ธรรมะจาก "ว.วชิรเมธี" หากชายแดนใต้ไม่สงบ ไทยทั้งชาติก็ไม่สงบ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สถานีวิทยุ เอฟเอ็ม 96.5 เมกกะเฮิร์ตซ์ "คลื่นความคิด" ร่วมกับวิทยุ อสมท ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพิ่งจัดกิจกรรม "สานรัก ปันน้ำใจ สู่พี่น้องชายแดนใต้" เพื่อหาทุนให้กับมูลนิธิต่างๆ ที่ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนในดินแดนด้ามขวาน โดยไฮไลท์ของงานช่วงหนึ่งอยู่ที่การเทศนาธรรมของ ว.วชิรเมธี

พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (บุญถึง) หรือที่รู้จักกันดีในนามปากกา "ว.วชิรเมธี" แห่งวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เป็นพระนักวิชาการรุ่นใหม่ และเป็นนักบรรยายธรรมผ่านสื่อรูปแบบต่างๆ ทั้งหนังสือ วิทยุ และโทรทัศน์ นับเป็นภิกษุชื่อดังแห่งยุค ผลงานที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ การประพันธ์บทละครโทรทัศน์และหนังสือเรื่อง "ธรรมะติดปีก" รวมทั้งเพลงประกอบละครธรรมะมากมาย จนได้รับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักรจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีฯ ในงานสัปดาห์พระพุทธศาสนาวิสาขบูชาประจำปี 2550

โอกาสนี้ ท่าน ว.วชิรเมธี กล่าวถึงหลักธรรมเพื่อคลี่คลายปัญหาความตึงเครียดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ขอให้ทุกคนช่วยเหลือเอื้อเฟื้อกันด้วยความเป็นพี่น้องร่วมชาติ ไม่มีความชิงชังต่อกัน พึงระลึกไว้เสมอว่าทุกคนเป็นพี่น้องร่วมชาติกัน สิ่งนี้ถือเป็นธรรมะในใจ สามารถนำมาปฏิบัติได้ทุกคนทุกศาสนา เพราะจะช่วยให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบและสันติ

ส่วนตลอดหลายปีที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างผู้คน สองศาสนา อาทิ ทำร้ายพระสงฆ์ และสังหารพี่น้องชาวไทยมุสลิมนั้น ท่าน ว.วชิรเมธี ให้ข้อคิดว่า การที่ใครพยายามจะทำให้มีเรื่องราวบาดหมางคลางแคลงกันระหว่างศาสนา ขอให้ใคร่ครวญและเฝ้ามองเหตุการณ์อย่างถ่องแท้ อย่าวินิจฉัยเรื่องราวแต่ภายนอก ให้มีวิจารณญาณที่ลึกซึ้งแล้วค่อยสรุป มิฉะนั้นจะถูกชักจูงเข้าสู่แกนกลางของความขัดแย้ง

สำหรับในระดับรัฐบาลที่รับผิดชอบนโยบายการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่าน ว.วชิรเมธี แนะว่า ขอให้รัฐบาลและผู้รับผิดชอบให้ความสำคัญเรื่องชายแดนใต้ในระดับวาระแห่งชาติ จะต้องทำเรื่องนี้ให้เป็น "วาระแห่งชาติ" อย่ามองประเทศไทยแค่กรุงเทพมหานคร แต่ให้มองทั้งระบบ เพราะถ้าพื้นที่ชายแดนใต้ไม่สงบ ไทยทั้งชาติก็ไม่สงบ

อนึ่ง ท่าน ว.วชิรเมธี เกิดเมื่อวันที่ 29 ม.ค.2516 บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 13 เม.ย.2530 ณ พัทธสีมาวัดครึ่งใต้ ต.ครึ่ง อ.เชียงของ จ.เชียงราย โดยมี พระครูโสภณจริยกิจ เจ้าคณะอำเภอเชียงของ เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2537 ณ พัทธสีมาวัดครึ่งใต้ โดยมี พระราชสิทธินายก เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นพระอุปัชฌาย์ ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพฯ

ด้านกิจกรรม "สานรัก ปันน้ำใจ สู่พี่น้องชายแดนใต้" ของสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 96.5 "คลื่นความคิด" ที่ลานหน้าอาคารปฏิบัติการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในงานมีการจัดนิทรรศการและการออกร้านขายสินค้าของมูลนิธิที่ทำงานอยู่ในสาม จังหวัดชายแดนภาคใต้ และองค์กรภาคเอกชนต่าง ๆ อาทิ สินค้าพื้นเมือง อาหาร และงานหัตถกรรมจากฝีมือของครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรง มีการประมูลของรักของหวงจากดีเจ "คลื่นความคิด" มินิคอนเสิร์ต และทอล์คโชว์จากผู้จัดและศิลปินที่เข้าร่วมงาน รวมถึงฟังเทศนาธรรมจาก ท่าน ว.วชิรเมธี

รายได้จากการจัดงานครั้งนี้ทั้งหมดราว 1,500,000 บาท ได้สมทบทุนบริจาคให้แก่มูลนิธิต่างๆ ที่ทำงานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้รวม 5 มูลนิธิ ได้แก่ มูลนิธิบ้านรักษ์ไผ่, กองทุนเยียวยาเชิงคุณภาพ ภายใต้ มูลนิธิเพื่อการเยียวยาและสร้างความสมานฉันท์ชายแดนใต้ หรือ มยส., ศูนย์ฟ้าใส ภายใต้การทำงานของคณะทำงานด้านเด็ก "ครูหยุย-วัลลภ ตังคณานุรักษ์", นายแพทย์รอซาลี ปัตยะบุตร อดีตแพทย์ดีเด่นชนบท โรงพยาบาลรามัน จ.ยะลา และโต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย