บึ้มมายอทหารดับอีก2 - ดึง "อัยการ-กรมคุก" ร่วมทีมถกเงื่อนไขบีอาร์เอ็น
ใต้ป่วนรายวัน บึ้มมายอทหารพรานพลีชีพอีก 2 นาย แค่ 4 วันช่วงเจรจาสันติภาพสูญเสียไปแล้ว 6 นาย เจ็บ 28 เลขาฯ สมช.ล่องใต้เดินสายแจงผลเจรจาบีอาร์เอ็น อ้างกลุ่มไม่เห็นด้วยยังก่อการ แย้มแกนนำมีวิธีสื่อสารให้ระดับปฏิบัติลดความรุนแรง ขณะที่เลขาฯ ศอ.บต.เตรียมดึง “อัยการ-ราชทัณฑ์” ร่วมเป็นคณะทำงานพิจารณารูปแบบคืนความเป็นธรรมทางคดี
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงร้อนระอุและเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 14.20 น.วันเสาร์ที่ 30 มี.ค.2556 คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการของทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4208 (ร้อย ทพ.4208) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 บนถนนสายชนบท ท้องที่บ้านแขนท้าว หมู่ 1 ต.เกาะจัน อ.มายอ จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้กำลังพลเสียชีวิต 2 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 3 นาย ทราบชื่อคือ
1) อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) มะรอรี หะมะ เสียชีวิต
2) อส.ทพ.นิธิ ชโนวรรณ เสียชีวิต
3) อส.ทพ.มะหามะดาวี มลายู ได้รับบาดเจ็บ
4) อส.ทพ.เกรียงศักดิ์ ศรีเกษ ได้รับบาดเจ็บ
5) อส.ทพ.ฐานันดร แก้วขวด ได้รับบาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และสอบสวนจนทราบว่า กำลังพลของร้อย ทพ.4208 ได้เดินทางด้วยรถกระบะของหน่วย 1 คัน และรถยนต์เก๋งส่วนตัวของผู้บังคับกองร้อย 1 คัน นำกำลังพลจำนวน 15 นายไปร่วมงานศพ อส.ทพ.ซัมรูดิง มะดิง ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ที่กุโบร์บ้านแขนท้าว หมู่ 1 ต.เกาะจัน อ.มายอ เมื่อเสร็จพิธีจึงเดินทางกลับฐานปฏิบัติการ ที่บ้านใหญ่ หมู่ 3 ต.ไม้แก่น อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี แต่ระหว่างทางในท้องที่บ้านแขนท้าว มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกไว้ในรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง (โชเล่ย์บอมบ์) ที่นำไปจอดดักไว้ข้างทาง จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
4 วันทหารดับ 6 เจ็บอีก 28
อนึ่ง ตั้งแต่วันพุธที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันเสาร์ที่ 30 มี.ค.มีเหตุรุนแรงโดยเฉพาะระเบิดที่สร้างความสูญเสียเกิดขึ้นทุกวัน ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ผู้แทนรัฐบาลไทยนำโดย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กำลังเปิดการพูดคุยสันติภาพดับไฟใต้อย่างเป็นทางการกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ นำโดย นายฮัสซัน ตอยิบ ที่อ้างตัวว่าเป็นแกนนำขบวนการบีอาร์เอ็น
โดยในวันพุธที่ 27 มี.ค.เกิดเหตุระเบิดที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ทำให้อาสารักษาดินแดน (อส.) ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ต่อมาในวันพฤหัสบดีที่ 28 มี.ค.ซึ่งเป็นวันพูดคุยสันติภาพ มีเหตุระเบิดและยิงปะทะที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ทำให้มีทหารพรานเสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 5 นาย ถัดมาวันศุกร์ที่ 29 มี.ค. เกิดเหตุระเบิดและยิงปะทะที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ทำให้ทหารระดับ ผบ.ร้อย เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 14 นาย และล่าสุดวันเสาร์ที่ 30 มี.ค.เกิดเหตุระเบิดที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี ทำให้ทหารพรานเสียชีวิตไปอีก 2 นาย บาดเจ็บ 3 นาย รวม 4 วันสูญเสียกำลังพลไป 6 นาย บาดเจ็บอีก 28 นาย
ดึง"อัยการ-คุก"วางกรอบคืนยุติธรรม
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมหลังเล็ก มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้เดินทางไปร่วมเวทีเสวนาหัวข้อ "การสร้างความปรองดองและสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้" โดยมีผู้นำศาสนา สถาบันปอเนาะ ตาดีกา ผู้แทนจากภาคประชาสังคม และประชาชนเข้าร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง
ทั้งนี้ บุคคลสำคัญที่ไปร่วมงาน อาทิ นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส น.ส.ลม้าย มนะการ ผู้แทนเครือข่ายภาคประชาสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าที่ร้อยตรีอาฟิช หิเล นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดยะลา นายดนวาหะ เส็นหวัง รองนายกสมาคมสถาบันการศึกษาปอเนาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายอับดุลมูไฮมีน สาและ ประธานมูลนิธิศูนย์ประสานงานตาดีกาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น
พล.ท.ภราดร กล่าวว่า นโยบายรัฐบาลต้องการเปิดเวทีให้มีการพูดคุยเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และสิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน จะได้มาตกผลึกพร้อมๆ กัน เชื่อว่าการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ในอนาคต
“สำหรับการดำเนินการเรื่องอำนวยความยุติธรรมตามที่ขบวนการบีอาร์เอ็นเรียกร้องมานั้น ต้องแยกแยะในสิ่งที่เขาพึงประสงค์ เพราะกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวข้องกับหลายส่วน จึงต้องไปดูให้ละเอียด ยอมรับว่าขั้นตอนนี้จะต้องใช้เวลาแยกแยะ ต้องสืบสภาพข้อเท็จจริง แล้วแก้ปัญหาทีละส่วนไป ส่วนข้อห่วงใยของเราคือเราไม่ประสงค์ให้เกิดความรุนแรง จึงต้องสื่อสารกันให้ชัด" เลขาธิการ สมช.กล่าว
พล.ท.ภราดร ยังกล่าวอีกว่า ในเรื่องของการสื่อสารจากฝ่ายขบวนการลงไปยังระดับปฏิบัติการในพื้นที่นั้น ฝ่ายขบวนการบอกว่ามีช่องทางที่สามารถสื่อสารไปได้ แต่ไม่บอกวิธีการ เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลกระทบกับคนที่ได้รับการสื่อสาร สำหรับความรุนแรงที่ยังมีอยู่ในพื้นที่ ต้องยอมรับว่าขณะนี้มีทั้งกลุ่มที่ยอมรับและไม่ยอมรับการพูดคุยสันติภาพ กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยก็ยังคงก่อเหตุต่อไป แต่กลุ่มที่เห็นด้วยก็จะลดความรุนแรงลง ซึ่งก็ต้องไปทำความเข้าใจกับทุกกลุ่ม
ขณะที่ นายแวดือราแม กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของฝ่ายบีอาร์เอ็นที่ขอให้รัฐอำนวยความยุติธรรมและความเป็นธรรมนั้น เท่าที่ทราบ พ.ต.อ.ทวี ได้ประสานไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดและส่วนงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุดแล้ว เชื่อว่าหากสามารถอำนวยความยุติธรรมให้เกิดในพื้นที่ได้จริง จะสามารถลดเหตุรุนแรงและเกิดสันติสุขได้
มีรายงานว่า พ.ต.อ.ทวี ได้ประสานไปยังกรมราชทัณฑ์ สังกัดกระทรวงยุติธรรมด้วย เพื่อให้ตั้งคณะทำงานร่วมกันในการพิจารณารูปแบบการอำนวยความยุติธรรมให้กับผู้ต้องขังและผู้ถูกกล่าวหาในคดีความมั่นคง
ทหาร-ตร.จับมือผู้นำศาสนาสร้างสันติสุข
ที่มัสยิดบ้านเมาะตาโก๊ะ หมู่ 6 ต.ผดุงมาตร อ.จะแนะ จ.นราธิวาส นายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอจะแนะ พร้อมด้วย พ.ท.ทรงธรรม์ ลี่จ้อน รองผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 46 พ.ต.ท.ศกรรจ์ จันทร์แย้ม รองผู้กำกับการ สภ.จะแนะ ได้เข้าพบปะพูดคุยกับกลุ่มผู้นำศาสนา โดยมี นายมาหะมะ อับดุลดานิง กำนันตำบลผดุงมาตร พาชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมด้วย ทั้งนี้ได้มีการพูดคุยกันถึงแนวทางที่จะทำให้เกิดความสงบสุข
พ.ท.ทรงธรรม์ กล่าวว่า อยากเห็นความร่วมมือของผู้นำศาสนาในการขัดเกลาเยาวชน โดยเฉพาะผู้ที่หลงผิดเข้าร่วมขบวนการเพื่อก่อความไม่สงบ เพราะเป็นการทำร้ายชีวิตของผู้บริสุทธิ์ ถือว่าผิดหลักคำสอนของทุกศาสนาอยู่แล้ว จึงอยากให้คนเหล่านั้นเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
สำหรับพื้นที่ อ.จะแนะ ตามบัญชีรายชื่อของทางการ พบว่ามีผู้หลงผิดถูกออกหมายจับทั้งหมายที่ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) จำนวน 29 ราย จับกุมได้และอยู่ระหว่างกระบวนการทางกฎหมายแล้ว 2 ราย อยู่ในระหว่างการควบคุมตัว 1 ราย เสียชีวิต 1 ราย ออกมาแสดงตนแล้ว 5 ราย เหลือผู้ที่ยังคงหลบหนีและไม่ออกมาแสดงตนจำนวน 20 ราย
รวบ "อับดุลเลาะ ปูลา" แกนนำป่วนธารโต
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธารโต จ.ยะลา ร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดน ได้นำกำลังเข้าจับกุม นายอับดุลเลาะ ปูลา อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคงในพื้นที่ จ.ยะลา ขณะซ่อนตัวอยู่ในขนำกลางสวนยางพารา ท้องที่หมู่ 6 บ้านแหร ต.บ้านแหร อ.ธารโต
ข้อมูลจากแฟ้มคดีของฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า นายอับดุลเลาะ ปูลา เป็นแกนนำระดับปฏิบัติการของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง รับผิดชอบพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา เป็นผู้เชี่ยวชาญในการประกอบวัตถุระเบิด เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ นายไฟซอล หะยีสะมะแอ ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อหลายปีที่ผ่านมา โดยตัว นายอับดุลเลาะ ปูลา ถูกออกหมายจับในคดีความมั่นคง 5 หมาย แต่จากการสอบปากคำเบื้องต้นยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : สภาพรถโชเล่ย์ที่คนร้ายนำมาติดตั้งระเบิดแล้วจุดชนวนเพื่อโจมตีรถของทหารในพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี