นายกฯ ย้ำทุกคณะที่เข้าร่วมปฏิรูปต้องพิสูจน์ด้วยการทำงานเพื่อส่วนรวม
"อภิสิทธิ์" เผยยังไม่ได้ทาบทามบุคคลใดเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทย กำหนดคุณสมบัติคนที่จะเข้ามาเป็นประธาน ต้องเป็นคนที่สามารถมองภาพกว้างและมองยาวออกไป
วันนี้ (17 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่จะใช้เวลา 7 วัน ในการทาบทามบุคคลที่มีการเสนอชื่อมาจากเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อหา แนวทางการปฏิรูปประเทศไทย มาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทย ว่า ตนจะไปคุยแล้วจะเรียนให้ทราบ ในส่วนที่เดินทางไปพบและพูดคุยกับนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ก็เป็นการพูดคุยถึงภาพรวมทั่วไป ซึ่งนายอานันท์ก็สนใจหลายๆ เรื่องที่จะต้องทำกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะมาทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทย ควรเป็นอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องเป็นคนที่สามารถมองภาพกว้างและมองยาวออกไป เพราะเป็นเรื่องของโครงสร้างเป็นหลัก ขณะเดียวกันก็ต้องสามารถระดมความร่วมมือจากภาคประชาชนได้
เมื่อถามว่านายอานันท์แนะนำใครหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า ถ้าได้ตัวประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทยแล้วประชาชนจะยอมรับได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าได้ตัวประธานแล้วจะเดินหน้าทำงานได้ คำว่าประชาชนตอบรับจะไปบอกหรือคาดหวังว่า ให้คน 100 เปอร์เซ็นต์ตอบรับนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะตนก็เห็นว่าทุกชื่อไม่ว่าจะหยิบชื่อใครขึ้นมา ก็ต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดกังวลใจ หวาดระแวง ซึ่งเป็นธรรมดาในสภาวะบ้านเมืองแบบนี้
“แต่อย่างที่ย้ำคือทุกคน ทุกคณะที่เข้ามาทำงานขณะนี้พูดตรงกันว่าให้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงตรงนี้ และก็ต้องพิสูจน์ด้วยการทำงานให้เห็นว่าทุกคณะทำงานที่ขับเคลื่อนอยู่มีความเป็นธรรม มีความตั้งใจที่จะมาทำเพื่อส่วนรวมและคนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือความหวาดระแวงในสังคมว่าแต่ละส่วนจะมีธงของตัวเองและทำทุกอย่างเพื่อการเมือง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าการทำงานจะเป็นตัวพิสูจน์ และเราต้องพยายามใช้เหตุผล เช่น คณะกรรมการฯ ชุดที่มาทำงานเรื่องการปฏิรูป งานไม่ได้เสร็จในรัฐบาลชุดปัจจุบันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นรัฐบาลจะทำตัวเป็นเจ้าของก็ไม่ได้ ดังนั้นไม่มีอะไรที่จะต้องมากังวลใจหรือหวาดระแวง เช่นเดียวกับคณะกรรมการฯชุดอื่นๆ ทั้งหมดทำก็เพื่อที่จะให้ได้สภาวะแวดล้อมในสังคมที่ทำให้ประเทศเดินหน้าได้