บึ้มลูกแรกรอมฎอนที่รามันทหารเจ็บ 8 สมช.หวังอีก 2 วันแถลงหยุดยิง
ใต้ป่วนรับรอมฎอน บึ้มลูกแรกโจมตีรถยีเอ็มซี รปภ.ครู ที่ อ.รามัน จ.ยะลา ทหารเจ็บ 8 นาย "ภราดร" หวังอีกไม่เกิน 2 วันมีแถลงหยุดยิงที่มาเลย์ อ้างที่ต้องเลื่อนเพราะสองฝ่ายไม่ลงตัว แถมจ้อวิทยุให้ถอนทหารพ้นหมู่บ้านแล้ว กอ.รมน.สวนทันควัน "ไม่มีถอน" แค่เน้นมาตรการเชิงรับช่วงรอมฎอน อำนวยความสะดวกประชาชนปฏิบัติศาสนกิจ "อภิสิทธิ์" เตือนรัฐบาลสถานการณ์อาจไม่เป็นไปตามคาด ระวังบีอาร์เอ็นโผล่เวทีโอไอซี
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงเดือนรอมฎอนยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เว้นไปเพียงวันแรกของเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1434 ซึ่งตรงกับวันพุธที่ 10 ก.ค.2556 เท่านั้นที่ไม่มีเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้นเลย
แต่เมื่อถึงวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.ค. ได้เกิดเหตุลอบวางระเบิดรถยีเอ็มซีของทหารชุดลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) บนถนนในหมู่บ้าน ท้องที่หมู่ 1 ต.บาลอ อ.รามัน จ.ยะลา แรงระเบิดทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บจำนวน 8 นาย แต่ส่วนใหญ่อาการไม่สาหัส
ทั้งนี้ ทหารที่ถูกโจมตีด้วยระเบิดซึ่งเป็นลูกแรกของเดือนรอมฎอนปีนี้ เป็นชุดปฏิบัติการ รปภ.ครู สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 15234 (ร้อย ร.15234) หน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.50 น.
รายชื่อผู้บาดเจ็บเท่าที่ตรวจสอบได้เบื้องต้นประกอบด้วย ส.ท.สรายุทธ สุขแพทย์ ส.ต.วุฒิชัย ไม่ทราบนามสกุล พลทหารวิษณุ ชูสุวรรณ พลทหารสามารถ ยังไม่ทราบนามสกุล พลทหารวชิรพรรณ ปิ่นตาวงค์ พลทหารจาตุรงค์ ชุมเสนา พลทหารสุริยา เกิดสุวรรณ และพลทหารวีรยุทธ พรหมสอน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ที่ 8 ก.ค. เพิ่งเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถยีเอ็มซีของทหารชุด รปภ.ครู เช่นกันที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 8 นาย ในจำนวนนั้นอาการสาหัส 1 นาย โดยเป็นกำลังพลของ ร้อย ร.15331 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25
"ภราดร"หวังอีก 2 วันมาเลย์แถลงหยุดยิง
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวเมื่อวันพุธที่ 10 ก.ค.ถึงกรณีการยกเลิกแถลงข่าวยุติการก่อเหตุรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอนของตัวแทนรัฐบาลมาเลเซีย ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติภาพ กับแกนนำบีอาร์เอ็น ว่า คงเป็นการเลื่อนไปชั่วคราวเพื่อจัดระเบียบการแถลงให้มีความลงตัวทั้งสองฝ่าย คาดว่าภายใน 2 วันนี้น่าจะแถลงได้ ขณะนี้กำลังประสานกันอยู่
สำหรับประเทศไทยได้มีการปรับแผนอย่างชัดเจนแล้ว (หมายถึงแผนการจัดและใช้กำลังในพื้นที่ชายแดนใต้) ถ้ามีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จะเคลื่อนที่มาอย่างรวดเร็ว และยึดแนวทางปฏิบัติตามที่จุฬาราชมนตรีเสนอแนะมา เพื่อทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่น โดยใช้แผนสันติสุขเพื่อลดและบรรเทาความรุนแรงลง เน้นดูแลสถานที่และบุคคล ส่วนงานด้านการข่าวก็จะปฏิบัติอย่างเข้มข้น ทำให้สอดคล้องกับภาวการณ์ในปัจจุบัน นอกจากนั้นหากมีเหตุการณ์รุนแรงก็จะประสานไปยังผู้อำนวยความสะดวกซึ่งจะประสานกับทางบีอาร์เอ็นอีกที
แย้มปรับกำลัง-ถอนทหารพ้นหมู่บ้าน
พล.ท.ภราดร ยังให้สัมภาษณ์ผ่านรายการวิทยุแห่งหนึ่งว่า แผนลดเหตุรุนแรงช่วงรอมฎอนของบีอาร์เอ็น มีการเสนอให้ถอนทหารออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยทำไม่ได้แน่นอน ได้แต่ปรับให้เหมาะสมกับช่วงเดือนรอมฎอนเท่านั้น เช่น ลดการปิดล้อมตรวจค้นยกเว้นมีเหตุเฉพาะหน้า และทหารจะถอนออกจากหมู่บ้าน แล้วใช้ตำรวจกับ อส. (อาสารักษาดินแดน) เป็นหลักแทน โดยทหารจะอยู่ในที่ตั้งและพร้อมเคลื่อนที่ได้เร็ว ไม่ถึงขนาดเรียกทหารกลับค่ายใหญ่ เรียกว่าเป็นการปรับกำลังให้เหมาะสมมากกว่า
กอ.รมน.แจงไม่มีถอนทหาร-แค่เน้นภารกิจเชิงรับ
อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้รับการยืนยันว่า ไม่มีการถอนทหารออกจากพื้นที่หมู่บ้านทั่วสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสิ่งที่ กอ.รมน.ภาค 4 สน.ได้ดำเนินการคือ 1.ลดการปิดล้อมตรวจค้น 2.เพิ่มภารกิจเชิงรับ 3.ยกเลิกด่านตรวจหรือจุดตรวจทางยุทธวิธี (ด่านที่ไม่มีกำลังพลเฝ้าประจำ) แต่ยังคงด่านตรวจถาวร 23 ด่าน และไม่อนุญาตให้ตั้งด่านลอย 4.บังคับใช้กฎหมายกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุรุนแรงต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ
"การเน้นภารกิจเชิงรับก็เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนชาวไทยมุสลิมในการปฏิบัติศาสนกิจในช่วงเดือนรอมฎอน แต่ฝ่ายกองกำลังยังคงสามารถปฏิบัติการได้หากมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ส่วนฐานปฏิบัติการของทหารตามหมู่บ้าน ตำบลต่างๆ ก็ยังมีกำลังพลปฏิบัติหน้าที่อยู่เหมือนเดิม โดยเฉพาะในหมู่บ้านเสริมสร้างความมั่นคง (หมู่บ้านสีแดง) 136 หมู่บ้าน ซึ่งได้ส่งกำลังเข้าไปอยู่ในหมู่บ้านแล้วก่อนหน้านี้ 112 หมู่บ้าน ที่เหลือก็เป็นการจัดชุดลาดตระเวนเข้าไป รวมทั้งมีกองกำลังเคลื่อนที่เร็วเข้าไประงับเหตุหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น" แหล่งข่าวจาก กอ.รมน.ภาค 4 สน.ระบุ
"อภิสิทธิื"ห่วงเลิกแถลงที่มาเลย์ไปโผล่โอไอซี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการฟ้าวันใหม่ ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกาย กรณีทางการมาเลเซียยกเลิกการแถลงข่าวลดเหตุรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ช่วงเดือนรอมฎอนว่า รู้สึกเป็นห่วงและได้พยายามบอกรัฐบาลมาตลอดว่าการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็นดูเหมือนจะไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลเคยบอกเอาไว้ และรัฐบาลไทยก็ดูจะไม่สามารถไปทำอะไรให้ทางบีอาร์เอ็นกลับมาอยู่ในกติกาได้ ความรุนแรงต่างๆ ก็ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่คาดหวังว่าอย่างน้อยที่สุดการพูดคุยจะนำไปสู่การลดความรุนแรงในพื้นที่ในช่วงเดือนรอมฎอน
"น่าคิดว่าการงดแถลงข่าวที่มาเลเซียแล้ว จะไปแถลงต่อโอไอซี (องค์การความร่วมมืออิสลาม) หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เป็นเรื่องที่น่าคิดว่าบีอาร์เอ็นไม่ได้สนใจมาพูดคุยเพื่อแก้ปัญหา แต่เอาปัญหานี้ยกระดับขึ้นมากกว่า" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ และว่าการงดแถลงข่าวแสดงให้เห็นว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นไม่ได้ใช้กระบวนการที่ตกลงกันในกรอบของการพูดคุย แต่กลับจะไปใช้วิธีอื่น ซึ่งเราไม่ทราบว่าจะเป็นวิธีใด
ข้องใจ สมช.ยังยืนกราน "ไม่มีอะไร"
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า การขึ้นป้ายกล่าวหาประเทศไทยเป็นผู้ใช้ความรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงก่อนเข้าสู่เดือนรอมฎอนเพียง 1 วัน ทำให้เป็นห่วงว่าสถานการณ์จะไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลพยายามให้เป็น และยังไม่เห็นแนวโน้มอะไรที่จะทำให้การแก้ปัญหาในเรื่องนี้ดีขึ้นมา ขณะที่ สมช.กลับบอกว่าไม่มีอะไร จึงรู้สึกแปลกใจ
"ขณะนี้กลุ่มบีอาร์เอ็นทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ ไม่ต้องเคารพกติกา ข้อตกลง แถลงการณ์ ฉะนั้นจึงต้องจับตาว่าช่วงเดือนรอมฎอนจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์ว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นสามารถกุมสภาพในพื้นที่ได้จริงหรือเปล่า หากสถานการณ์ความรุนแรงลดลงก็แสดงว่าคุมสภาพในพื้นที่ได้ แต่จะเป็นการพิสูจน์ความจริงใจหรือไม่ต้องดูกันต่อไป" นายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่าในส่วนของรัฐบาลถือว่ายังควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ทั้งสถานการณ์ในพื้นที่และกระบวนการพูดคุยเจรจา
กอ.รมน.สรุปป้ายผ้าโจมตีพรึ่บ 162 จุด
วันเดียวกัน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้สรุปจำนวนเหตุการณ์ผู้ไม่หวังดีติดป้ายผ้าและพ่นสีสเปรย์บนพื้นถนน มีข้อความโจมตีประเทศไทยว่าเป็นผู้หลอกลวง รวมทั้งวางวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และบางอำเภอของ จ.สงขลา เมื่อเช้าวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า มีเหตุเกิดทั้งสิ้น 162 จุด แยกเป็น จ.ปัตตานี 56 จุด จ.ยะลา 18 จุด จ.นราธิวาส 76 จุด และ จ.สงขลา 12 จุด
พ.อ.บรรพต พูลเพียร รองโฆษก กอ.รมน. แถลงว่า การติดป้ายผ้าป้ายโจมตีประเทศไทยนั้น เป็นการติดแค่บางพื้นที่ และเป็นเพียงการก่อกวนเพื่อกดดันเจ้าหน้าที่เท่านั้น จึงไม่อยากให้วิตกว่ามีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ขอให้สบายใจว่าทางเจ้าหน้าที่มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยและดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงเดือนรอมฎอนอย่างเข้มงวด ทั้งยังเน้นอำนวยความสะดวกและลดการปิดล้อมตรวจค้น ยกเว้นคนที่ทำผิดกฎหมายที่เจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการต่อไป
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : รถยีเอ็มซีของทหารเสียหลักตกข้างทางหลังถูกคนร้ายลอบวางระเบิดที่ อ.รามัน จ.ยะลา
ขอบคุณ : ข่าวในส่วนกลางบางส่วนจากสำนักข่าวเนชั่น