กระบวนการเริ่มแล้ว กสม. เดินหน้าเปิดพื้นที่คุยรบ.-เสื้อแดง
ศ.ดร.อมรา พงศาพิชญ์ หวังกระบวนการทำงานต่าง ๆ จะนำไปสู่สันติภาพในสังคมโดยเร็ว ย้ำชัด ระยะแรกพ.ต.ท.ทักษิณยังไม่จำเป็นเข้าสู่การเจรจา ขณะที่รัฐบาลตอบรับไม่ขัดข้อง มีข้อแม้อย่าคาดคั้นรูปแบบการพูดคุย
วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.20 น. ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ศ.ดร.อมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายชูชัย ศุภวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และคณะ ได้แถลงข่าวถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง
ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวแสดงความชื่นชมที่รัฐบาลมีความอดทนในการดูแลสถานการณ์บ้านเมือง เคารพเสรีภาพในการชุมนุมที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะเป็นการชุมนุมของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ทางรัฐบาลได้ใช้ความพยายามในการดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุมมาโดยตลอด และได้มีการประสานกับผู้ชุมนุมอยู่เป็นระยะ ๆ แต่ทางผู้ชุมนุมยังมีความกังวล และฝากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมาหารือกับรัฐบาลว่า อยากจะมีพื้นที่ที่จะคุยกันด้วย ดังนั้น ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงได้นำข้อเสนอของผู้ชุมนุมมาหารือกับนายกรัฐมนตรี
ศ.ดร.อมรา กล่าวว่า รัฐบาลได้ใช้ความอดทนในการดูแลสถานการณ์การชุมนุม แต่ขณะนี้ยังมีความกังวลอยู่ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีหลายกลุ่ม และวิธีการนำของผู้ชุมนุมก็มีหลายรูปแบบ ไม่มีเอกภาพ ทำให้การดูแลผู้ชุมนุมยากลำบากทั้งในเรื่องความปลอดภัย และความสงบ ซึ่งกรรมการฯ ได้นำข้อเสนอเชิงข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับผู้ชุมนุมหลัก คือ จะชุมนุมโดยสงบ และรัฐบาลจะดูแลด้วยความสงบเรียบร้อย โดยมีข้อตกลงร่วมกันคือการไม่ปิดล้อมสถานที่ซึ่งเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรัชทายาท รวมทั้งสถานที่ราชการ โรงพยาบาล สนามบิน และสถานเอกอัครราชทูต องค์การสหประชาชาติ แต่รัฐบาลขอเพิ่มว่าน่าจะมีการตกลงว่าจะต้องไม่มีการปิดล้อมบ้านพักของนายกรัฐมนตรี ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการปิดล้อมบ้านพักของบุคคลย่อมเป็นการละเมิดสิทธิ
“ รัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือจะใช้ก็ต่อเมื่อกรณีที่จำเป็นจริง ๆ และถ้าจำเป็นจริง ๆ ที่จะต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็จะไม่ทำให้กระทบสิทธิพื้นฐานของประชาชน จะดำเนินการตามหลักสากล และคำวินิจฉัยของศาลปกครอง นอกจากนี้ รัฐบาลพร้อมที่จะเปิดให้มีการเจรจา หากการเจรจานั้นจะนำไปสู่ข้อยุติทางการเมือง และความสงบ โดยต้องมีการเคารพกติกาด้วยกันทุกฝ่าย ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และรัฐบาลเห็นพ้องกันว่าการพูดหรือยั่วยุให้เกิดความรุนแรง การข่มขู่คุกคาม ส่งเสริมให้ผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรง หรือเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานด้วย”
สุดท้ายในนามของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะพยายามทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมกับรัฐบาลและผู้ชุมนุมและฝ่ายต่าง ๆ ในสังคม และหวังว่ากระบวนการทำงานต่าง ๆ เหล่านี้จะนำไปสู่สันติภาพในสังคมโดยเร็ว
จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทางประธานและกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ และว่า ถ้าการเคลื่อนไหวชุมนุมอยู่ในกติกา รัฐบาลไม่ขัดข้องในการที่จะมีการพูดคุย เพราะว่าประเด็นทางการเมือง การจะหาคำตอบทางการเมืองรัฐบาลก็ยอมรับกระบวนการของการมีส่วนร่วมและต้องรับฟังทุกฝ่ายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสามารถที่จะนำคำตอบนี้ไปพูดคุยกับผู้ชุมนุมได้
“ในชั้นนี้กรุณาอย่าคาดคั้นว่ารูปแบบของการพูดคุยนั้นจะต้องเป็นใคร โดยใครอย่างไร เพื่อประโยชน์ในการที่จะทำให้กระบวนการเกิดขึ้นได้ ถ้าเราคาดคั้นในเรื่องรายละเอียดกันมากเกินไปในขณะนี้ ก็จะเป็นปัญหาสำหรับคนทำงาน ผมมีความจริงใจในการที่ให้มีการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล แต่บนเงื่อนไขของการชุมนุมที่อยู่ภายใต้กติกา ถ้าการชุมนุมซึ่งนอกจากกติกาแล้ว ผมไม่อาจที่จะเข้าสู่กระบวนการในการพูดคุยได้ เพราะไม่อาจที่จะทำให้สังคมต้องอยู่ภายใต้หรือเดินตามการข่มขู่ คุกคาม แต่ถ้าสังคมเห็นการมาของพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ที่อยู่บนแนวของสันติ รัฐบาลก็มีหน้าที่รับฟัง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของรูปแบบการเจรจาที่จะเกิดขึ้นนี้คิดว่าจะเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาเท่าไร และถ้าหากว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการเจรจาแล้ว สามารถที่จะหาข้อยุติร่วมกันได้หรือเปล่า ศ.ดร.อมรา กล่าวว่า การเจรจาเริ่มแล้ว การเจรจาเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาและหลายขั้นตอน จะต้องกลับไปกลับมา เพราะฉะนั้นส่วนนั้นคงเป็นระยะหลัง ๆ ระยะแรก ๆ ยังไม่ได้จำเป็น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หมายถึงว่าสุดท้าย พ.ต.ท.ทักษิณก็ควรจะเข้าสู่การเจรจานี้ด้วยถึงจะได้บทสรุปที่ชัดเจนใช่ไหม ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ กล่าวว่า ไม่จำเป็น แล้วแต่สถานการณ์จะเคลื่อนตัวไป การคุยจะล้ำไม่ได้ จะค่อย ๆ เคลื่อนไป ไม่มีสูตรสำเร็จและไม่มีตัวชี้วัด สถานการณ์จะนำไปสู่ขั้นต่อ ๆ ไป กำหนดล่วงหน้าไม่ได้