สสส.ตั้งเป้า 10 ปี ขับเคลื่อน “จังหวัดน่าอยู่”

หมอสุภกร ระบุ  การขับเคลื่อนจังหวัดน่าอยู่โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด ไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบเดียวกัน ให้ยึดความต้องการของคนแต่ละจังหวัดเป็นหลัก  ด้าน “รองปลัด มท.” จี้ถึงเวลาเปลี่ยนความคิดพัฒนาบ้านเมืองจากสั่งการมาสู่การจัดการโดยท้องถิ่น

วันนี้ (25ก.พ.) เมื่อเวลา 09.00 น. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “การขับเคลื่อนจังหวัดน่าอยู่โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด” ณ ห้องประชุมแคทรียา โรงแรมรามากาเด้นท์ ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ  มีนายสมพร ใช้บางยาง  รองปลัดกระทรวงมหาดไทย  ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และตัวแทนจาก 22 จังหวัดเข้าร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดเพื่อกำหนดวิสัยทัศน์จังหวัดน่าอยู่ที่สุด วางเป้าหมายดำเนินงานภายใน 10 ปี โดยช่วงระยะ 1-3 ปีแรกสสส.จะสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อให้แต่ละจังหวัดสามารถขับเคลื่อนโครงการ

นายสมพร กล่าวว่า สสส.กับเครือข่ายโครงการปฏิรูปประเทศไทยที่มีศ.นพ.ประเวศ  เป็นประธาน มีแนวคิดว่าประเทศไทยถึงเวลาที่ต้องทบทวนความคิดในการพัฒนาบ้านเมืองอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาการพัฒนายังไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดที่ยึดการสั่งการจากระดับบนสู่ท้องถิ่น ต้องทำให้ท้องถิ่นเป็นองค์หลักพัฒนาพื้นที่เพื่อส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืน โดยมีสสส.คอยสนับสนุนและให้ท้องถิ่นดำเนินการผลักดันและร่วมกันปฏิบัติ สสส.จะไม่รับบทบาทหลักในการทำให้เกิด

“วันนี้สังคมบ้านเมืองเราแตกแยกมาก เกิดปัญหาต่างๆ ซึ่งเหล่านี้เป็นผลจากการพัฒนาที่ผ่านมา ซึ่งพัฒนาแบบไม่ได้ทำให้สังคมเข้มแข็งเน้นด้านเศรษฐกิจ ไม่ค่อยพูดถึงมิติสังคม ขณะนี้เราจึงให้ความสำคัญกับประชาชนและท้องถิ่นในการร่วมพัฒนาบ้านเมือง แม้ภาพของอบจ.อาจจะเล็ก แต่เมื่อนำภาพเหล่านี้ 75 พื้นที่ทั่วประเทศมารวมกันก็จะเห็นว่าทั้งหมดได้รับผิดชอบดูแลคนไทย 60 กว่าล้านคน หากสังคมอยู่ได้แต่ไม่มีความสุขก็ไม่ใช่สิ่งที่คนในสังคมปรารถนา”รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว

ส่วนนพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการสสส. กล่าวว่า สถานการณ์สังคมไทยในปัจจุบันมีหลายเรื่องที่ต้องร่วมกันปฏิรูป เช่น การศึกษา อาชีพ ระบบสวัสดิการ รวมถึงการสร้างจิตสำนึกใหม่ให้กับคนไทยเพื่อการมีสุขภาวะที่ดีของทุกคน โดยต้องอาศัยฐานการรวมตัวกันจากชุมชนเพื่อร่วมพัฒนาประเทศไทยให้เป็นประเทศที่น่าอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถเป็นไปได้จริงถ้าร่วมมือกัน แม้จะวางเป้าหมายไว้ภายใน 10 ปีข้างหน้าก็ตาม ทางสสส.เล็งเห็นความสำคัญเรื่องนี้จึงเกิดโครงการส่งเสริมให้ท้องถิ่นมาร่วมกันพัฒนาโดยเริ่มที่ภาคส่วนจังหวัด และสสส.พร้อมให้การสนับสนุนโดยไม่จำกัดจำนวนจังหวัด ทั้งนี้การผลักดันให้เกิดจังหวัดที่น่าอยู่นี้ไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบเดียวกันทุกจังหวัด แต่ละจังหวัดสามารถมีความน่าอยู่ในลักษณะเฉพาะตน ขึ้นอยู่กับความต้องการของทุกคนในจังหวัดนั้นๆ

ขณะที่นพ.ศราวุธ สันตินันตรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า ยอมรับว่าทิศทางการพัฒนาเช่นนี้เป็นเรื่องที่ดีมาก แต่แนวทางในการดำเนินการนั้นเป็นเรื่องยากในการปฏิบัติจริง ปัญหาคือจะเชื่อมโยงความร่วมมือระดับหมู่บ้าน ชุมชน อบต. อบจ.ได้อย่างไร และจะทำอย่างไรให้เกิดกระบวนการจัดการที่ดีได้

สำหรับการประชุมครั้งนี้มีตัวแทนจากอบจ. 22 จังหวัด เข้าร่วม ได้แก่ จ.หนองบัวลำภู, อำนาจเจริญ, หนองคาย, นครพนม, นครราชสีมา, สุรินทร์, อุดรธานี,มหาสารคาม,ร้อยเอ็ด ,เพชรบูรณ์, แพร่ ,ตาก, ปทุมธานี ,พังงา ,นราธิวาส, นครศรีธรรมราช, สมุทรสาคร, ระยอง, ภูเก็ต, สิงห์บุรี, นครนายก และตราด