วางหลักเกณฑ์คัดเลือกชุมชน เป็นพื้นที่นำร่องให้มีโฉนดชุมชน
คกก.ประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชนพิจารณาการกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการดำเนินงานโฉนดชุมชน พิจารณาชุมชนเพื่อดำเนินการสำรวจพื้นที่ในการดำเนินงานโฉนดชุมชนในพื้นที่นำร่อง
วันนี้ (18 ส.ค.) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 3701 อาคาร 3 ชั้น 7 อาคารรัฐสภา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน ครั้งที่ 2/2553 เพื่อพิจารณาการกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการดำเนินงานโฉนดชุมชน พิจารณาชุมชนเพื่อดำเนินการสำรวจพื้นที่ในการดำเนินงานโฉนดชุมชนในพื้นที่นำร่อง ในเบื้องต้นที่ประชุมได้เห็นชอบการกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการดำเนินงานโฉนดชุมชน ตามที่คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและระเบียบเสนอ ทั้งหมด 15 ข้อ เช่น เรื่องเกี่ยวกับที่ดินของรัฐที่สามารถอนุญาตให้ชุมชนเข้าใช้ประโยชน์ได้ คุณสมบัติของชุมชนและคณะกรรมการชุมชนที่สามารถยื่นคำขอได้ การยื่นคำขอแบบ และเอกสารหรือหลักฐาน เป็นต้น โดยมอบหมายให้อนุกรรมการด้านกฎหมายฯ ปรับแก้ข้อความบางข้อตามที่คณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชนแก้ไข หลังจากนั้น ให้แจ้งเวียนคณะกรรมการฯ เพื่อทราบ โดยให้เวลากรรมการพิจารณา 30 วัน หากกรรมการเห็นชอบก็จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป แต่ถ้ามีการแก้ไขก็ต้องนำเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้คัดเลือกชุมชนที่ได้คะแนน ตั้งแต่ 3 ถึง 6 คะแนน เป็นพื้นที่นำร่อง ซึ่งพิจารณาจากข้อมูลชุมชนที่สำนักงานโฉนดชุมชนได้รับจากชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะให้คะแนนจากข้อพิจารณาต่างๆ ที่ได้กำหนด รวม 6 ข้อ ดังนี้
1) การมีคณะกรรมการชุมชน 2) การมีกฎระเบียบของชุมชน 3) การมีขอบเขตของชุมชนที่ชัดเจน (การมีแผนที่แสดงขอบเขตของชุมชน) 4) ความเข้มแข็งของชุมชน (ชุมชนมีกิจกรรม) 5) การมีประวัติของชุมชน (เช่น ประวัติของคณะกรรมการชุมชน) 6) การลงพื้นที่หลังจากระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. 2553 มีผลบังคับใช้ โดยมีชุมชนที่ได้รับการคัดเลือกเป็นชุมชนนำร่องรวม 49 ชุมชน จำนวน 16 จังหวัด ได้แก่ ที่สาธารณะประโยชน์ 15 ชุมชน ที่ป่าสงวนแห่งชาติ 7 ชุมชน ที่อุทยานแห่งชาติ 6 ชุมชน ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 3 ชุมชน ที่ราชพัสดุ 6 ชุมชน ที่ป่าชายเลน 10 ชุมชน ที่ ส.ป.ก. 1 ชุมชน และที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย 1 ชุมชน
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบให้คณะอนุกรรมการสำรวจและตรวจสอบพื้นที่ในการจัดให้มีโฉนดชุมชนเชิญเจ้าของหน่วยงานที่เป็นเจ้าของพื้นที่มาประชุมชี้แจงทำความเข้าใจ พร้อมทั้งตั้งคณะทำงานในการสำรวจและตรวจสอบพื้นที่นำร่องในแต่ละภาครวม 4 ภาค ซึ่งคณะทำงานประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนภาคประชาชน โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2553