เปลี่ยนมุมคิด“โลก” ไม่ได้เป็นอย่างตะวันตก ฆ่าตัดตอน
ถึงเวลาที่คนไทยจะต้องมีมุมมองใหม่ สร้างจิตสำนึกใหม่
ในอดีตเราถูกสอนว่า เจมส์ วัตต์ ชาวสกอตแลนด์ ประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ำ ขึ้นในศตวรรษที่ 18 ส่วนเหล็กกล้า เราเชื่อว่า ตะวันตก ทำเหล็กกล้าได้เป็นครั้งแรก หลังจากปฏิวัติอุตสาหกรรมไปไม่นาน ส่วนปืนใหญ่ เราก็เข้าใจว่า ฝรั่งทำก่อนใครในโลก !!
แต่เมื่อค้นคว้าจะพบว่า มีหนังสือจีนที่ตีพิมพ์ ประมาณศ.ศ. 1313 มีแผนผังเครื่องจักรไอน้ำให้เห็นแล้ว ขณะที่ฝรั่งบอก เจมส์ วัตต์ เอาความคิดเรื่องเครื่องจักรไอน้ำมาจาก จอห์น วิลคินสัน ผู้พัฒนาเทคนิคคว้าลำกล้องที่เที่ยงตรงสำหรับปืนใหญ่ แต่หากไปดูผังเครื่องจักรไอน้ำของวิลคินสัน คล้ายของ “จีน” มาก
“จีน” รู้จักทำเหล็กกล้ามาตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล 2 พันปีที่แล้ว จีนรู้จักขุดน้ำมัน ซึ่งแต่เดิม “ตะวันตก” เข้าใจว่าเป็นพวกแรกที่รู้จักขุดน้ำมัน ที่เห็นและชัดเจนสุด เมื่อสหรัฐฯ ทำเหล็กกล้า และขุดเจาะน้ำมันลึกในกลางศตวรรษที่ 19 มักจะใช้ช่างจีน และเทคนิคจีนมาประกอบ
ส่วนการประดิษฐ์ปืนเล็กปืนใหญ่ จีนรู้จักทำก่อนยุโรป 50 ปี โดยเคยนำปืนใหญ่ไปรบตอนที่มองโกล เกณฑ์คนไปรบตียุโรป (หลังสมเด็จพระจักรพรรดิเจงกีส ข่าน)
ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ นักวิชาการ นำเสนอบนเวทีการประชุมเครือข่ายสถาบันทางปัญญา ปฏิรูปประเทศไทย เรื่อง “ ตะวันออก-ตะวันตก ใครสร้างโลกสมัยใหม่” ที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า อาหรับ เปอร์เซีย อินเดีย จีน รู้จักเดินเรือสมุทร มานาน รู้จักเส้นรุ้ง เส้นแวง เข็มทิศ เครื่องดูดาว ที่สำคัญรู้จักโลกกลม มาหลายร้อยปี ก่อนที่ยุโรปจะรู้จักโลกกลมเสียอีก
ที่ประหลาดใจสุด ดร.เอนก เล่าว่า ตอนไปพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของประเทศซีเรีย แล้วไปเจอลูกโลกกลมๆ ที่คนมุสลิมทำไว้ แต่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ขณะที่เราเรียนรู้มา มนุษย์รู้จักโลกกลมเมื่อ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เชื่อว่าโลกกลม เดินทางไปทางตะวันตกเพื่อกลับไปทางตะวันออก ซึ่งก่อนหน้านั้นหลายร้อยปี จีน อาหรับ อินเดีย เข้าใจว่า โลกกลม เพราะตำแหน่งของดาวเปลี่ยนตลอดเมื่อเดินเรือไปไกลๆ”
ไม่เพียงเท่านี้ ดร.เอนก ยังพบว่า อินเดียรู้จักคิดดอกเบี้ยมานานแล้ว จีน อินเดีย อาหรับ รู้จักธนบัตรก่อนฝรั่งนานทีเดียว “ ในอดีต อะไรที่เราคิดไม่ออก เราไม่ค่อยกล้าคิดว่า ตะวันออกเคยเจริญมาก่อน ตะวันออกเคยเป็นครู เราไม่กล้าคิด แต่เวลานี้ มองไปข้างหน้า เห็นแนวโน้มชัดเจน แม้แต่คำว่า การพัฒนา ความคิดที่ว่า อะไรที่ไม่ใช่แบบตะวันตก จะต้องเป็นสิ่งที่ล้าสมัย ถึงวันนี้น่าจะไม่ใช่แล้ว”
วันนี้...เศรษฐกิจจีน (นับเป็นเงินดอลล่าร์)โตเป็นอันดับ 3 ของโลก เงินสำรองระหว่างประเทศมากที่สุดในโลก วันนี้...สหรัฐฯ ไม่สนใจประชุมจี-8 สนใจแต่ประชุม จี-2 ซึ่งก็คือ สหรัฐฯ กับจีน ไม่เฉพาะ จีน โลกอาหรับ ที่เราคิดว่า เอาแต่ “รบ” กัน ทุกวันนี้ทำธุรกิจเป็นว่าเล่น
ดร.เอนก เผยข้อมูลอีกว่า อาบูดาบี มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูงเป็นอันดับ 2 รองจากจีน นักวิชาการหัวก้าวหน้ามอง ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับโลกมุสลิม ใกล้เคียงกับการฟื้นเส้นทางสายไหมขึ้นมาใหม่ เพียงแต่ไม่ได้เป็นทางสายไหมที่เดินทางบก เท่านั้นเอง
“ส่วนอินเดีย เก่งไม่เก่ง ซื้อบริษัทจากัวร์ของอังกฤษเรียบร้อยแล้ว กำลังทำรถอินเดียราคาต่ำกว่าแสนบาท” ดร.เอนก กล่าว และว่า ถึงวันนี้ ไม่เคยคิดว่า จะมีวันที่นักวิชาการมาคุยกันว่า ลมตะวันออกจะพัดกลบลมตะวันออกได้จริงหรือ ไม่ วันนี้เราต้องมาคิดอะไรใหม่พอสมควร สนใจความรู้ตะวันออกมากขึ้น
ในมุมมองของ ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาสุโส กล่าวถึง มุมมองเก่า จินตาการเก่า ว่า เกิดจากความเชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรม นาย-ไพร่ กับการสวมแว่นตะวันตก
“หากเรามองด้วยแว่นยุโรปที่เขาใส่ให้เรามอง ทุกคนไม่มีเกียรติ ไม่มีศักดิ์ศรี ไม่เจริญ โง่เขลา ขาดความรู้ ขณะที่การจัดการศึกษาสมัยก่อนของไทย ก็จัดแบบไม่มีความรู้ จัดแบบต่อท่อความรู้จากยุโรปมาไทย เป็นความรู้ชนิดตัดแปะ ยึดตำราจากฝรั่ง เคารพความรู้ตามตำรา” ราษฎรอาวุโส เห็นว่า การระเบิดพลังจิตสำนึกแห่งความเป็นคน บวกกับมุมมองใหม่เกี่ยวกับประเทศไทย จะเป็นพลังมหาศาลทีขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สันติสุข วันนี้เราประจักษ์แล้วว่า โลกไม่ได้เป็นอย่างที่ตะวันตกฆ่าตัดตอนความคิด ครอบงำทัศนวิสัย
การสร้างจิตสำนึกใหม่ ปรับจิตสำนึกและวิธีคิดใหม่ จึงเป็นบันไดขั้นแรก เป็น 1ใน 10 ประเด็นใหญ่ ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทย ให้เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก
เวลานี้ คงต้องกลับมาช่วยคิดแล้วว่า ทำอย่างไรให้คนไทย ภูมิใจในรากเหง้าของตนเอง เพื่อให้เกิดมุมมองใหม่ จินตนาการใหม่ที่จะพาไทยออกจากวิฤต ซึ่งถือเป็นจุดช่วยปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นจริง