เลขาฯสมช.อ้างบีอาร์เอ็นรับบึ้มจะแนะ ปัดเจตนาฆ่าครู
"ภราดร" ประกาศกลางวงสัมมนาเหตุรุนแรงรอมฎอนลดฮวบ เป็นฝีมือผู้ก่อความไม่สงบแค่ 5-6 กรณีจากกว่า 20 เหตุการณ์ อ้างบีอาร์เอ็นยอมรับทำเอง "บึ้มจะแนะ" แต่ไม่ได้เจตนาฆ่าครู ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีฯ สถาบันพระปกเกล้า ห่วงไทยไร้ทักษะเจรจายุติขัดแย้ง ข้องใจบทบาทมาเลเซียบีบหนักโต๊ะพูดคุย ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ตึงเครียด มือมืดระดมติดป้ายผ้า-พ่นสีสเปรย์ข่มขู่ทหารไม่อยากตายให้ออกไป ยิงรายวันยังเพียบ ปู่กับหลานขวบครึ่งบาดเจ็บ
ที่หอประชุมกองทัพเรือ เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ก.ค.2556 ราชนาวิกสภาได้จัดปาฐกถาหัวข้อ "การเจรจาสันติภาพ ทางออกวิกฤติชายแดนใต้" เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่สังคมเกี่ยวกับการพูดคุยสันติภาพ ปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ กองทัพเรือ (ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้ ทร.) ร่วมบรรยาย
พล.อ.เอกชัย กล่าวถึงการพูดคุยสันติภาพว่า ทั่วโลกกว่า 100 ประเทศมีการใช้แนวทางการพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่ประสบความสำเร็จและจบลงด้วยดีเพียง 41 ประเทศ เช่น ไอร์แลนด์เหนือ แต่ก็ใช้เวลานานถึง 26 ปี อาเจะห์ อินโดนีเซีย ใช้เวลา 7 ปี เป็นต้น ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความสำเร็จคือนักการเมืองมีทักษะ มีความเชี่ยวชาญในการพูดคุยระหว่างประเทศ แต่ประเทศไทยไม่มีทักษะตรงจุดนี้
นอกจากนั้น การดำเนินการต้องมีความต่อเนื่องในทุกรัฐบาล หากในอนาคตมีการเปลี่ยนผู้นำประเทศ เปลี่ยนผู้ที่ดำเนินการพูดคุย เช่น เลขาธิการ สมช. กระบวนการก็ต้องเดินหน้าต่อไปให้ได้ สิ่งสำคัญคือฝ่ายรัฐต้องพยายามเปิดพื้นที่พูดคุยกับคนทุกกลุ่ม เพราะผู้เห็นต่างจากรัฐไม่ได้มีเพียงกลุ่มเดียว อย่างไรก็ตาม รู้สึกสงสัยในท่าทีของมาเลเซียที่พยายามบีบไทยและบีอาร์เอ็นให้ทำตามในสิ่งที่ต้องการ
"ตลอดเวลาที่ผ่านมาบีอาร์เอ็นรู้ทั้งหมดในสิ่งที่เราทำ ทั้งทางลับและเปิดเผย ดังนั้นไทยต้องพูดความจริง สิ่งสำคัญคือต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้เกิดขึ้น และต้องมีหน่วยค้นหาความจริง เช่น กรณีที่เกิดการสังหาร 6 ศพ (ที่ จ.ปัตตานี เมื่อ 1 พ.ค.) หากไม่ใช่ฝีมือบีอาร์เอ็นแล้วเป็นฝีมือใคร เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐก็ยืนยันว่าไม่ใช่ผู้กระทำ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต้องมาร่วมหาความจริงด้วยกัน" พล.อ.เอกชัย กล่าว
"ภราดร"อ้างบีอาร์เอ็นรับบึ้มจะแนะเอง
ขณะที่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า การพูดคุยสันติภาพกับบีอาร์เอ็นขณะนี้ถือว่าอยู่ในช่วงรอยต่อระหว่างก่อนการพูดคุยกับการพูดคุย ขอยืนยันว่ามาเลเซียเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก (facilitator) ไม่ใช่ผู้ไกล่เกลี่ย (mediator) แม้จะเข้าไปนั่งอยู่ในห้องประชุมด้วย แต่ก็เป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกเรื่องที่พักและสถานที่ประชุม
"สิ่งที่ยากที่สุดในการพูดคุยกับบีอาร์เอ็นขณะนี้คือ การทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่และนอกพื้นที่ ซึ่งคนนอกพื้นที่หมายถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศไทย ผมเห็นว่าการที่บีอาร์เอ็นออกมาแถลงข้อเรียกร้องผ่านเว็บไซต์ยูทูบถือเป็นเรื่องดี เพราะทำให้ไทยได้รู้ถึงข้อเรียกร้องต่างๆ ของบีอาร์เอ็นเร็วขึ้นว่าต้องการสิ่งใดบ้าง ขอยืนยันว่าการพูดคุยสันติภาพขณะนี้เป็นไปตามทฤษฎีและขั้นตอนทุกอย่าง ทั้งทางลับและเปิดเผย"
พล.ท.ภราดร ยังกล่าวถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งรัฐบาลไทยมีข้อตกลงลดเหตุรุนแรงร่วมกับบีอาร์เอ็นว่า เหตุรุนแรงลดลงอย่างชัดเจน มีประมาณ 20 เหตุการณ์ ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นฝีมือของขบวนการบีอาร์เอ็น 5-6 เหตุการณ์เท่านั้น โดยเฉพาะเหตุระเบิดที่ครูเสียชีวิตล่าสุด 2 รายที่ อ.จะแนะ บีอาร์เอ็นยอมรับว่าเป็นฝีมือของบีอาร์เอ็น น่าจะเป็นกลุ่มย่อย แต่ไม่ได้มีเจตนามุ่งทำร้ายครู
ด้าน น.อ.สมเกียรติ กล่าวว่า ในฐานะผู้ปฏิบัติเห็นว่าสิ่งสำคัญในการพูดคุยสันติภาพคือ สิ่งที่บีอาร์เอ็นต้องการต้องไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 1 (ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้) แต่ปรากฏว่าในส่วนของระดับล่างกลับมีการโฆษณาชวนเชื่อปลุกระดมเรื่องการแบ่งแยกดินแดน ส่วนตัวมองว่าการพูดคุยสันติภาพมีมุมที่ดีหลายมุม และประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงในพื้นที่ แต่สิ่งที่ต้องทำให้ได้คือเงื่อนไข 2 ข้อสำคัญที่ทำให้มีการออกมาต่อสู้ ได้แก่ การสูญเสียอัตลักษณ์ความเป็นตัวตน และการไม่ได้รับความเป็นธรรมของคนในพื้นที่
นายกฯประชุมสภา กห.สั่งเร่งงานพัฒนา
พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม (กห.) แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหมที่มี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุมและทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมเป็นครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่ง ว่า ในที่ประชุมได้มีการสรุปสถานการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงรอมฎอนและมีการปรับแผนให้รัดกุมตลอดเวลา หากเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในห้วงเวลาเดียวกันของปีก่อนๆ จะพบว่าสถิติก่อเหตุลดน้อยลง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) ได้กำชับให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ติดตามงานพัฒนารวมถึงโครงการต่างๆ ที่จะทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากกว่าเดิม ส่วนงานด้านยุทธการ ทางกองทัพภาคที่ 4 นั้น ดำเนินการได้ดีอยู่แล้ว
"เราพยายามสร้างให้ประชาคมโลกเห็นถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่โดยยึดหลักสันติวิธี การพูดคุยตามหลักกฎหมาย ยึดหลักมนุษยธรรม ขณะที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบพยายามทำทุกอย่างให้เกิดผลอีกด้านหนึ่ง เพราะปัจจุบันไม่มีฐานมวลชนแล้ว ประชาชนในพื้นที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง เนื่องจากส่งผลกระทบต่อครอบครัวคนในพื้นที่โดยตรง" โฆษก กห.ระบุ
ป้ายผ้าพรึ่บข่มขู่ทหารให้ออกจากพื้นที่
ด้านสถานการณ์ที่ชายแดนใต้ยังคงตึงเครียด โดยในช่วงเช้าวันเดียวกันยังมีกลุ่มบุคคลกระจายกำลังกันติดป้ายผ้าและพ่นสีพื้นถนนเป็นข้อความข่มขู่ทหาร ทำนองว่าถ้าไม่อยากตายให้ออกจากพื้นที่ไป โดยในเขต จ.ยะลา มีทั้งสิ้น 39 จุด แยกเป็น อ.รามัน 8 จุด อ.ยะหา 3 จุด อ.ธารโต 5 จุด อ.กาบัง 2 จุด อ.เบตง 2 จุด อ.กรงปินัง 1 จุด อ.เมือง 9 จุด และ อ.บันนังสตา 9 จุด
ส่วนที่ จ.นราธิวาส พบป้ายผ้าและพ่นสีสเปรย์เป็นข้อความลักษณะเดียวกันจำนวน 2 จุด ในพื้นที่ ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยได้วางวัตถุต้องสงสัยเอาไว้ด้วยทั้ง 2 จุด เป็นกระป๋องผลไม้ในน้ำเชื่อม มีสายไฟฟ้าต่อลวงเป็นวงจร แต่ภายในมีแต่เม็ดทราย ไม่มีดินระเบิด
ยิงรายวันยังเพียบ - ปู่บาดเจ็บพร้อมหลานขวบครึ่ง
เวลา 12.40 น. ขณะที่ นายแวอาลี แวสะมะแอ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 หมู่ 6 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี กำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายชนบท บ้านตาเนาะปูโยะ หมู่ 3 ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา เพื่อนำแผ่นยางพาราไปจำหน่ายนั้น ระหว่างทางถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงจนได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
เวลา 17.35 น.คนร้าย 4 คนมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายสุทิน คงสุวรรณ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143/3 หมู่ 3 ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส กระสุนปืนถูกบริเวณขาขวา ได้รับบาดเจ็บ และ ด.ช.วีรวัฒน์ คงสุวรรณ อายุ 1 ปี 6 เดือน ซึ่งเป็นหลานปู่ของนายสุทิน กระสุนปืนถูกบริเวณขาขวาได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เหตุเกิดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 ท้องที่บ้านปูตะ หมู่ 3 ต.ละหาร อ.ยี่งอ ขณะนายสุทินกำลังขี่รถจักรยานยนต์พา ด.ช.วีรวัฒน์ กลับบ้าน โดยคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์แซงรถของนายสุทินไปแล้ว จากนั้นเลี้ยวรถกลับมาก่อนใช้อาวุธปืนยิงใส่จนได้รับบาดเจ็บทั้งปู่ทั้งหลานดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบหาสาเหตุการลอบยิง
เวลา 17.50 น. คนร้าย 4 คนมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) บาซอรี เจะแว อายุ 27 ปี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ได้รับบาดเจ็บขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนทางหลวงหมายเลข 4064 บ้านสือดัง หมู่ 4 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดย อส.ทพ.บาซอรี อยู่ระหว่างลาพัก มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 86/2 บ้านโลทู หมู่ 6 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
เวลา 19.40 น. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ขี่ไปจอดที่หน้าร้านขายของชำและน้ำชา เลขที่ 18/2 หมู่ 5 ต.ผดุงมาตร อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นร้านของ นายยาซารียา ด๊ะหยี อายุ 60 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านไอร์ปีแซ หมู่ 5 ต.ผดุงมาตร จากนั้นหนึ่งใน 2 คนร้ายได้ลงจากรถ เดินเข้าไปทำทีซื้อของภายในร้าน เมื่อสบโอกาสได้ใช้อาวุธปืนพกยิงใส่นายยาซารียาได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุเช่นกัน
เพลิงเผามอเตอร์ไซค์หน้า รพ.สายบุรี วอด
ก่อนหน้านั้น เวลาประมาณหลังเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีที่ 25 ก.ค. จู่ๆ ได้เกิดเพลิงไหม้รถจักรยานยนต์ของประชาชนและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่จอดอยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี ภายในเขตเทศบาลตำบลตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทำให้รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย 6 คัน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จากการเข้าตรวจจุดเกิดเหตุช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 26 ก.ค. เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยการลอบวางเพลิง จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าภายในรถลัดวงจร
เวลา 20.20 น.วันพฤหัสบดีที่ 25 ก.ค. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดประกบยิง พ.จ.อ.เชาวณันภ์ ชุมประมาณ อายุ 53 ปี สังกัดกองพลนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส อยู่บ้านเลขที่ 97/142 หมู่ 6 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายชนบทบ้านสารวัต-กอตอ ท้องที่บ้านดินเสมอ หมู่ 1 ต.ตะโละไกรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เพื่อเดินทางกลับบ้านของภรรยาที่บ้านดินเสมอ หลังเสร็จจากการประกอบพิธีละหมาด กระสุนถูกบริเวณเบ้าตาขวา ได้รับบาดเจ็บ โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 21.00 น. มีชาย 2 คนถูกยิงและเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อตำรวจได้รับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบผู้บาดเจ็บ คือ นายสุไลมาน ลาหะมะ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 2 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร และ นายสาการียา สาหะ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ 1 ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน ขณะเกิดเหตุกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่หน้าบ้านมารดาของนายสาการียา เลขที่ 68/10 ในท้องที่หมู่ 2 ต.เชิงคีรี ระหว่างนั้นมีคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงเข้ามาในบ้านทำให้ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 รถจักรยานยนต์ของ นายแวอาลี แวสะมะแอ ล้มคว่ำอยู่ข้างทางหลังถูกคนร้ายลอบยิงได้รับบาดเจ็บขณะลำเลียงยางแผ่นไปจำหน่าย
2-4 ป้ายผ้าและสีสเปรย์ที่มือมืดพ่นข้อความข่มขู่ขับไล่ทหารปรากฏอยู่ในหลายพื้นที่ของ จ.ยะลา รวมทั้งในเขตเทศบาลนคร (ภาพทั้งหมดโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
ขอบคุณ : ข่าวบางส่วนจากสำนักข่าวเนชั่น