จุฬาฯประกาศ 8 ส.ค.วันรายออีฎิ้ลฟิตริ บึ้มไม่หยุด อส.เจ็บ4
จุฬาราชมนตรีประกาศกำหนดวันอีฎิ้ลฟิตริ ปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 ตรงกับวันที่ 8 ส.ค. หลังมีผู้เห็นดวงจันทร์หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าวันที่ 7 ส.ค. ชายแดนใต้คึก มุสลิมหลายพันคนแห่ขึ้นภูเขาบูเก๊ะปาเระ อ.ยะหา ไปรอดู ขณะที่สถานการณ์ใต้ป่วนส่งท้ายรอมฎอน จุดชนวนระเบิดถังดับเพลิงโจมตีรถ อส.ยะลา ขณะเดินสายแจกข้าวสารตามมัสยิด ตูมสนั่นเจ็บ 4 นาย ด้าน "ประชา" สยบข่าว "ฮัสซัน ตอยิบ" ถอดใจไขก๊อกพ้นทีมเจรจา คลิปว่อนเน็ตอ้างมติสภาซูรอบีอาร์เอ็นล้มโต๊ะพูดคุยสันติภาพ
เว็บไซต์ของสำนักจุฬาราชมนตรี http://www.skthai.org/ ได้เผยแพร่ประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง กำหนดวันอีฎิ้ลฟิตริ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 ความว่า ตามที่ ข้าพเจ้า นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้ประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันที่ 1 ของเดือนเซาวาล (วันอีฎิ้ลฟิตริ) ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 ในวันพุธที่ 7 ส.ค.2556 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้านั้น ปรากฏว่าในวันและเวลาดังกล่าวมีผู้เห็นดวงจันทร์ จึงขอประกาศว่า วันอีฎิ้ลฟิตริ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 8 ส.ค.2556
ก่อนพลบค่ำที่ชายแดนใต้ มีพี่น้องมุสลิมหลายพันคนเดินทางไปดูดวงจันทร์ที่ศาลาชมดวงจันทร์บูเก๊ะปาเระ ด้านหลังโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา โดยในช่วงเย็นได้มีฝนตกลงมา ทำให้หลายคนพูดว่าท้องฟ้าอาจมีเมฆมากจนไม่สามารถมองเห็นดวงจันทร์ ทว่าเมื่อดวงอาทิตย์ใกล้ตกดิน ปรากฏว่าฟ้าเปิด กระทั่งดวงอาทิตย์ตกดินจึงมีผู้เห็นดวงจันทร์
สำหรับข้าราชการระดับสูงและบุคคลสำคัญในพื้นที่ที่ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมกับพี่น้องมุสลิมที่ศาลาชมดวงจันทร์ ก็เช่น นายอุดร น้อยทับทิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายมุขตาร์ มะทา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา นายสะมะแอ ฮารี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา นายปรีชา ชนะกิจกำจร นายอำเภอยะหา เป็นต้น โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยด้วย
ใต้ป่วนส่งท้ายรอมฎอน-บึ้มรถ อส.เจ็บ 4
ด้านสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงวันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 12.30 น.วันพุธที่ 7 ส.ค. คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ในถังดับเพลิง น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม ซุกในท่อระบายน้ำใต้ถนน เพื่อโจมตีรถยนต์ของอาสารักษาดินแดน (อส.) อ.เมืองยะลา ขณะขับอยู่บนถนนทางเข้าหมู่บ้านที่แยกมาจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 418 (ยะลา-ปัตตานี) ห่างประมาณ 200 เมตร ท้องที่บ้านทุ่งยามู หมู่ 4 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา
ทั้งนี้ แรงระเบิดทำให้รถกระบะของ อส.เสียหลักตกข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย คือ นายอาลียะ สาแม อายุ 40 ปี นายสฤษฎ์ วิจิตรพันธ์ อายุ 26 ปี นายกฤษณะพงศ์ โอภางค์กูร อายุ 26 ปี และ นายปรีชา มะยุ อายุ 39 ปี ทั้งหมดเป็น อส.ประจำ อ.เมืองยะลา
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบและสอบสวนจนทราบว่า อส.ชุดดังกล่าวกำลังปฏิบัติภารกิจนำข้าวสาร อาหารแห้ง ไปมอบให้กับมัสยิดในพื้นที่ ต.ยุโป กับ ต.ลำใหม่ เมื่อผ่านจุดเกิดเหตุ คนร้ายได้ใช้แบตเตอรี่กดจุดชนวนระเบิดที่ซุกไว้ในท่อระบายน้ำใต้ถนน โดยลากสายไฟยาวเข้าไปข้างทาง จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น รถกระบะเสียหลักตกถนน และ อส.ได้รับบาดเจ็บ 4 นายดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ก่อนหน้านั้น เวลา 02.50 น. คนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงเยาวชนอายุ 17 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.ยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 409 ท้องที่บ้านละมุด หมู่ 3 ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ
เวลา 05.30 น.พบศพชายไม่ทราบชื่อ บริเวณบ้านบาโงยือแม็ง หมู่ 5 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ตรวจสอบต่อมาทราบว่าคือ นายฮัมดัม วาจิ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 5 ต.กะรุบี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน
เวลา 18.15 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนลูกซองยิง นายมะซาอุดี มะดาวี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 บ้านสะปอม หมู่ 13 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบริเวณริมคลองชลประทานบ้านสะปอม หมู่ 13 ต.กะลุวอเหนือ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว
"ประชา"ปัด"ฮัสซัน"ถอดใจไขก๊อกเจรจา
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงข่าว นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำบีอาร์เอ็น ขอถอนตัวจากการเป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติภาพกับรัฐบาลไทย เพราะข้อตกลงหยุดยิงช่วงเดือนรอมฎอนล้มเหลวว่า ยังไม่มีการพูดถึงประเด็นนี้ ยืนยันว่ายังคงมีการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็นต่อไป อีกทั้งฝ่ายของ นายฮัสซัน ก็ได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนแล้วว่าไม่มีอะไรดีมากกว่าการพูดคุยที่จะนำไปสู่ข้อยุติที่ดี ดังนั้นการพูดคุยจึงต้องมีต่อไป รวมถึงนายฮัสซันก็ยังยืนยันว่าจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของกลุ่มบีอาร์เอ็นต่อไปด้วย
ส่วนความคืบหน้าคดีคนร้ายจ่อยิง นายยะโก๊ป หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี เสียชีวิตกลางตลาดจะบังติกอ อ.เมืองปัตตานี เมื่อเย็นวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุรุนแรงที่กระทำต่อผู้นำศาสนาคนสำคัญ และยังเกิดในพื้นที่ชุมชนนั้น พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ในที่เกิดเหตุได้พบปลอกกระสุนปืนที่ฝ่ายผู้ก่อเหตุรุนแรงเคยใช้ก่อเหตุมาก่อนแล้ว และจากหลักฐานที่ได้สืบสวนสอบสวน ทราบตัวผู้กระทำที่แน่นอน คาดว่าจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาอย่างน้อย 2-3 คนในเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่ขอระบุว่าคนร้ายเป็นสมาชิกกลุ่มใด รวมถึงยังไม่ฟันธงถึงสาเหตุของการสังหารด้วย
อ้างมติสภาซูรอบีอาร์เอ็นล้มโต๊ะพูดคุย
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพุธที่ 7 ส.ค.ยังมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอคำแถลงเป็นภาษามลายู และคำแปลเป็นภาษาไทย อ้างว่าเป็นมติของสภาซูรอ (ที่ปรึกษาอาวุโส) ของบีอาร์เอ็น ระบุว่าจะไม่สานต่อกระบวนการพูดคุสันติภาพ และจะไม่มีตัวแทนของบีอาร์เอ็นในการพูดคุยสันติภาพกับตัวแทนของทางการไทย เพราะฝ่ายไทยผิดข้อตกลงลดเหตุรุนแรงช่วงรอมฎอน และไม่ได้ปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ตลอดจนเงื่อนไข 7 ข้อที่เสนอก่อนหน้านี้เลยแม้แต่ข้อเดียว ทั้งนี้คำแถลงยังระบุด้วยว่าฝ่ายไทยซึ่งถูกเรียกว่า "นักล่าอาณานิคมสยาม" ไม่มีสิทธิอยู่ในผืนแผ่นดินปาตานีด้วย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : 1-4 บรรยากาศที่ศาลาชมดวงจันทร์บูเก๊ะปาเระ อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งมีการจัดกิจกรรมดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันอีฎิ้ลฟิตริ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 โดยมีพี่น้องมุสลิมหลายพันคนพร้อมใจกันขึ้นภูเขาไปรอชม (ภาพโดย อับดุลเลาะ หวังหนิ และ อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)