วิฯรายแรกรอมฎอนผู้ต้องสงสัยบึ้มทหาร รัฐยันไม่กระทบหยุดยิง
ใต้ระอุ ทหารชุดปฏิบัติการพิเศษวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องสงสัยบึ้มทหารที่เจาะไอร้องเมื่อ 2 วันก่อน ผบ.ฉก.ทหารพราน 48 ยันไม่กระทบข้อตกลงหยุดยิง เหตุเป็นปฏิบัติการต่อเนื่องหลังเกิดเหตุรุนแรง ยิงรายวันเริ่มเยอะ เหยื่อมีทั้งกำนัน อดีตทหารพรานพร้อมภรรยา และวัยรุ่น ตำรวจจ่อสรุปเรื่องส่วนตัว ทหารคึกกรอมฎอนปีนี้เหตุรุนแรงลดลงเพียบ ขณะที่ ครม.อนุมัติปรับตำแหน่งใน กปต. นายกฯนั่งประธาน
เกิดเหตุยิงปะทะจากปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม ของฝ่ายความมั่นคงจนมีผู้เสียชีวิตเป็นเหตุการณ์แรกในห้วงเดือนรอมฎอนปีนี้ ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่ฝ่ายรัฐบาลไทยและกลุ่มบีอาร์เอ็นแถลงผ่าน ดาโต๊ะ สรี อาห์มัด ซัมซามิน ฮาซิม ผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติภาพจากมาเลเซีย เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ว่าเป็นห้วงของการลดความรุนแรง 40 วันตลอดเดือนแห่งการถือศีลอดและเทศกาลเฉลิมฉลอง
เหตุยิงปะทะดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 19 ก.ค.2556 ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม นำโดย พ.ท.อิศรา จันทกระยอม รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 (ผบ.ฉก.ทพ.48) ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายที่บ้านกือลอ หมู่ 3 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เพื่อติดตามพิสูจน์ทราบผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นายที่ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี เมื่อไปถึงบ้านเป้าหมาย ปรากฏว่าคนที่อยู่ในบ้านไหวตัวก่อน และกระโดดหนีทางหน้าต่าง จากนั้นมีการยิงปะทะกันทำให้ชายต้องสงสัยเสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบทราบชื่อคือ นายมะสุเพียน มามะ ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 166/2 หมู่ 2 บ้านยานิง ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง
ทั้งนี้ จากแฟ้มประวัติคดีความมั่นคงของเจ้าหน้าที่ พบว่านายมะสุเพียน ถูกออกหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) จำนวน 4 หมาย และหมายเชิญตัว หรือ หมาย ฉฉ ที่ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) จำนวน 1 หมาย ในทางสืบสวนเชื่อว่ามีความเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ความไม่สงบหลายเหตุการณ์ เช่น ยิงอาสารักษาดินแดน (อส.) ชุด รปภ.รถไฟที่ ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง เมื่อ 28 ส.ค.2555 ยิงถล่มฐานทหารพราน ร้อย ทพ.4807 และล่าสุดคือเหตุลอบวางระเบิดกำลังพลของทหารหน่วยสันติสุข 404 ที่หมู่ 9 บ้านปาเระลูโบ๊ะ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 17 ก.ค. หรือเพียง 2 วันก่อนหน้านี้
แหล่งข่าวจากชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม เปิดเผยว่า การปิดล้อมตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจากเหตุระเบิดในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 17 ก.ค. โดยหลังเกิดเหตุสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย ซึ่งผู้ต้องสงสัยรายนี้ยอมให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิด และให้การซัดทอดถึงนายมะสุเพียนว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังเข้าพิสูจน์ทราบ แต่นายมะสุเพียนพยายามหลบหนีและใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อน ทำให้เกิดการยิงปะทะกันจนนายมะสุเพียนเสียชีวิต
ผบ.ฉก.ทพ.48 ยันไม่ผิดข้อตกลงหยุดยิง
เหตุการณ์ยิงปะทะดังกล่าวนี้ นับเป็นเหตุการณ์แรกในห้วงเดือนรอมฎอน หลังจากมีการแถลงความเข้าใจร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทยกับบีอาร์เอ็นเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ซึ่งในถ้อยแถลงอ้างถึงฝ่ายรัฐบาลไทยว่าจะงดเว้นปฏิบัติการเชิงรุกต่างๆ ทางทหาร ขณะที่อ้างถึงฝ่ายบีอาร์เอ็นว่าจะพยายามไม่ก่อเหตุรุนแรงทุกรูปแบบ
พ.ท.อิศรา ในฐานะหัวหน้าชุด กล่าวว่า ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นไม่ถือว่าผิดข้อตกลงที่รัฐบาลทำไว้กับบีอาร์เอ็น เพราะถือเป็นปฏิบัติการต่อเนื่องจากเหตุรุนแรงคือลอบวางระเบิดเมื่อวันที่ 17 ก.ค. อย่างไรก็ดี ยังไม่ได้รายงานการปฏิบัติให้คณะทำงานส่งเสริมสันติภาพในช่วงเดือนรอมฎอน พ.ศ.2556 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี พล.ต.ชรินทร์ อมรแก้ว เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 เป็นประธาน ได้รับทราบ แต่ก็เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะตัวเขาเองก็เป็นหนึ่งในคณะทำงานด้วย และได้เคยพูดคุยในคณะทำงานว่าหากเป็นปฏิบัติการต่อเนื่องสามารถดำเนินการไปก่อนได้ แล้วจึงรายงานผลไปยังคณะทำงาน
ยิงกำนันเจ็บที่ยะลา-จ่อสรุปส่วนตัว
เวลา 11.50 น.วันเดียวกัน ตำรวจ สภ.เมืองยะลา รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าหอพักไม่มีเลขที่ ในซอยข้างร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาตือเบาะ หมู่ 10 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา จึงรีบประสานส่งกำลังรุดไปตรวจสอบ แต่เมื่อไปถึงพบว่าพลเมืองดีช่วยกันนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาแล้ว ทราบชื่อคือ นายมะซากี กาแนะ อายุ 38 ปี เป็นกำนัน ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา อยู่บ้านเลขที่ 3/1 หมู่ 2 ต.กาตอง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.เข้าที่เอว อาการค่อนข้างสาหัส
จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายมะซากี ได้ขับรถยนต์เข้าไปจอดบริเวณหน้าหอพัก จากนั้นได้เดินลงจากรถเพื่อไปหาแฟนสาวที่หอพักดังกล่าว แต่มีข่าวบางแขนงระบุว่าเข้าไปพบญาติ จังหวะนั้นมีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นคาดว่าดักรออยู่ก่อนแล้ว ได้เดินเข้ามาประชิดตัวพร้อมใช้อาวุธยิงใส่ แล้ววิ่งหลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว
ซัลโวอดีตทหารพรานดับ-ภรรยาเจ็บ
ส่วนที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เวลาประมาณ 17.20 น. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ประกบยิง นายอัสมาดี อาแวนิยา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เสียชีวิต และกระสุนยังไปโดน นางอิลฮาม จะมอ อายุ 19 ปี ภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 57/2 หมู่ 5 ต.รือเสาะ ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะที่ทั้งคู่กำลังขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันไปเยี่ยมญาติบริเวณปากทางเข้าบ้านนาคา หมู่ 3 ต.รือเสาะ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง โดยตั้งประเด็นสอบสวนไว้ทั้งประเด็นความขัดแย้งส่วนตัวและการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ เนื่องจาก นายอัสมาดี เป็นอดีตทหารพรานสังกัดกรมทหารพรานที่ 46
เวลา 18.40 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ นายฮัมดี มาหะมะมะลี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 3 ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา ขณะกำลังเดินเก็บเศษยางพาราในสวนยางหลังหมู่บ้านกูแบอีเต๊ะ หมู่ 3 ต.หน้าถ้ำ ทำให้นายฮัมดีได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
ยันรอมฎอนปีนี้เหตุรุนแรงลด-ผบ.ทบ.ปลอบไม่ต้องห่วงสะเดา
ที่กระทรวงกลาโหม ผู้แทนจากส่วนราชการต่างๆ ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงว่า ตามแผนพิทักษ์ 7 หัวเมืองใหญ่ คือ อ.เมืองยะลา อ.เมืองปัตตานี อ.เมืองนราธิวาส อ.เบตง จ.ยะลา อ.สุไหงโก-ลก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พบว่าการก่อเหตุรุนแรงในเขตเมืองลดลงเมื่อเทียบกับปี 2554 และ 2555 ขณะที่เดือนรอมฎอนปีนี้ การก่อเหตุรุนแรงลดลงจากปีที่ผ่านมา มีประชาชนออกมาละหมาดที่มัสยิดในตอนกลางคืนมากเป็นประวัติการณ์ โดย 9 วันแรกของเดือนรอมฎอนมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่รัฐเพียง 3 ครั้ง หากเทียบกับในช่วงเดียวกันของปี 2548 มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นประมาณ 12-18 ครั้ง
พ.อ.จรูญ อำภา ที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณีคำแถลงความเข้าใจร่วมกันเรื่องยุติเหตุรุนแรงช่วงรอมฎอน มีการผนวกพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา รวมกับพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ประกาศใช้กฎหมายพิเศษอยู่เดิมว่า กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำเรื่องเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยผ่านทาง สมช.แล้ว จากนี้ไปเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศที่จะต้องตอบว่าเราไม่เห็นด้วยที่จะหยิบยกขึ้นมา
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวเรื่องเดียวกันว่า ฝ่ายความมั่นคงกังวลได้ แต่อย่าตื่นตระหนกทุกเรื่อง การตอบโต้ไปมาหลายเรื่องไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น คิดว่าคณะทำงานดำเนินการอยู่แล้ว แต่ไม่จำเป็นต้องออกสื่อให้เกิดความโกลาหล ขอบคุณที่ทุกคนห่วงใยและแจ้งเตือน คิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงแจ้งไปยังทางการมาเลเซียแล้ว ส่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ก็ได้แจ้งเรื่องไปแล้วเช่นกัน ประการสำคัญคือเป็นการยื่นข้อเสนอเพียงฝ่ายเดียว เราก็รับฟังและนำไปเป็นข้อมูลพุดคุยครั้งต่อไป คิดว่ายังไม่มีใครเสียหายมากเกินไป
ปรับตำแหน่งใน กปต.-นายกฯนั่งประธาน
ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) โดยภายหลังการประชุม ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมได้รับทราบคำสั่งนายกรัฐมนตรี ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) ทั้งหมด 27 องค์ประกอบ ได้แก่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน กปต.
ขณะที่รองประธาน ประกอบด้วย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
สำหรับกรรมการประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เลขาธิการคณะกรรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4)
ส่วนเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ดำรงตำแหน่งกรรมการและเลขานุการ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และเลขาธิการ กอ.รมน. ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : นายมะสุเพียน มามะ จากแฟ้มประวัติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง