ร้อนอบอ้าวแค่ 5เดือนแรก คนไทยทุบสถิติใช้ไฟพีกถึง 10 ครั้ง
วันนี้ (11 พ.ค.) นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวถึงสถานการณ์การใช้ไฟฟ้าในขณะนี้ว่า มีปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีก) เกิดขึ้นไปแล้ว 9 ครั้ง โดยพีก ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 23,900 เมกะวัตต์ ในวันที่ 22 เมษายน 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 8% และพบว่ามีปริมาณการใช้ไฟฟ้าช่วงวันหยุดเพิ่มสูงขึ้น อย่างช่วงวันเสาร์ที่ 8 และวันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม มีปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ระดับ 23,000 เมกะวัตต์ ถือเป็นยอดการใช้ไฟฟ้าต่ำกว่ายอดการใช้ไฟฟ้าช่วงวันทำงาน 10-20% สะท้อนให้เห็นว่า การใช้ไฟฟ้ามีการขยายตัวมากขึ้น
“หากเดือนนี้สภาพอาการยังร้อนอบอ้าวต่อเนื่อง พีก อาจจะเพิ่มขึ้น สำหรับสาเหตุที่ปริมาณพีกเพิ่มสูงขึ้นมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวทำให้โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆมียอดผลิตสินค้ามากขึ้น แต่ในระยะสั้นนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง เพราะปริมาณสำรองไฟฟ้ายังอยู่ในระดับสูงถึง 20% ดังนั้น กฟผ.จึงต้องประเมินสถานการณ์ว่าจะต้องปรับประมาณการณ์ปริมาณความต้อง การใช้ไฟฟ้าสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 23,600 เมกะวัตต์ ที่มีการปรับประมาณการณ์ไปแล้วเมื่อต้นปี 2553”
นายสุทัศน์ กล่าวถึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(ค่าเอฟที)ที่จะเรียกเก็บในงวดบิลหลังเดือนสิงหาคม 2553 ที่จะครบกำหนดตรึงค่าเอฟทีตามนโยบายของรัฐบาลว่า ต้องรอดูนโยบายของรัฐบาลก่อนว่าจะออกมาอย่างไรต่อไป
ด้านนายบรรพต แสงเขียว รองผู้ว่าการกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม ในฐานะโฆษก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ในวันที่ 10 พฤษภาคม 53 เวลา 14.00 น. เกิดความต้องการไฟฟ้าสูงสุด เท่ากับ 24,009.9 เมกะวัตต์ นับเป็นครั้งที่ 10 ของปี 2553 ทำลายสถิติพีกสูงสุดในวันที่ 24 เมษายน 2552 ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้า 22,044.9 เมกะวัตต์ คิดเป็น 8.9 % นอกจากนี้ ยังถือว่าสูงกว่าประมาณการในค่าพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้า ปี 2553 ที่ใช้ในการจัดทำแผน PDP 2010 ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งพยากรณ์ไว้เท่ากับ 23,249 เมกะวัตต์ อยู่ถึงกว่า 700 เมกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่าโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ 1 โรง
“สาเหตุสำคัญมาจากสภาพอากาศร้อนอบอ้าว โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 39 องศาเซลเซียส ซึ่งนับเป็นอุณหภูมิสูงที่สุดของปี 2553 รวมถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนช่วยกันประหยัดไฟฟ้า เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงานไฟฟ้าและบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้มี ประสิทธิภาพดี เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าอีกทางหนึ่ง”
สำหรับ สถิติการเกิดพีก ในปี 2553 นั้น เกิดขึ้นมาแล้ว 9 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม เท่ากับ 22,185.80 เมกะวัตต์ วันที่ 3 มีนาคม เท่ากับ 22,406.40 เมกะวัตต์ วันที่ 8 มีนาคม เท่ากับ 22,542.20 เมกะวัตต์ วันที่ 9 มีนาคม เท่ากับ 22,649.78 เมกะวัตต์ วันที่ 16 มีนาคม เท่ากับ 23,143.26 เมกะวัตต์ วันที่ 25 มีนาคม เท่ากับ 23,304.05 เมกะวัตต์ วันที่ 5 เมษายน เท่ากับ 23,529.69 เมกะวัตต์ วันที่ 6 เมษายน เท่ากับ 23,730.21 เมกะวัตต์ และวันที่ 22 เมษายน เท่ากับ 23,897.72 เมกะวัตต์ ตามลำดับ
ขอขอบคุณ เว็บไซต์ http://www.eppo.go.th