กก.ปฏิรูป โฟกัสประเด็นเร่งด่วน 'ที่ดิน-จัดสรรงบฯ กระจายสู่ท้องถิ่น'
กก.ปฏิรูป ประชุมครั้งที่ 2 คึกคัก 19 นักคิดเดินทางมากันครบองค์ “อานันท์” ยอมรับปฏิรูปไม่สามารถทำได้ครอบจักรวาล ต้องอาศัยความร่วมมือ ด้านเลขาฯ กก.ปฏิรูป เผยวันนี้ได้กรอบการทำงานระยะสั้น-ยาว พร้อมประเด็นเร่งด่วน คือ ที่ดินและการจัดสรรงบฯ ต้องกระจายสู่ท้องถิ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (13 ก.ค.) ว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ที่บ้านพิษณุโลก มีการประชุมกรรมการปฏิรูป ชุดนายอานันท์ ปันยารชุน ครั้งที่ 2 โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก กรรมการทั้ง 19 คนเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานกรรมการปฏิรูป กล่าวเปิดการประชุมว่า หลังจากการประชุมครั้งแรกตนและกรรมการหลายคนได้รับโทรศัพท์จากประชาชนเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งกว่า 75 – 80 % ยังคงกังวลใจในเรื่องของการทำงาน จึงอยากอธิบายว่า การปฏิรูปไม่สามารถทำได้ครอบจักรวาล และไม่สามารถปฏิรูปประเทศได้เพียงลำพัง ดังนั้นต้องขอความร่วมมือจากทุกคน
ภายหลังการประชุมกว่า 4 ชั่วโมง ดร.เดชรัต สุขกำเนิด เลขานุการคณะกรรมการปฏิรูป กล่าวว่า วันนี้ได้มีการพูดคุยกันมากขึ้น และเริ่มเห็นแนวทางที่เป็นกรอบการทำงาน ทั้งนี้ นายอานันท์ ไม่อยากให้รีบทำงานจนเกินไป เพราะการทำงานอาจจะพลาดหรือลืมไปในบางประเด็น หรือให้ความสำคัญกับประเด็นต่างๆไม่ครบถ้วน อย่างไรก็ตาม คาดว่า ในวันศุกร์นี้ ที่ประชุมจะได้เห็นแนวทางการทำงานที่ชัดเจน ก่อนจะเผยแพร่ต่อสาธารณชนในสัปดาห์หน้า
“อีกสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนในการประชุมครั้งนี้ คือ การแบ่งหน้าที่การทำงาน ทั้งในส่วนที่จะเป็นงานเร่งด่วนหรือพร้อมจะแก้ไขปัญหาที่จะช่วยลดทอนความขัดแย้ง ส่วนที่เป็นปัญหาระยะยาวก็จะพิจารณาอยู่ที่ว่าประเด็นใด จะดำเนินการในช่วงใด”ดร.เดชรัต กล่าว และว่า สำหรับเรื่องที่ยกตัวอย่างและถูกหยิบยกมาพูดมากที่สุด คือ เรื่องที่ดิน ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ประชาชนถูกกดขี่ และเรื่องการแก้ระบบงบประมาณของประเทศ ที่ส่วนใหญ่ออกจากส่วนกลางและรวมศูนย์ ไม่ได้กระจายลงในจังหวัด ถือเป็นการแก้ปัญหาที่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้คราวเดียวกัน
เมื่อถามถึงบรรยากาศในการประชุมครั้งที่ 2 นี้ ดร.เดชรัต กล่าวว่า เริ่มมีความคุ้นเคยกันมากขึ้น กรรมการแลกเปลี่ยนกันชัดเจน โดยในช่วงท้าย ประธานกรรมการปฏิรูป ระบุว่า กรอบการทำงานอาจไม่ใช่กรอบที่ตายตัว ซึ่งต้องฟังความเห็นของประชาชน และไปนำเสนอต่อคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป เพื่อฟังความคิดเห็นร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีที่มีผู้คัดค้านการจัดตั้งคณะกรรมการปฏิรูป ดร.เดชรัต กล่าวว่า นายอานันท์ มองว่า เป็นเพียงอีกเรื่องหนึ่งของคนในสังคมที่ไม่เห็นด้วยในกระบวนการที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำเพื่อให้การปฏิรูปสามารถเกิดขึ้นได้จริง คือ ต้องทำให้การปฏิรูปมีความน่าเชื่อถือ และอิสระอย่างชัดเจน ซึ่งจะมีการทำแผนการสื่อสาร และออกบทความมากขึ้น เพื่อนำเสนอแก่ประชาชนให้มีโอกาสสะท้อนความเห็นต่างๆ
ด้านพระไพศาล วิสาโล ประธานเครือข่ายพุทธิกาและเจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต(วัดเอราวัณ) และกรรมการปฏิรูป กล่าวภายหลังการประชุมว่า ในที่ประชุมครั้งนี้มีการพูดถึงรายละเอียด กรอบการทำงาน ระยะสั้นและระยะยาวว่าเป็นอย่างไร โดยกรอบระยะสั้นวางไว้ที่ 6 เดือน และระยะยาวภายใน 3 ปี แต่ก็ยังไม่ได้รูปธรรมชัดเจน ทั้งเรื่องการแบ่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย อย่างไรก็ตาม ความเห็นของแต่ละคนในวันนี้ถือได้ว่ามีความชัดเจนเข้าใกล้กันมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการมีส่วนร่วมจากประชาชนกับการมองปัญหาร่วมกัน ซึ่งจะสอดคล้องกับการทำงานของทางทีม ศ.นพ.ประเวศ วะสี
“ประเด็นการทำงานต่อไปเป็นอย่างไรนั้น ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แต่เป็นการจูนความคิดของแต่ละคนให้เข้ามาอยู่ในกรอบได้มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงเชิงกฎระเบียบ การปกครอง ที่สามารถจะดำเนินการได้เลย หรือปัญหาเรื่องหนี้สิน โดยเน้นพูดถึงปัญหาปากท้อง ความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรม แต่อีกหลายเรื่องยังต้องคุยกัน แต่การเริ่มทำงานเน้นเพียงเฉพาะจุดที่สามารถทำได้ ทำไปก่อนอีกหลายๆเรื่อง”
ส่วนนพ.วิชัย โชควิวัฒน กรรมการปฏิรูป กล่าวว่า แต่ละท่านเป็นสุดยอดนักคิดที่มาช่วยระดมความคิดเห็น แม้ว่าการพูดคุยกันในวันนี้ยังไม่ได้มีการหารือสิ่งใดเป็นพิเศษ นอกจากการวางกรอบก่อนดำเนินการจัดทำเป็นนโยบายวิธีการ แต่ถือเป็นประโยชน์ค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศก่อนการประชุมของกรรมการปฏิรูป ที่หน้าบ้านพิษณุโลก มีกลุ่มเครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตย(คกป.) ประมาณ 10 คน แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ อาสาสมัครกู้ชีพพยาบาล และทาสีแดงคล้ายเลือดที่บริเวณเสื้อผ้าและลำตัว ถือป้ายเขียนข้อความคัดค้านการปฏิรูป เนื่องจากมองว่าการจัดตั้งคณะกรรมการครั้งนี้ เป็นเพียงการซื้อเวลาต่ออายุให้กับทางรัฐบาลเท่านั้น โดยลืมคำนึงถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา จากนั้น มีการนำรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 89 คนมาติดลงบริเวณพื้นทางเข้าประตู และจัดกิจกรรมดนตรี ร้องเพลงที่มีเนื้อหาว่า คัดค้านการปฏิรูป