นายกฯ แถลงจัดงบฯ ปี 54 ดูแลปชช.ให้อยู่ดีมีสุข สามัคคีปรองดอง

ผู้นำรัฐบาลแถลงจัดทำงบฯ ปี 54 ตั้งไว้ไม่เกิน  2.07 ล้านล้านบาท ต่อรัฐสภา ย้ำชัดขณะนี้กำลังออกแรงผลักดัน พ.ร.บ.กองทุนการออม ร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมการกระจายรายได้ที่เป็นธรรม 

วันนี้ (26 พ.ค.) เวลา 09.30 น. ณ อาคารรัฐสภา นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี  ได้แถลงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.  2554  ต่อสมาชิสภาผู้แทนราษฎร  โดยคณะรัฐมนตรีได้ตั้งงบฯ  เป็นจำนวนไม่เกิน 2,070,000,000,000 บาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่น เป็นจำนวน 2,039,653,937,600 บาท และเพื่อชดใช้เงินคงคลัง เป็นจำนวน 30,346,062,400 บาท 

สำหรับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ที่คณะรัฐมนตรีนำเสนอนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีจุดมุ่งหมายสำคัญ 2 ประการ คือ  ประการแรก เพื่อให้งบประมาณเป็นกลไกในการเสริมสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ประการที่สอง ใช้กลไกของงบประมาณสำหรับวางรากฐานของประเทศในด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ที่เป็นปัญหาต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน 

“จากสถิติช่องว่างความเหลื่อมล้ำรายได้ระหว่างกลุ่มประชากรร้อยละ 20 ที่มีรายได้สูงสุดกับกลุ่มประชากรร้อยละ 20 ที่มีรายได้ต่ำสุด มีความห่างกันถึง 12.7 เท่า ในปี 2551 ซึ่งไม่แตกต่างไปจากข้อมูลสถิติในปี 2529 ที่มีช่องว่างห่างกัน 12.8 เท่า ดังนั้น นโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการในช่วงปีที่ผ่านมา จึงให้ความสำคัญอย่างมากกับการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของรายได้และสร้างความเป็นธรรมในสังคมด้วยการเพิ่มโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิต การเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายให้แก่ผู้มีรายได้น้อย การขยายโอกาสให้คนไทยให้ได้รับการศึกษาที่เท่าเทียมกัน การเพิ่มโอกาสให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ และคนชรา ให้ได้รับเบี้ยยังชีพและสวัสดิการสังคมมากขึ้น ตลอดจนการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ชนบทและประกอบอาชีพทางการเกษตร ผ่านโครงการประกันรายได้เกษตรกร และโครงการลงทุนในระบบชลประทานเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเกษตรกร ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เป็นต้น ทั้งหมดทั้งปวงก็นี้เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างเสมอภาค ภายใต้สังคมที่มีความสมานฉันท์และพอเพียง” 

จากนั้น นายอภิสิทธิ์  ได้รายงานภาวะเศรษฐกิจทั่วไป ฐานะและนโยบายการเงินการคลังของประเทศ  และได้ชี้แจงถึงสาระสำคัญของงบฯ ว่า เป็นการดำเนินนโยบายงบประมาณแบบขาดดุล ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณไว้ 8 ยุทธศาสตร์ และ 1  รายการค่าดำเนินการภาครัฐ  จัดสรรงบประมาณ จำนวน 509,473.1 ล้านบาท 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากการใช้งบประมาณรายจ่ายเป็นเครื่องมือในการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลแล้ว รัฐบาลยังใช้กลไกอื่นๆ ของภาครัฐเข้ามาสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลด้วย เช่น การเสริมสร้างความเป็นธรรมทางสังคม โดยให้สถาบันทางการเงินของรัฐเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่ผู้มีรายได้น้อย โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน (หนี้นอกระบบ) โครงการฟื้นฟูและพักชำระหนี้ให้แก่เกษตรกรรายย่อยและผู้ยากจน และในขณะนี้รัฐบาลได้พยายามผลักดันร่างกฎหมายต่างๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เช่น ร่างพ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนไทย 24 ล้านคน ที่ยังไม่มีระบบประกันสังคมใดๆ ให้มีระบบการออมที่ช่วยให้มีรายได้ดูแลตนเองหลังเกษียณอายุ และร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและส่งเสริมการกระจายรายได้ที่เป็นธรรม 

“สาระสำคัญของงบฯ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ที่รัฐบาลได้แถลงมาทั้งหมด เป็นส่วนสำคัญของกรอบและแนวทางหลักในการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน ที่รัฐบาลจัดทำขึ้นเพื่อวางรากฐานในการพัฒนาประเทศและแก้ไขปัญหาของชาติ ไม่ว่าสถานการณ์ทางการเมืองซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงทางสังคมจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด รัฐบาลมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนเข้าไปร่วมในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงของประเทศ รัฐบาลได้เสนอขอรับจัดสรรงบประมาณตามร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฉบับนี้ เพื่อสนับสนุนกลไกที่จะดูแลพี่น้องประชาชนทุกคนให้สามารถดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุข มีความสามัคคีปรองดองกัน นำไปสู่สังคมสมานฉันท์ในที่สุด”