ปธ.เครือข่ายเยาวชนฯ หวังนายกฯ คนใหม่จริงจังแก้ปัญหาการศึกษา

เครือข่ายเยาวชนเพื่อการปฏิรูป เดินสายโรดโชว์รับฟังปัญหา เงิน กยศ. ชี้การจัดสรรถูกทิ้งน้ำหนักไปที่ระดับอุดมศึกษา ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงจุดใหญ่อยู่ที่ระดับประถม ยันเยาวชนไทยต้องได้รับการพัฒนาตั้งแต่เล็ก
นายรัชฏะ ศรีบุญรัตน์ ประธานกรรมการเครือข่ายเยาวชนเพื่อการปฏิรูป ในคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.) กล่าวกับศูนย์ข้อมูลข่าวสารปฏิรูปประเทศไทย หลังการลงพื้นที่รับฟังปัญหาและข้อเสนอจากเยาวชนและบุคคลสนใจทั่วไปในประเด็นเงินกู้ยืมจากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งเป็นประเด็นย่อยในวาระการปฏิรูปการศึกษา ว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงรวบรวมปัญหา และสภาพข้อเท็จจริงของความทั่วถึงในการอุดหนุนการศึกษาที่ลดน้อยลง รวมถึงมีการตั้งสมมติฐานไว้ว่า เงินที่ให้กู้ยืมทางการศึกษามีจำนวนจำกัด ขณะเดียวกันการจัดสรรกลับถูกทิ้งน้ำหนักจำนวนมากไปที่ระดับอุดมศึกษา ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว จุดสำคัญอยู่ที่ระดับประถมศึกษา เพราะเยาวชนไทยต้องได้รับการพัฒนาตั้งแต่ยังเด็ก
“หากการพัฒนาในช่วงปฐมวัยมีความบกพร่องแล้ว จะไม่สามารถพัฒนาเซลล์สมองในทางกายภาพให้รองรับการเรียนรู้ต่อไปได้ จะเห็นได้ว่า เยาวชนที่รอดตัวมาเรียนในมหาวิทยาลัยได้ ต้องเรียนพิเศษจำนวนมา แข่งขันกันกวดวิชาและอ่านหนังสือเพิ่มเติมต่างๆ มากมายเพื่อจะเข้าสู่ระบบการศึกษา ซึ่งมาตรฐานความรู้ในระดับประถมและมัธยมไม่สามารถที่จะรองรับหรือมีมาตรฐานที่เพียงพอกับการเข้าเป็นนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาได้ ดังนั้น ควรจะมีการอุดหนุนการศึกษาที่รวมกลุ่มเยาวชนที่เล็กลงไปอีก เพื่อที่ในการศึกษาระดับปลายจะได้ไม่ต้องแข่งขันกันเรียนพิเศษเหมือนในปัจจุบัน”
นายรัชฏะ กล่าวว่า การลงทุนกับการศึกษา การถ่ายเทงบประมาณ ต้องพิจารณาว่า งบอะไรที่สมควรเปลี่ยนนำมาใช้ลงทุนกับการศึกษา เพราะที่จริงแล้วมีงบอยู่ แต่รัฐบาลอาจบอกว่าไม่มี ซึ่งทางเครือข่ายฯ จะเปิดเผยข้อมูลหลังจากที่มีการวิเคราะห์เรียบร้อยแล้ว ว่า งบที่ไหนที่จะเอามาเปลี่ยนแปลงเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาบุคลากรได้ โดยทางเครือข่ายฯ จะรวบรวมเป็นข้อเสนอออกแบบเชิงสถาบัน ว่า ในการพัฒนาวัยรุ่นหนึ่งคนให้มีศักยภาพพร้อมมากที่สุด ต้องประกอบไปด้วยหลายองค์ประกอบ ทั้งเรื่องสถาบันการศึกษา ภาวะโภชนาการ สิ่งแวดล้อม ฯลฯ
นายรัชฏะ กล่าวอีกว่า ข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปการศึกษาในประเด็นต่างๆ ทั้งกองทุนกู้ยืมทางการศึกษาที่มีความบิดเบี้ยว ทักษะที่ต้องเพิ่มเติมในศตวรรษที่ 21 ของวัยรุ่นและภาวะโภชนาการในเด็ก ทางเครือข่ายฯ จะรวบรวมและเสนอต่อคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป เพื่อนำเข้าสู่การประชุมสมัชชาปฏิรูประดับชาติครั้งที่ 2
“เราคาดหวังกับการเลือกตั้งครั้งใหม่ว่า จะได้รัฐบาลที่มีความเข้าใจในประเด็นเหล่านี้ ในช่วงนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะเลือกผู้แทนที่มีนโยบายใกล้เคียงกับทิศทางที่ได้ทำการสอบถามและขอความเห็นจากกลุ่มตัวอย่างเด็กทั่วประเทศมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นทิศทางที่บ่งบอกได้ว่า เด็กต้องการอะไร รวมถึงเป็นการวัดฝีมือรัฐบาลชุดหน้าด้วยว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร”
นายรัชฏะ กล่าวด้วยว่า การศึกษาไทยในวันนี้ มีปัญหาที่ซับซ้อนและถูกหมักหมมมาเป็นเวลานาน ฉะนั้น การแก้ไขปัญหา จำเป็นต้องใช้มาตรการและความเด็ดขาดของผู้นำรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะต้องจริงจังกับเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญพอๆ กับความมั่นคงของชาติ แต่ในการแก้ไขมีกลไกที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้าง ในขณะเดียวกันก็มีโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับฐานงบประมาณอยู่ด้วย
“ชะตาของประเทศไทยขึ้นอยู่กับเด็กและเยาวชนที่กำลังจะเติบโตขึ้นมา ฉะนั้น เราจะปูพื้นฐานให้เขามีกระบวนการในการคิด รวมถึงรัฐจะลงทุนกับพวกเขาอย่างไร ที่คุ้มค่ามากกว่าการใช้จ่ายไปในสิ่งที่เรียกว่า ‘ความมั่นคง’ แล้วไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ นี่เป็นประเด็นหนึ่งที่น่าสังเกต และที่สำคัญที่สุด การที่ทำให้วัยรุ่นคนหนึ่งได้รับการพัฒนาอย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ตกไปสู่กระบวนการคอรัปชั่นและการตัดตอน เหล่านี้เป็นเรื่องที่น่าท้าทาย”
