.) เวลา 13.30 น. ที่ ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางสำนักงานสถิติแห่งชาติได้รายงานผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบแล้ว โดยได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศจำนวน 100,920 ตัวอย่าง 12 กลุ่มอาชีพ ระหว่างวันที่ 16 - 24 มิถุนายน 2553 ทั้งนี้ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนในลักษณะความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนด้วยการตอบคำสัมภาษณ์ไม่ใช่ตอบแบบสอบถาม พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองยากจนลง ส่วนคำถามความเป็นอยู่ของประชาชน 6 หัวข้ออาทิ ด้านชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัว พบว่าประชาชนเดือดร้อนเป็นอันดับแรกคือปัญหาสุขภาพ รองลงมาคือปัญหาความคิดเห็นในครอบครัวที่ไม่ตรงกัน และความเดือดร้อนที่เกี่ยวกับการต้องเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัวหลายคน ส่วนปัญหาความเดือดร้อนในด้านอื่น ๆ พบว่า อันดับหนึ่งคือ ปัญหาพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนที่ไม่เหมาะสม รองลงมาคือความขัดแย้งทางการเมือง
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการสำรวจยังพบว่า ประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาอันดับหนึ่งคือ การควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็น รองลงมาคือ มาตรการครองชีพและสวัสดิการด้านการครองชีพ สวัสดิการรักษาพยาบาล ปัญหายาเสพติดและการปลุกจิตสำนึกคุณธรรมจริยธรรมนักการเมือง นอกจากนั้นผลการสำรวจยังระบุว่า ประชาชนรับรู้นโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุกว่า 90% รองลงมาคือเบี้ยยังชีพคนพิการ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เรียนฟรี 15 ปี กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา
นอกจากนี้ ประชาชนยังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความทุกข์ที่เกิดขึ้นและอยากบอกให้รัฐบาลรับทราบ พบว่าอันดับหนึ่งคือ ปัญหาราคาสินค้าการเกษตรที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น รองลงมาคือปัญหาความขัดแย้งและการสร้างความสามัคคี ปรองดองในสังคม และการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน
นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า ตนจะสรุปข้อมูลเหล่านี้ส่งให้คณะกรรมการชุดต่างๆทั้งชุดคณะกรรมการปฏิรูป และคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อใช้เป็นข้อมูล รวมทั้งจะนำเสนอให้ที่ประชุมครม.ได้รับทราบด้วย คาดว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการจัดทำพิมพ์เขียวเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ในช่วงต้นปี 2554
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 กทม.พรรคเพื่อไทย ทำหนังสือเรียกร้องรัฐบาลเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูปการเมือง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องมีการเชิญทุกฝ่ายให้เข้ามามีส่วนร่วมเพราะรูปแบบเวทีประชาชนจะไม่มีการเลือกว่าเป็นฝ่ายไหน นายก่อแก้วฯ อาจจะดูจากคณะกรรมการเท่านั้นซึ่งความจริงแล้วกรรมการหลายคนก็มีแนวคิดที่ไม่ตรงกับรัฐบาล กรรมการบางคนเป็นนักวิชาการและแสดงความไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลหรือชาวบ้านบางคนที่เป็นนักต่อสู้ก็ยืนกันคนละฝ่ายกับรัฐบาลก็มี ทั้งนี้รัฐบาลจะมีการทำเวทีประชาชนซึ่งจะพยายามดึงคนทุกกลุ่มให้เข้ามาอยู่ร่วมในกระบวนการปฏิรูปด้วย ยืนยันว่าไม่มีการแบ่งแยกว่าคนที่มีความคิดไม่ตรงกับรัฐบาลจะไม่มีส่วนร่วมในการปฏิรูป เพราะกระบวนการปฏิรูปคือกระบวนการที่ต้องการให้ทุกคนมีส่วนร่วม