“บิ๊กเติ้ง” แนะรบ.-นปช. ถอยคนละก้าว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เข้าพบ บรรหาร รับฟังความคิดเห็นต่อสถานการณ์และสภาพปัญหาปัจจุบัน อดีตนายกฯ ย้ำชัด ยุบสภาทันที เป็นไปไม่ได้ เหตุจะเกิดปัญหาตามมามากมาย เศรษฐกิจหยุดชะงัก 

วันนี้ (20 เม.ย.) นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประกอบด้วย ศาสตราจารย์อมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช ดร.ปริญญา ศิริสารการ นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ นางวิสา เบ็ญจะมโน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนายแพทย์ชูชัย ศุภวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เข้าพบ  ณ ที่ทำการพรรคชาติไทยพัฒนา ถึงสถานการณ์ของบ้านเมืองในปัจจุบัน ว่า ขณะนี้ปัญหาบ้านเมืองก้าวไปไกลจากเรื่องของความขัดแย้งแล้ว โดยไม่รู้ว่าจะถึงจุดระเบิดเมื่อไหร่ 

“ทุกคนเป็นคนไทย เรามีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  คงจะต้องทำอะไรอย่างหนึ่ง หากเป็นไปได้ขอให้ทั้งสองฝ่ายถอย  นปช. ก็ถอย รัฐบาลก็ถอยบ้าง ถ้าถอยได้แล้วมาเจรจากัน แนวทางการเจรจามีความเป็นไปได้ เช่น รัฐบาลยอมที่จะยุบสภาในอีก 9 เดือน แต่เราบอกว่า 6 เดือนได้หรือไม่  ก็ทำท่าจะยอม แต่ว่าเราบอกว่า ต้องแก้รัฐธรรมนูญก่อน เพราะเห็นว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ยังมีหลายอย่างบกพร่องถ้าเลือกตั้งไปแล้วจะต้องมีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคตแน่นอน และจะแก้ไม่มีที่สิ้นสุดด้วย รัฐบาลก็ถอยออกมาแล้วทางฝั่งเสื้อแดงก็ต้องถอย อย่าไปบอกว่ายุบสภาทันที เป็นไปไม่ได้ ถ้ายุบสภาทันทีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งด้านเศรษฐกิจการลงทุน การค้า การขาย หรือความไม่แน่ใจของต่างประเทศที่มีต่อรัฐบาลก็จะสลายหมด และการยุบสภาการเลือกตั้งกันใหม่ก็มีปัญหา กว่าจะจัดรัฐบาลได้ต้องใช้เวลา 3-4 เดือน เศรษฐกิจก็จะหยุดชะงัก” 

นายบรรหาร กล่าวอีกว่า อยากให้ นปช.ย้ายจากราชประสงค์ไปอยู่ที่ผ่านฟ้าตามเดิม หรือจำกัดขอบเขตอยู่ราชประสงค์อย่าก้าวไปไกล สงสารเศรษฐกิจย่านนั้น  พร้อมขอให้ช่วยกันได้คนละไม้คนละมือ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมและประชาชนทั้งประเทศ ไม่ควรแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน 

จากนั้น อดีตนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามของสื่อมวลชน กรณีข้อเสนอของอดีต 2 นายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ  และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ว่าจะต้องนำเรื่องเข้าเฝ้าฯ ว่า เป็นเรื่องไม่บังควรอย่างยิ่งในเหตุการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ โดยขอให้พล.อ.ชวลิต คิดใหม่และคิดดี ๆ เพราะเรื่องการเมืองก็ต้องแก้ด้วยการเมือง ขณะที่สถานการณ์ต้องดูเหตุการณ์วันต่อวันไป  แต่สิ่งที่เสียหายที่สุดคือการลงทุน การท่องเที่ยว เศรษฐกิจถดถอย  มีผลเสียหายต่อประเทศชาติ กว่าจะฟื้นได้อีกคงเป็นปี ที่จริงตอนนี้ก็น่าเห็นใจรัฐบาล นายกฯ ก็พยายามจะแก้ปัญหาอยู่ตลอดเวลา พยายามทำให้กฎหมายเป็นกฎหมาย ไม่อยากจะให้กฎต่าง ๆ มาอยู่เหนือกฎหมาย ซึ่งก็ต้องให้เวลารัฐบาล