ส.ว.สมชาย ยันปชช.ไม่ได้ประโยชน์จากการแก้ รธน.
“วรินทร์ เทียมจรัส” ย้ำต้องทำประชามติก่อนแก้รัฐธรรมนูญ และต้องแก้บนหลักการที่ให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด อย่าเพียงแค่ใช้กระแสชักนำพร้อมชี้ ที่มาของ ส.ว. ไม่ใช่ข้อพิสูจน์ว่าประเทศไทยมีความเป็นประชาธิปไตย
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา สรรหา หนึ่งในกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวถึงปัญหาใหญ่ของประเทศไทยขณะนี้ ที่มีกลุ่มสีต่างๆ ว่า เกิดจากขาดการปฏิรูปการเมืองและสร้างความสมานฉันท์อย่างแท้จริง การมุ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียวเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ความขัดแย้งลดลง ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็น ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ก็เป็นเพียงกรรมการสมานฉันท์เสียงข้างมาก แต่อย่าลืมว่ามีกรรมการสมานฉันท์เสียงข้างน้อยที่ไม่เห็นด้วยอยู่
“การแก้ไขมาตรา190เรื่องการทำสนธิสัญญานั้นเป็นเพียงดอกไม้ประดับปะหน้า เป็นประเด็นลวง ประเด็นน้ำตาลที่เคลือบยาขมไว้เท่านั้น ส่วนอีก 5 ประเด็นนั้นเป็นเพื่อประโยชน์ส่วนตนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตราที่เกี่ยวกับเขตเลือกตั้ง การเลือกตั้งส.ว. หรือ ม.265,266 ที่ให้อำนาจส.ส.เป็นเลขานุการรัฐมนตรีเป็นที่ปรึกษาต่างๆ” นายสมชาย กล่าว และว่า ดังนั้นเห็นชัดเจนว่าได้นำ 5 ประเด็นที่ซ่อนไว้ใน 1 ประเด็นคือม.190 เพราะฉะนั้นคำตอบคือประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าจะแก้แล้วม.190 ยืนยันชัดเจนว่าทำได้ด้วยเสนอกฎหมายลูกเข้าสู่สภาเสียที ซึ่ง 2-3 ปีก็ไม่มีการเสนอ หาจะแก้ไขม.190 มาตราเดียวที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชน อยากถามว่า แล้วแต่ประเด็นที่เหลือเป็นประโยชน์ของใคร
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า จุดยืนไม่ใช่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไม่มีเหตุผลเพื่อประชาชน ซึ่งหากยังหาเหตุผลไม่ได้แล้วแก้ ก็จะนำไปสู่วิกฤติการเมืองอีกรอบ
ขณะที่นายวรินทร์ เทียมจรัส สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า รัฐบาลควรทำประชามติถามความคิดเห็นของประชาชนก่อนว่าต้องการแก้หรือไม่ และจะแก้ประเด็นใด ทั้งนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมาจากหลักการที่ให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด อย่าเพียงแค่ใช้กระแสชักนำประชาชน และไม่ควรนำวาระซ่อนเร้นมาหลอกประชาชนเพื่อให้นักการเมืองได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ในประเทศต่าง ๆ มักไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญบ่อยครั้งมากเหมือนประเทศไทย
“ความล้มเหลวต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากรัฐธรรมนูญแต่มาจากการที่ไม่สามารถออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เหมือนกับการสร้างบ้านเสร็จแล้วแต่ไม่ได้นำเฟอร์นิเจอร์และสิ่งอำนวยความสะดวกเข้าไปใช้ แล้วไปโทษว่าบ้านไม่น่าอยู่”นายวรินทร์ กล่าว และเห็นว่า การแก้รัฐธรรมนูญเกี่ยวกับประเด็นที่มาของ ส.ว. ว่า หากต้องแก้ให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง ก็ต้องให้มีความชัดเจนจะใช้บรรทัดฐานอะไร หากใช้บรรทัดฐานเดียวกับ ส.ส. ก็ไม่ควรแก้เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นก็ให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้ว นอกจากนี้ยังเห็นว่า ความเป็นประชาธิปไตยไม่จำเป็นต้องมาจากเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนเท่านั้น
ส่วนนายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกวุฒิสภาแบบสรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองตอนนี้คงยังทะเลาะกันไปเรื่อยๆ เชื่อว่าภายใน 1 ปี ยังไม่สามารถจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้