โรงไฟฟ้ากังหันลมผุดที่โคราช-เพชรบูรณ์ใหญ่สุดในไทย
รองปลัดก.พลังงานคาดจะเป็นสถานที่ซื้อพลังงานลมรายใหญ่ เพื่อใช้เป็นพลังงานหมุนเวียนในประเทศ รับแผน PDP 2010 บมจ. เด็มโก้ เผยลงทุนกว่า 3.5 พันล้าน ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม 3 แห่ง ที่ห้วยบงและเขาค้อ
เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมสุโขทัย สาทรใต้ กรุงเทพมหานคร นายณอคุณ สุทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นสักขีพยานการลงนามเซ็นสัญญาระหว่างบริษัทเด็มโก้ จำกัด(มหาชน) หรือ DEMCO กับบริษัท วินด์ เอนเนอร์นี่ โฮลดิ้ง จำกัด พร้อมทั้งบริษัทในเครือลงนามสัญญาซื้อกังหันลมจากกลุ่มบริษัท ซีเมนส์ วินด์ พาวเวอร์ และบริษัท ซีเมนส์ ไทยแลนด์ จำกัด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานลม 3 แห่งในประเทศ
รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการอนุมัติ แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2553-2573 (PDP2010) ไปแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นแผน PDP แผนแรกของประเทศที่มีการใส่พลังงานทดแทนเข้าไปในแผนโดยตั้งเป้าจะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนอย่างน้อย 5,600 เมกะวัตต์ ภายในปีพ.ศ. 2573 นั้น จะเห็นได้ว่าการสร้างพลังงานทดแทนในประเทศ โดยเฉพาะพลังงานลมที่จะนำมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยลดสภาวะเรือนกระจก ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ลงได้
“การลงนามในสัญญาให้มีโครงการกังหันลมขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศไทย มีการผลิตพลังงานจากโรงไฟฟ้าโรงละ 60-90 เมกะวัตต์ เพื่อส่งเสริมการผลิตพลังงานทดแทน จะเป็นสถานที่ซื้อพลังงานลมรายใหญ่ โดยกระทรวงพลังงานจะมีการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานลมอย่างต่ำ 800 เมกะวัตต์ จากระบบรับซื้อพลังงานจากโรงไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าได้ไม่เกิน 90 เมกกะวัตต์ต่อโรงงาน เพื่อใช้เป็นพลังงานหมุนเวียนในประเทศ ซึ่งการสร้างโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง คาดว่าจะเป็นแหล่งพลังงานขนาดใหญ่ เพียงพอตามแผน PDP ฉบับใหม่”
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. เด็มโก้ กล่าวว่า โครงการการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม 3 แห่ง มีมูลค่ารวมกว่า 3,563 ล้านบาท นับเป็นการทำความตกลงเรื่องกังหันลมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมีศักยภาพสูงในการผลิตพลังงานจากลมสามารถช่วยเสริมความมั่นคง ด้านพลังงานของประเทศได้
“ สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการห้วยบง 1 และ 2 จ.นครราชสีมา กำลังการผลิตโครงการละ 90 เมกะวัตต์ และโครงการเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ ซึ่งหลังจากทำพิธีเซ็นสัญญาแล้ว ทางบริษัทจะดำเนินการสำรวจ ออกแบบ และดำเนินการก่อสร้าง เริ่มโครงการที่ห้วยบงทั้งสองโครงการ ในเดือนสิงหาคม 2553 คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 15 เดือน”