ภาคปชช."อุบลราชธานี" รวมตัวปฏิรูปประเทศไทย
คนอุบลฯ รุกปฏิรูปประเทศไทย ชี้ที่ผ่านมาลุกขึ้นทำแล้ว ส่งต่อนักการเมืองเหลวตลอด ครั้งนี้ต้องจำเป็นบทเรียน ตั้งคณะทำงานเร่งระดมสมองหาทางออกให้ประเทศในบริบทของพื้นที่ เน้นปัญหาความยากจน
ผู้สื่อข่าวรายงานวานนี้ (8 พ.ค.) ว่า ผู้ทำงานภาคประชาสังคมของจังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 40 คน ได้ร่วมระดมสมองหาทางออกให้กับวิกฤตประเทศไทย ณ บ้านน.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีตสว.อุบลราชธานี
น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ อดีต สว.อุบลราชธานี กล่าวถึงปัญหาของบ้านเมืองที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ว่า เกิดจากกลุ่มทุนใหม่ กับกลุ่มทุนเก่า แย่งชิงอำนาจ แย่งชิงผลประโยชน์กัน ผลก็คือประชาชนกลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มทุนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ผู้ที่มาร่วมประชุมในวันนี้ล้วนเป็นภาคประชาชนที่ทำงานมายาวนาน น่าที่จะรวบรวมประเด็นปัญหา หาทางออกอย่างเป็นรูปธรรม จัดให้เป็นระบบเพื่อนำสู่การแก้ปัญหาของประชาชนที่เสนอโดยประชาชน มองให้ข้ามรัฐบาล,นปช.ไปถึงความไม่ชอบธรรม ความเหลื่อมล้ำทางสังคมจึงจะสามารถแก้ปัญหาชาติได้ อีกจุดหนึ่งคือการทำงานครั้งนี้จะเป็นอิสระไม่ขึ้นกับรัฐบาล ไม่เช่นนั้นอาจจะกลายเป็นไม้ประดับให้รัฐแล้วไม่ก่อประโยชน์ให้ประชาชนเหมือนเดิม
ขณะที่แม่สมปอง เวียงจันทร์ ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูน กล่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงส่วนใหญ่ ก็คือชาวบ้านที่เดือดร้อนทุกข์ยากไม่มีทางออก ทำอย่างไรจึงจะสามารถดึงคนเหล่านี้มาปฏิรูปประเทศไทย โดยประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใคร เสนอให้เริ่มตั้งคณะทำงานรวบรวมปัญหาและทางแก้ระยะสั้น ระยะยาว แล้วเริ่มแก้ที่ระยะสั้นก่อน
ส่วนนายจำนง จิตนิรัตน์ องค์กรเข้าถึงสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริงภาคประชาชนมีการเคลื่อนใหญ่มาหลายครั้ง เช่น ธงเขียว จนได้รัฐธรรมนูญ 40 , กรณีสึนามิ ฯลฯ แต่พวกเราเคลื่อนเสร็จก็กลับบ้านส่งภารกิจต่อไปให้นักการเมือง เพราะถือว่า เขาคือตัวแทนประชาชน ผลก็คือล้มเหลวทุกครั้ง ต้องใช้กรณีเหล่านี้เป็นบทเรียนในเคลื่อนต่อไป
จากนั้น ที่ประชุมได้เห็นสอดคล้องกันว่าประเด็น “การแก้ไขปัญหาความยากจน” เป็นเรื่องใหญ่ที่ควรขับเคลื่อนก่อน และตั้งคณะทำงาน ฝ่ายวิชาการ รวบรวมปัญหาและแนวทางการแก้ไข ฝ่ายสื่อ ร่วมเผยแพร่สู่สาธารณะ และเครือข่ายภาคประชาชนแต่ละกลุ่มที่จะร่วมระดมความคิด ให้เสร็จก่อนวันที่ 16 พฤษภาคม 2553