สภาปชช.ฯ อดสูเริ่มต้นปฏิรูปประเทศ ท่ามกลางคนตาย-เจ็บอื้อ
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ รองประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) และผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองเน็ต กล่าวถึงการประชุมสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย ของเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม 106 องค์กร จากทั่วประเทศ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งของสังคมที่ผู้คนส่วนมากกำลังตกอยู่ในความกลัว ความหวาดระแวง และอยู่ในความไม่มั่นคงทางจิตใจ แม้ขณะนี้ ที่จะมีการตกลงกันเรื่องข้อเสนอ แนวทางยุติการชุมยุม ก็ยังถกเถียงกัน สื่อให้เห็นถึงว่าสังคมไทยยังมีความรุนแรงอยู่มาก
“เป็นเรื่องเศร้า ที่คนส่วนใหญ่มองว่าการใช้ความรุนแรงจะยุติเรื่องทั้งหมด สะท้อนมาตั้งแต่ในสมัย 14 ตุลาฯ, พฤษภาทมิฬ หรือยุครัฐบาลตั้งแต่ทักษิณ ที่มีการวิสามัญฆาตกรรมผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งทุกคนบอกว่า นั่นคือสิ่งที่ถูก คนเหล่านั้น สมควรตาย หรือเรื่องภาคใต้ ที่มีการอุ้มฆ่า ทุกคนก็ยังมองเห็นเป็นเรื่องปกติ และล่าสุด ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เกิดเรื่องที่แยกราชประสงค์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือ ที่กรือเซะ ตากใบ มีคนตามมากมาย ก็สะท้อนให้เห็นว่า การฆ่าคนให้มันจบๆไป แล้วเรื่องทุกอย่างจะจบ ซึ่งสังคมไทยไม่ควรเกิดเหตุการณ์เช่นนี้”
นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า การที่ภาคประชาชนยังตกลงกันเองไม่ได้ สะท้อนว่าลึกๆ มีคนจำนวนมากยังคงเชื่อในความรุนแรง แต่ก็ไม่ได้แยกว่า คนที่ใช้ความรุนแรงหรือไม่รุนแรง สิ่งใดดีกว่ากัน ไม่มีมาตรวัดมาตัดสิน ทุกคนยังอยู่ในวังวนความชั่วร้ายอีกต่อไป หรือ 5-10 ปีข้างหน้าอาจมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้น ซึ่งต้องให้ครั้งนี้เป็นบทเรียนที่ดีแก่ประเทศไทย
“ช่วงที่หลายฝ่ายกำลังถกเถียงกันเรื่องการปฏิรูปประเทศไทย มีคนตายเป็นใบไม้ร่วง แม้ว่ารัฐจะอ้างความชอบธรรมอย่างไร แต่สุดท้ายคนที่ตายคือ คนบริสุทธิ์ คนทั่วไป หรือ นักข่าว ไม่ใช่เรื่องถูกต้อง หากสังคมยังอยู่กันเช่นนี้ ทำให้การออกแบบสังคมสันติก็คงเกิดขึ้นได้ยาก ความเป็นสี ยังอยู่ในตัวแต่ละคนสูงมาก เชื่อว่า หากวันนี้เป็นรัฐบาลเพื่อไทย กลุ่มคนที่บอกว่า เห็นด้วยกับความรุนแรงก็จะไม่ชอบความรุนแรงทันที เป็นการเปลี่ยนขั้วเพื่อการเมือง นับสิ่งที่น่ากลัว”
นางสาวสุภิญญา กล่าวอีกว่า ทุกคนกำลังใช้ความรุนแรงกับคนต่างฝ่าย หากไม่สลายไปตรงนี้ ก็จะไม่สามารถเริ่มปฏิรูปประเทศไทยไปสู่สังคมที่ดีกว่านี้ ต้องเริ่มพูดที่เรื่องกระบวนการยุติธรรม ให้เป็นคำตอบ แนวทางแก้ปัญหา หากเราเชื่อว่าการฆ่าคนทิ้งโดยไม่ผ่านกระบวนการอารยะ สิ่งต่างๆที่ถูกต้อง ความเป็นธรรม ความเหลื่อมล้ำ ในสังคม ก็คงจะยังไม่เกิดขึ้นเช่นกัน เพราะท้ายที่สุด ก็คือ ตัวคำตอบว่าความยุติธรรมจะไปดูเรื่องความถูกต้องที่จะไม่สร้างความข้องใจแก่ฝ่ายต่างๆอีก ทุกคนจะต้องได้รับการพิสูจน์
“ข้อเสียของสังคมไทยอ้างว่า อีกฝ่ายทำไมทำแบบนั้น แบบนี้ได้ และก็ทำเช่นนี้ได้ และก็ไม่มีใครออกมาแสดงความเสียใจ แม้กระทั่งรัฐ ผู้ต่อต้านรัฐเอง ก็ยังดื้อ ไม่ก้าวออกมาขอโทษ มีท่าทีแบบนี้ก็แตกหัก คนบริสุทธิ์ ก็เสีย ถ้าสังคมต้องอยู่เช่นนี้ ประเทศชาติจะพัฒนาได้อย่างไร”
ด้านนางปรีดา คงแป้น ผู้ประสานงานชั่วคราว เวทีขับเคลื่อนสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย กล่าวถึงการขับเคลื่อนสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย ที่มีคนเข้าร่วมหลากหลายกลุ่ม ร่วมหารือกันคิด ว่า การปฏิรูปประเทศไทยจะมีขบวนการอย่างไร ซึ่งทุกองค์กรเห็นตรงกันว่า ต้องอิสระจากรัฐที่จะร่วมกัน เอาความเดือดร้อนมาแก้ไข เคลื่อนระยะยาว ชัดเจนที่เรื่องการตื่นตัว เพราะเป็นทางออกจากวิกฤต ที่รื้อ ผ่าตัด ประเทศไทย
“ประเด็นสำคัญในวันนี้ คือ ทุกคนได้มาร่วมกันคิดค้น อาจจะหลากหลายความคิด เพราะต่างคนต่างทำ รอบนี้คือ เอาพลังจากทุกเครือข่ายมาเชื่อมโยง ท่ามกลางความหลากหลายว่า ประเทศต้องเปลี่ยน ฝ่ายรัฐบาลก็ทำไปและ ขานรับ ในวันนี้ เราได้ข้อมูลไปร่วมกดดันและเสนอให้ภาครัฐ พรรคการเมืองได้ทำตามข้อเสนอภาคประชาชนทุกฝ่าย”
สุดท้ายนางปรีดา กล่าวถึงสถานการณ์การยิงกันเกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นเรื่องน่าเสียใจ ซึ่งสภาประชาชน อยากให้เริ่มแก้ไขก่อน เริ่มจากการหยุดยิง เพราะทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันมามาก คนตายก็มาก อยากให้ฟังเสียงคนเล็กคนน้อยด้วย