หมอประเวศ แนะคนในท้องถิ่น-นายกอบจ.ผสานพลังสร้างจังหวัดน่าอยู่
เชื่อมั่นประเทศไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 100% หากมีการกระจายอำนาจไปสู่ชุมชน เน้นการสร้างความคิด และเกิดการมีส่วนร่วมจากคนในท้องถิ่น
วันนี้(25 ก.พ. ) เวลา 09.00 น.ที่ โรงแรมรามาการ์เด้น กรุงเทพมหานคร ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส บรรยายพิเศษ เรื่อง “องค์การบริหารส่วนจังหวัดกับการพัฒนาสู่จังหวัดน่าอยู่ที่สุด ในงานการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การขับเคลื่อนจังหวัดน่าอยู่ที่สุด โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)” จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า ประเทศไทยมีทรัพยากรต่างๆมาก จะพัฒนาเป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกที่แท้จริงต้องมาจากการสร้างท้องถิ่น ในอดีตเราลืมความสำคัญกับท้องถิ่น มุ่งแต่พัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ ดังนั้น การที่จะมุ่งให้ชุมชนสร้างความเข้มแข็ง พึ่งพิงตัวเอง สร้างความเป็นอยู่ที่ดี ทุกพื้นที่จะต้องกลายต้องเป็นพื้นที่น่าอยู่ที่สุด โดยต้องเริ่มจากร่วมมือร่วมใจของคนในท้องถิ่น และให้นายกอบจ. ในพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เป็นผู้นำทางความคิดในการขับเคลื่อนสู่การเชื่อมโยงการพัฒนาระดับประเทศ เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่ที่รู้ปัญหาชุมชน
“อบจ.จัดได้ว่าเป็นองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ที่ใหญ่ที่สุด และดูแลการทำงานใน 3 ภาคส่วน คือ อบต. เทศบาล และ อบจ. นายกอบจ.มาจากการเมืองท้องถิ่น ควรกำหนดและจัดทำแผนยุทธศาสตร์ขึ้นใช้เอง เพื่อประโยชน์ในท้องถิ่น ต่างจากผู้ว่าราชการจังหวัด ที่อาจจะมีข่าวว่ามีการโยกย้ายในบางพื้นที่ ปีละ 3 ครั้ง ซึ่งการบริหารงานจะไม่เต็มที่ โดยนายกอบจ.จะต้องมีการรวบรวมเครือข่ายท้องถิ่นให้เข้มแข็งในทุกระดับ ทั้งภาคประชาชน องค์กร ส่วนราชการ สถาบันการศึกษา เข้ามาช่วยกำหนดเป้าหมายยุทธศาสตร์ท้องถิ่นในทิศทางเดียวกัน”
ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงการใช้แผนพัฒนาระดับประเทศที่รัฐมอบแก่ท้องถิ่น เพื่อนำไปใช้ในการจัดการพัฒนาว่า มักไม่ได้ผล และไม่เพียงพอต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เนื่องจากแผนยุทธศาสตร์เดิมนั้นใช้กรมเป็นตัวตั้งในการทำแผน แต่ไม่ได้เน้นความแตกต่างทางด้านพื้นที่ ดังนั้น การจัดการที่ดีที่สุด คือ การสร้างพลังจากท้องถิ่น สร้างนโยบายจากพื้นที่ ช่วยสร้างพื้นที่ให้เป็นพื้นที่น่าอยู่ สร้างความต้องการที่แท้จริง และสร้างกรอบความคิดให้เกิดการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนเอง
“ทุกภาคส่วนในชุมชน ควรระดมความคิด สร้างจินตนาการความต้องการในชุมชน เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดี และมีสุข สร้างแผนยุทธศาสตร์แม่บทให้เกิดขึ้นเฉพาะในพื้นที่ โดยให้กรมเข้าไปช่วยได้เพียงแค่สนับสนุนเรื่องงบประมาณเพียงอย่างเดียว หากชุมชนสามารถสร้างแผนพัฒนาในชุมชนขึ้นมาเองได้ ชุมชนก็จะมีความเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อจังหวัดหนึ่งเข้มแข็ง การเชื่อมโยงเครือข่ายก็จะเกิดขึ้นทั่วประเทศ ได้อย่างมีคุณภาพ”
ราษฎรอาวุโส กล่าวอีกว่า การสร้างให้ชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็งทุกด้าน และก่อให้เกิดสุขภาวะที่ดีนั้น ต้องเริ่มจากการบูรณาการในจังหวัด จากตำบลสู่อำเภอ จนเชื่อมโยงจากจังหวัดหนึ่งสู่จังหวัดหนึ่ง และให้ครอบคลุมจนถึงระดับประเทศ เน้นให้มีการพัฒนาไปอย่างพร้อมกัน ในทุกส่วนและทุกๆจังหวัด สร้างสังคมให้มีดุลยภาพ เพื่อให้เกิดดุล สังคมก็จะมีสุข
“ในเมืองหลวง ก็เป็นอีกชุมชนหนึ่งที่สำคัญ ที่ควรสร้างความเข้มแข็งในชุมชน เช่น สร้างโรงเรียนในชุมชน ให้ชุมชนร่วมจัดการ แก้ไขหาแนวทางการพัฒนาเด็กและเยาวชน เน้นการมีส่วนร่วมความร่วมคิดร่วมทำระหว่างกลุ่มคนในชุมชนเพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่”
สำหรับแนวทางการสร้างชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็ง โดยให้นายกอบจ. เป็นผู้นำทางความคิด ราษฎรอาวุโส กล่าวว่า การสร้างพลังทั้งหมดต้องใช้หลัก 5 ข้อ คือ1.สร้างเป้าหมายและวิสัยทัศน์ร่วมของท้องถิ่นเพื่อรวมพลัง ทำให้เกิดจังหวัดที่น่าอยู่ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ภูมิปัญญา ประวัติศาสตร์ สิ่งแวดล้อม สุขภาพ การศึกษาและประชาธิปไตย 2. ต้องมีวิธีการดำเนินงานใช้หลัก RCN นั่นคือ R=Research ต้องสำรวจข้อมูลในจังหวัดโดยการดึงสถาบันการศึกษาเข้ามาช่วยทำข้อมูล C=Communication นำข้อมูลมาสื่อสารถึงกันทางสื่อต่างๆ N=Network คือ การเชื่อมโยงเครือข่ายระดับจังหวัด 3.สร้างภาคีร่วมในท้องถิ่น ให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ 4.เชื่อมโยงเครือข่ายที่ใหญ่มากขึ้นจากกลุ่มจังหวัดเป็นกลุ่มจังหวัด เพื่อการเกิดท้องถิ่นขนาดใหญ่ 5. จัดให้มีการประเมินผลการทำงานของจังหวัด ปี ละ 1 ครั้ง เพื่อการเปรียบเทียบการทำงานระหว่างจังหวัด
“หากเรามีการกระจายอำนาจไปสู่ชุมชนท้องถิ่น เน้นการสร้างความคิด และเกิดการมีส่วนร่วมจากคนท้องถิ่น จะช่วยให้ชุมชนฐานราก เข้มแข็ง เมื่อพื้นที่เข้มแข็ง ชุมชนเข็มแข็ง ก็จะนำไปสู่ระบบสู่การจัดการส่วนกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะผู้นำชุมชนท้องถิ่น จะมีความยั่งยืนในการจัดการพัฒนาได้มากกว่า การทำงานโดยระบบราชการ ที่อาจจะมีการสั่งโยกย้ายได้ตลอดเวลา หากอำนาจการตัดสินใจและการกระจายมุ่งตรงไปสู่ท้องถิ่นได้ และ อบจ.แต่ละจังหวัดสร้างจังหวัดที่น่าอยู่ที่สุดของประเทศทุกจังหวัด เชื่อว่าประเทศไทยจะชื่อว่าเป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 100%” ราษฎรอาวุโส กล่าว