"ดร.อาทิตย์" ผ่าทางตัน แนะหยุดประเทศ เริ่มต้นใหม่ด้วยกัน
อธิการบดี ม.รังสิต เสนอทางออกให้ประเทศไทย คงไว้ “ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” มั่นใจทำได้โดยไม่ต้องปฏิวัติ ใช้ รธน.ฉบับเดิม ปรับให้มีความยืดหยุ่น ยกเว้นเพียงบางมาตรา
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา มูลนิธิพัฒนาผู้นำเยาวชน จัดสัมมนาการเมืองภาคประชาสังคม เรื่อง “ทางออกประเทศไทย : ใครรับผิดชอบ” เพื่อร่วมหาข้อสรุปและนำไปใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเมืองไทยร่วมกัน ที่โรงแรม อิมพีเรียล ควีนส์ ปาร์ค กรุงเทพมหานคร โดยมีเครือข่ายภาคประชาสังคมและกลุ่มประชาชนทั่วไป เข้าร่วมสัมมนา
จากนั้น ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ทางออกประเทศไทย ใครรับผิดชอบ” ตอนหนี่งว่า เวลานี้ประเทศไทยเกิดความล้มเหลวในทุกระดับ ตั้งแต่การเมือง รัฐบาล ข้าราชการ เรื่อยมาจนกลุ่มประชาชน เป็นความล้มเหลวของรัฐโดยสิ้นเชิง ขณะที่ข่าวเศรษฐกิจก็ประโคมแต่เรื่องอัตราการเจริญเติบโต ตัวเลข GDP ในอัตราสูง แต่เรายังพบว่า มีประชาชนที่ยากจนอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งความเป็นธรรมก็ยังหาได้ยาก การหาเสียงของทุกพรรคการเมือง กลายเป็นเครื่องมือ เป็นสัญญาณการสร้างความล้มเหลวของรัฐ ทุกมิติ เกิดการแก่งแย่งผลประโยชน์ ทุกกลุ่มโดนกลั่นแกล้ง มีการซื้อ-ขาย ตำแหน่งเกิดขึ้น เป็นมะเร็งร้ายที่สะสมมาอย่างยาวนาน
“หากมองด้วยเหตุและผล ปัญหาหลักมาจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการพ้นโทษ ต้องการนิรโทษกรรม และมีคนกลุ่มหนึ่งพยายามอยากมีระบอบการปกครองใหม่ มีรัฐไทยใหม่ ล้มล้างระบอบกษัตริย์ ซึ่งสิ่งที่เลวร้ายต่อเนื่อง คือ การถูกลดความน่าเชื่อถือ ในสายตาชาวต่างชาติ ไทยถูกมองเป็นประเทศขาดศักยภาพในการดูแลความปลอดภัย เทศกาลสงกรานต์ที่เคยเป็นเอกลักษณ์อันดีงาม ก็กลายเป็นสงกรานต์เลือด เหตุการณ์เช่นนี้ บ่งบอกความล้มเหลวทุกด้าน”
ดร.อาทิตย์ กล่าวว่า วันนี้กลไกของประเทศเปลี่ยนไป ประชาชนตกอยู่ในสภาวะที่ไม่มีทางเลือก แม้แต่การเลือกตั้งก็ยังมองไม่เห็นอนาคต ซึ่งสิ่งที่ควรทำ คือ เป็นการออกมาร่วมกันปฏิรูปประเทศไทย ไม่เพียงการใช้แผนการปรองดองเท่านั้น ถึงเวลาแล้วประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศจะต้องออกมาพูด ออกมาเรียกร้องในเรื่องที่พอจะแก้ไขได้
“สำหรับแผนปรองดอง 5 ข้อ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคน 2 กลุ่ม ไม่ใช่คนทั้งประเทศอย่างชัดเจน ตั้งแต่ข้อที่ 1 ขณะนี้มีคนอยากโค่นล้มเจ้า แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ไม่ปรองดองกันอย่างแท้จริง ข้อที่ 2 การปฏิรูปประเทศไทย คือสิ่งที่ต้องร่วมกันทำอยู่แล้ว เพราะประเทศไทยกำลังแย่ ข้อ 3 สื่อมวลชน ก็ควรมีการนำเสนอข่าวสารที่เป็นสติปัญญาแก่ประชาชน ข้อที่ 4 มุ่งเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย แต่ต้องถามว่า อะไรคือนิติรัฐ ที่ไม่เห็นแก่พวกพ้อง ตรงนี้ต้องชัดเจน และข้อที่ 5 การยุบสภา ควรจะอธิบายให้ได้ว่า พอยุบสภาแล้วประชาชนจะได้รับอะไรกลับไป ไม่เพียงการสงบสุข 6 เดือน ก่อนเลือกตั้งใหม่ และระยะยาวประชาชนจะได้อะไร”
อธิการบดีม.รังสิต กล่าวถึงทางออกของประเทศไทยว่า ประเทศไทยต้องคงระบอบ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไว้ ซึ่งทำได้โดยไม่ต้องปฏิวัติ เพียงใช้รัฐธรรมนูญเดิม ยกเว้นเพียงบางมาตรา แม้ว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญจะเป็นสิ่งสูงสุด แต่เราต้องคิดว่า ความมั่นคงของชาติที่เหนือกว่า ทำอย่างไรให้ประเทศสามารถเดินต่อไปได้ เพื่อความคล่องตัว ด้วยความยืดหยุ่น อาจจะต้องมีรัฐสภาใหม่ คณะรัฐมนตรีใหม่ เพื่อการปฏิรูปใหม่ หยุดประเทศ ให้เวลาทบทวน เริ่มต้นกันใหม่ด้วยกัน เพราะหากวันนี้ต่อสู้กันไป จะเสียหายกันหมด
“กำลังที่สำคัญที่สุด คือ ประชาชนในฐานะความเป็นเจ้าของ ต้องเร่งผลักดัน ให้เกิดความชอบธรรมที่สุด ต้องทำเพื่อพระมหากษัตริย์ ทำเพื่อประเทศชาติ ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสไว้ว่า เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ดังนั้น เราทุกคนก็ต้องมาร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งแผ่นดิน”