บึ้มระแงะซ้ำไม่สนกลุ่มต้านรุนแรง ส.ว.จี้ทบทวนเจรจาบีอาร์เอ็น
ชายแดนใต้ยังป่วนหนักไม่เว้นวันหยุด บึ้มอีก 3 ลูก ทหาร-ชาวบ้านเจ็บระนาว 11 คน เผยที่ระแงะกดระเบิดหลังฝ่ายปกครองจัดกิจกรรมรวมพลังมวลชนต้านความรุนแรง ส.ว.จากปัตตานีผิดหวังบทบาทเลขาฯสมช. จี้ทบทวนเจรจาบีอาร์เอ็นด่วน เหตุไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แถมยังเสียเปรียบหลายด้าน
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดต่อเนื่องในห้วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน โดยเมื่อเวลา 09.00 น.วันเสาร์ที่ 3 ส.ค.2556 คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการลาดตระเวนคุ้มครองเส้นทางของนาวิกโยธินกองทัพเรือ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 31 ขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณบ้านจาเราะ หมู่ 1 ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ประกอบด้วย จ.อ.ธีระศักดิ์ แก้วอินทร์ พลทหารประวิทย์ คำมะอิ พลทหารอาทิตย์ บุญทุน และ พลทหารเอกรัตน์ ชูชื่น
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบและสอบสวนจนทราบว่า ทหารชุดลาดตระเวนเส้นทางดังกล่าวมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ระหว่างทางได้พบพื้นที่ต้องสงสัยจึงได้หยุดรถ และลงจากรถจักรยานยนต์เพื่อเดินตรวจ จังหวะนั้นเองคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่นำไปวางไว้ริมถนนฝั่งตรงข้ามจนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น แรงระเบิดทำให้กำลังพลทั้ง 4 นายได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 12.00 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 ขณะเดินทางโดยใช้รถกระบะออกจากฐานปฏิบัติการเพื่อไปร่วมประชุม โดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 418 (ปัตตานี-ยะลาสายใหม่) ท้องที่บ้านวังกว้าง หมู่ 5 ต.ป่าไร่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี โดยคนร้ายประกอบระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนไว้ในรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง หรือโชเล่ย์บอมบ์ จอดดักไว้ริมถนน เมื่อรถของทหารแล่นผ่านได้กดจุดชนวนทันที แต่แรงระเบิดพลาดไปโดน นายอาดิะนัน ลาเต๊ะ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 2 ต.ประกอบ อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี ทำให้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลแม่ลาน ส่วนกำลังพลบนรถปลอดภัย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบเช่นกัน
ยิงชาวบ้าน"ปัตตานี-นราฯ"เจ็บ 2
ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า รุ่น 2 สีขาว หมายเลขทะเบียน ศ 999 ไม่ทราบหมวดจังหวัดเป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามยิง นายอาหามัดพิคี เจะมะ อายุ 29 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ (ผรส.) หมู่ 5 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี อยู่บ้านเลขที่ 25 บ้านชะเมาสามต้น ต.เตราะบอน ขณะที่ นายอาหามัดพิคี กำลังนั่งอยู่กับเพื่อนๆ รวม 6 คนที่บ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ โชคดีที่กระสุนพลาดเป้า ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
เวลา 12.30 น. มีรายงานว่าคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายอรรณพ ปูเต๊ะ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 299/3 หมู่ 9 ต.แว้ง อ.แว้ง จ.นราธิวาส และ น.ส.รัตนา ว่องไว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 302 หมู่ 9 ต.แว้ง ได้รับบาดเจ็บทั้งสองคน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบสาเหตุและพฤติการณ์ของคนร้าย
บึ้มระแงะซ้ำหลังรวมพลังต้านรุนแรง
ต่อมาเวลา 16.00 น. เกิดเหตุระเบิดทหารพรานชุดลาดตระเวน สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 1111 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 11 ขณะนั่งรถหุ้มเกราะรีว่าออกปฏิบัติหน้าที่บริเวณบ้านลูโฆ หมู่ 2 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เบื้องต้นมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 5 นาย ประกอบด้วย ร.ต.เหรียญทอง ไล่สงวน ส.ต.บุญเลิศ แก้วเขียวอาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ) นิพนธ์ สังข์ทอง อส.ทพ.ธรรมศักดิ์ ฆ้องบ้านโข่ง และ อส.ทพ.จักรพันธ์ ปะริปุโน
มีรายงานว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุงต้ม น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร แรงระเบิดทำให้รถรีว่าซึ่งเป็นรถหุ้มเกราะรุ่นใหม่พลิกคว่ำกระเด็นตกข้างทาง
ก่อนหน้านั้น บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอระแงะ จ.นราธิวาส นายสมหวัง เรืองเพ็ง นายอำเภอระแงะ เป็นประธานในพิธีรวมพลังของกลุ่มผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ อ.ระแงะ รวม 7 ตำบล เพื่อคัดค้านความรุนแรง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ การรวมพลังดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังคนร้ายลอบวางระเบิดในเขต อ.ระแงะ ถึง 2 วันซ้อน รวม 3 เหตุการณ์ ทำให้ทหารพรานเสียชีวิต 2 นาย ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย
ส่วนที่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ได้มีพลังมวลชนในพื้นที่ 4 ตำบลออกมารวมตัวแสดงพลังในลักษณะเดียวกัน โดย อ.จะแนะ เพิ่งมีเหตุสลดเมื่อคนร้ายลอบวางระเบิดดักสังหารตำรวจชุดรักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) แต่พลาดเป้าไปโดนรถยนต์ของคณะครูที่ขับตามมา ทำให้ครูสตรีเสียชีวิต 2 ราย ครูชายได้รับบาดเจ็บสาหัส
วันเดียวกันที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ขณะที่ พ.จ.อ.ตรีเพชร ศรีหะบุตร หัวหน้าชุดลาดตระเวนเดินเท้า สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 พร้อมพวกรวม 8 นาย ได้เดินลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางสายบาเจาะ-บ้านทอนอยู่นั้น ปรากฏว่าพบหลุมขนาดใหญ่ที่คาดว่าคนร้ายขุดเอาไว้เตรียมฝังระเบิดโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ บริเวณบ้านบือเร๊ะ หมู่ 7 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ จึงได้แจ้ง น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ กองทัพเรือ เข้าตรวจสอบ ซึ่ง น.อ.สมเกียรติ ได้เดินทางไปพร้อมกับประชาชนจำนวนหนึ่ง ปรากฏว่าประชาชนได้พากันตำหนิการกระทำจองกลุ่มก่อความไม่สงบอย่างกว้างขวาง
ส.ว.จี้ทบทวนวิธีพูดคุยเจรจาบีอาร์เอ็น
นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล ประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามและประเมินผลด้านการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ วุฒิสภา และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สายสรรหาจาก จ.ปัตตานี กล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างหนักทีชายแดนใต้ในช่วงนี้ว่า ส่งผลให้คนในพื้นที่ขาดความเชื่อมั่นในความปลอดภัย เพราะกลุ่มก่อความไม่สงบทำร้ายผู้บริสุทธิ์รายวัน ก่อนหน้านี้รัฐอ้างว่าขบวนการบีอาร์เอ็นมีเป้าหมายโจมตีแต่เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นเป้าแข็ง ไม่โจมตีเป้าหมายอ่อนแอคือประชาชน แต่วันนี้เห็นชัดเจนแล้วว่าไม่จริง เพราะเป้าหมายอ่อนแอก็ถูกโจมตี ชาวบ้านถูกทำร้าย ภาคเอกชน ภาคธุรกิจเสียหายยับเยิน (จากเหตุลอบวางเพลิง 13 จุดพร้อมกันเมื่อเช้ามืดวันที่ 2 ส.ค.)
ฉะนั้นรัฐต้องดูแลความปลอดภัยของประชาชนให้ได้ ไม่ใช่หวังแต่การเจรจากับขบวนการบีอาร์เอ็น ซึ่งสถานการณ์วันนี้พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่าล้มเหลว รัฐบาลต้องยอมรับและทบทวนวิธีการเจรจาว่ามีความผิดพลาดตรงจุดไหน
นายอนุศาสน์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับการพูดคุยสันติภาพ แต่คำถามคือวิธีการที่ทำอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่ การเจรจาต้องมีหลักประกันว่าเมื่อเจรจาแล้วขบวนการบีอาร์เอ็นต้องแสดงความจริงใจด้วยการลดเหตุรุนแรงลงด้วย ไม่ใช่ยิ่งพูดคุยความรุนแรงยิ่งเพิ่มขึ้น
เปรยผิดหวัง"ภราดร"-จี้รัฐเร่งเยียวยา
"ผมรู้สึกผิดหวังกับ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสมช. (สภาความมั่นคงแห่งชาติ) ที่เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นอ้างว่าจะขอไปถาม นายฮัสซัน ตอยิบ (แกนนำบีอาร์เอ็นที่ร่วมโต๊ะพูดคุย) ว่าใครเป็นคนทำ ถือเป็นความคิดที่ใช้ไม่ได้ ที่ผ่านมาถามไปก็ไม่เคยได้คำตอบ เพราะเขาไม่มีทางบอกความจริง ในทางกลับกันหลายกรณีบีอาร์เอ็นไม่เคยมาถามฝ่ายรัฐ แต่กลับออกยูทูบกล่าวหาว่ารัฐเป็นฝ่ายกระทำ ท่าทีเช่นนี้สะท้อนว่ารัฐเสียเปรียบในการเจรจา และเห็นชัดเจนว่าบีอาร์เอ็นถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด"
"ขณะนี้คนในพื้นที่ขวัญกำลังใจถดถอยลงมาก ธุรกิจเสียหาย ผมขอเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านและธุรกิจต่างๆ ที่ถูกโจมตี บริษัทห้างร้าน โรงงานยางพารา หลายคนต้องปิดกิจการ สิ้นเนื้อประดาตัว ไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอน ขณะที่การเยียวยากลับล่าช้า ติดขัดอยู่ที่เอกสาร หลักฐานตามระบบขั้นตอนของทางราชการ ซึ่งบางครั้งเอกสารถูกเผาอยู่ในกองเพลิง การประเมินความเสียหายก็ล่าช้า การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต้องมีความยืดหยุ่นตามสถานการณ์เพื่อช่วยเหยื่อจากเหตุการณ์ความไม่สงบได้อย่างทันท่วงที" นายอนุศาสน์ ระบุ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 เจ้าหน้าที่กำลังตรวจจุดเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถรีว่าของทหารพรานที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
2 ชาวบ้านและเด็กนักเรียนร่วมรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงในพื้นที่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส (ภาพโดย ปทิตตา หนูสันทัด)
หมายเหตุ : เสถียร วิริยะพรรณพงศา เป็นผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี