แนะปฏิรูปปทท. ต้องเชื่อมโยงทำงาน แบบ “สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา”
ถึงจะมีพลังเขยื้อนเรื่องยากๆ ได้ หมอประเวศชี้เวลานี้สังคมไทยขาดองค์ความรู้ นำมาแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ทั้งๆที่กลไกต่างมีมากมาย แต่ไม่ทำงาน ย้ำชัดแม้เผชิญความทุกข์ ต้องแก้ทุกข์ให้ได้ อย่าหมดหวัง มองไม่เห็นฝั่งก็ต้องว่ายต่อไปเหมือนพระมหาชนก
วานนี้ (1 มิ.ย.) นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงการทำงานปฏิรูปประเทศไทย ตลอดระยะเวลาปีครึ่ง ในเวทีการประชุมเครือข่ายสถาบันทางปัญญา ปฏิรูปประเทศไทย เพื่อสุขภาวะของคนไทย ครั้งที่ 34 ที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพ ฯ ว่า จากที่ได้มีความพยายามทำงานกันมาถึงปัจจุบัน จนเกิดเหตุการณ์วิกฤตสุดๆอย่างที่เห็น คนไทยได้เริ่มตื่นตัวเรื่องการปฏิรูปประเทศไทยจำนวนมาก มีทั้งอยากเข้ามาร่วมมือ อยากคิด อยากร่วมกันทำอะไรมากขึ้น ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน
“ผมเคยพูดเตือนมากว่า 10 ปีแล้ว ว่า จะเกิดมหาวิกฤตการณ์สยาม เรียกว่าวิกฤติการณ์คลื่นลูกที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นวิกฤตทุกด้าน การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ ทุกชนิด หาทางออกไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน ไม่รู้ว่าใครเป็นศัตรู เป็นวิกฤตการณ์ที่ยากที่สุด จนกลายเป็นวิกฤตที่ทำลายตัวเอง ซึ่งสังคมไทยไม่ได้อยากเห็นผู้คนล้มตาย แต่เมื่อเกิดวิกฤตแล้วก็ต้องใช้ให้เป็นโอกาส ทำอย่างไรให้ก้าวไปข้างหน้า เผชิญกับความทุกข์ก็ต้องแก้ทุกข์ให้ได้ อย่าเพิ่งหมดหวัง มองไม่เห็นฝั่งก็ต้องว่ายเรื่อยไปเหมือนพระมหาชนก”
ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงสังคมไทยขณะนี้ขาดเรื่ององค์ความรู้ เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน ทั้งๆที่กลไกต่างมีมากมาย แต่ไม่ทำงานเพราะขาดความรู้ เรามีทั้งสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สภาพัฒนาการเมือง สภาองค์กรชุมชน ในอนาคตจะมีสภาประชาชน แต่ก็วนกลับมาที่เดิมเพราะขาดความรู้เชิงนโยบาย สังคมไทยรู้ว่าต้องการทำอะไร เช่น แก้ไขปัญหาความยากจน สิ่งแวดล้อม ต้องการระบบราชการที่ดีกว่านี้ ปฏิรูประบบตำรวจ เป็นต้น แต่คำถาม คือ ทำอย่างไร
“เวลาพบปัญหายากๆ การจะหาทางออก ต้องประกอบกัน สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา คือ ต้องการความรู้เข้ามา ต้องการการขับเคลื่อนทางสังคม และต้องการอำนาจรัฐระดับต่างๆ เข้ามาเชื่อมโยงกันทำงาน เรียกว่า สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา เพื่อเขยื้อนเรื่องยากๆ ทำอย่างใดอย่างหนึ่งแยกกันไม่ได้”