“อานันท์-ประเวศ” แถลงคู่เปิดโฉมหน้าคณะกรรมการปฏิรูป

ชูความโดดเด่น กรรมการปฏิรูปชุด "อานันท์" หญิง 5 ใน 19 คน หลากหลายวิชาความรู้ มีประสบการณ์ ทั้งพระไพศาล-ชัยอนันต์-เสกสรรค์-มรว.อคิน  ส่วนชุดหมอประเวศมากสุด 27 คน มีศิลปินแห่งชาติ-เนาวรัตน์ หมอพลเดช –ไพบูลย์  รวมถึงผู้พิการทางสายตา ร่วมเป็นกรรมการ

หลังระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิรูป พ.ศ.2553 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2553  และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้งนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการปฏิรูป และ ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ประธานกรรมการสมัชชาปฏิรูป เมื่อวันที่  5 ก.ค.2553 ไปแล้วนั้น

วันนี้ (8 ก.ค.)  นายอานันท์ และศ.นพ.ประเวศ วะสี ร่วมกันเปิดแถลงข่าวการแต่งตั้งคณะกรรมการทั้ง 2 ชุด ที่บ้านพิษณุโลก โดยนายอานันท์ กล่าวถึงการแต่งตั้งกรรมการปฏิรูปว่า  มีทั้งหมด 20คน (รวมประธาน) เป็นสุภาพสตรี 5 คน โดยมีหลักการในการเลือกสรรคน 1.ต้องมีความหลากหลายในเรื่องของวิชาความรู้ มีประสบการการทำงาน มีทั้งนักประวัติศาสตร์ นักการคลัง คนท้องถิ่น องค์กรเอกชน อดีตข้าราชการ 2.ต้องการคนมีเวลาให้กับการทำงานเต็มที่  3.สามารถประสานได้ระหว่าง 2 คณะ

“คณะทำงานปฏิรูป 2 ชุด คล้ายฝาแฝดอิน-จัน ต้องไปด้วย ทำอะไรร่วมกัน ทำคนละเรื่องในเรื่องเดียวกัน โดยจะมีการประชุมครั้งแรกวันศุกร์ที่ 9 ก.ค.เวลา 15.00 น. ซึ่งมีการจัดทำเอกสารทำงานไว้บ้างแล้ว จากนั้นคาดว่า จะมีการประชุมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ส่วนการเตรียมงานได้แต่งตั้งนายเดชรัต สุขกำเนิด เป็นเลขานุการคณะกรรมการปฏิรูป ”

นายอานันท์ กล่าวว่า คณะกรรมการปฏิรูปชุดนี้จะมีการเชิญบุคคลต่างๆ หรือผู้ทรงคุณวุฒิเข้ามาให้ความคิดเห็นเพิ่มเติม รวมทั้งประสานงานกับองค์กรภายนอกด้วย เพราะวันนี้กระแสของการเปลี่ยนแปลงประเทศ ปฏิรูปสังคมไทย ให้เป็นสังคมที่มีความยุติธรรมมากขึ้นกว่าในอดีต คิดว่า จับต้องได้แล้ว

“สิ่งที่เราจะทำ คือการเปลี่ยนสังคมไทย เป็นสังคมที่มีความยุติธรรมมากกว่าในอดีต และเป็นสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำ น้อยกว่าอดีต เป็นระเบียบวาระของชาติที่ไม่ต้องอาศัยรัฐบาลไหน หรือคนใด โดยการทำงานส่วนหนึ่งจะรับลูกมาจากหมอประเวศ ”

สำหรับเป้าหมายใหญ่ของการทำงาน นายอานันท์ กล่าวว่า คือ สังคมไทย เพราะการเคลื่อนไหวทางสังคมในเรื่องนี้จะมีกำลัง พลังมากกว่า พลังใดๆทั้งสิ้น ขณะเดียวกันก็เป็นหน้าที่ของสื่อต้องแสดงความรับผิดชอบ เสนอข่าวที่เป็นข้อเท็จจริง  เพราะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญกับประเทศชาติ ทุกคนมีหน้าที่ต่อสังคมในเรื่องนี้

“ การเปลี่ยนแปลงสังคมไทยทำได้หลายอย่าง ต้องได้รับการสนับสนุนจากประชาชน จะเป็นรัฐบาลไหนก็ต้องทำ ข้อเสนอของคณะกรรมการ ต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริงของสังคมไทย หนักไปที่รัฐบาล ราชการ เอกชน นำไปปฏิบัติได้ เท้าต้องติดดิน เราจะไม่เสนออะไรที่เป็นนามธรรม จะเสนอเป็นแผนการปฏิบัติ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ ทำได้ทันที”

ขณะที่ศ.นพ.ประเวศ กล่าวถึงการแต่งตั้งกรรมการสมัชชาปฏิรูปว่า กรรมการชุดนี้ มี 28 คน (รวมประธาน)  ได้แต่งตั้งขึ้นมา ซึ่งมีคณะกรรมการโดยตำแหน่ง 6 คน คือ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ที่ดูแล องค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย  กว่า 8 พันแห่ง ที่เชื่อมโยงกับพื้นที่ทั้งหมด , ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย กุมกำลังแห่งปัญญา มีคณาจารย์ นิสิต นักศึกษา ,ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ,ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ประธานสมาคมธนาคารไทย, เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นอกจากนั้น เป็นรายชื่อบุคคล และมีผู้พิการทางสายตารวมอยู่ด้วย  คือ นายต่อพงษ์  เสลานนท์  อุปนายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย

“การทำงานอยากให้สังคมทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งเมื่อได้ข้อเสนอจากสังคมใหญ่ ก็จะส่งต่อให้คณะกรรมการชุดนายอานันท์  ระหว่างนี้จะทำงานเชื่อมโยงไปมาระหว่างสังคม ให้สังคมรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ”  ศ.นพ.ประเวศ กล่าว และว่า  บ้านเมืองวิกฤตยิ่งเป็นโอกาส ให้คนตื่นตัวทำอะไรดีๆ เพื่อสังคม ซึ่งที่ผ่านมาสังคมไทยคุ้นเคยกับการทำงานทางลบ มัวทะเลาะกัน แต่คณะกรรมการปฏิรูป เป็นการทำงานเชิงบวก จะง่ายกว่ากันมาก เรียกว่า หน้าต่างแห่งโอกาส ยิ่งทำยิ่งมีคนร่วมขับเคลื่อน จึงไม่ได้มีความวิตกกังวล หรือย่อท้อแต่อย่างใด