สมช.ถกมาเลย์นับหนึ่งเจรจา แม่ทัพภาค 4 ฉะ "กัสตูรี" สร้างราคา
"เสธ.แมว" ควง "ทวี สอดส่อง" ถกมาเลย์เดินหน้า "เจรจาดับไฟใต้" เห็นพ้องให้ "เลขาฯสมช." ของทั้งสองฝ่ายเป็นเจ้าภาพนับหนึ่ง "พูดคุยสันติภาพ" กับกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน ชงที่ประชุมผู้นำสองประเทศเห็นชอบพร้อมเปิดแถลงร่วมกัน 28 ก.พ.นี้ ด้านแม่ทัพภาค 4 ฉะ "กัสตูรี มาห์โกตา" ประธานพูโลให้สัมภาษณ์สร้างราคา ไม่จริงใจ ย้ำไม่มีกองกำลัง ไร้บทบาทในพื้นที่ "สุกำพล" ชี้เจรจาเอกราชปัตตานีขัดรัฐธรรมนูญ
ไทยกับมาเลเซียบรรลุข้อตกลงในระดับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับความร่วมมือในการสร้างกระบวนการ "พูดคุยสันติภาพ" ระหว่างตัวแทนฝ่ายไทยกับขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยและกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวนี้จะนำเข้าหารือและแถลงร่วมกันระหว่างนายกฯไทยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 28 ก.พ.นี้
แหล่งข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า การประสานงานในระดับเจ้าหน้าที่เกิดขึ้นเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยมี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นหัวหน้าคณะ และมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมเดินทางไปด้วย ภายใต้กรอบงานสร้างสภาวะแวดล้อมที่เกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ที่มีเลขาธิการ สมช.เป็นประธาน
ทั้งนี้ กลุ่มงานดังกล่าวอยู่ในโครงสร้างของศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ที่รัฐบาลตั้งขึ้น และมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการ
คณะทำงานที่นำโดย พล.ท.ภราดร ได้เดินทางไปยังประเทศมาเลเซียเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ประชุมร่วมกับฝ่ายความมั่นคงของมาเลเซียเพื่อกำหนดวาระการหารือร่วมกันระหว่าง นางสาวยิ่งลักษณ์ กับ นายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยเฉพาะกรอบความร่วมมือที่ผู้นำทั้งสองประเทศจะตกลงและแถลงร่วมกัน ซึ่งมีทั้งเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ การค้าชายแดน และอื่นๆ โดยหนึ่งในนั้นคือการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้ขอให้ทางการมาเลเซียเป็นผู้ประสานงานและให้ความช่วยเหลือเพื่อให้เกิดกระบวนการ "พูดคุยสันติภาพ" ระหว่างผู้แทนฝ่ายไทยกับขบวนการแบ่งแยกดินแดนหรือกลุ่มที่มีความเห็นแตกต่างจากรัฐไทย ซึ่งบางส่วนอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย
"ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทางการมาเลย์รับปากและเกิดผลเป็นรูปธรรม ที่ผ่านมาเรายอมรับว่ามีปัญหาความไม่ชัดเจนในระดับนโยบายของเราเอง การเจรจาหรือพูดคุยก็เป็นลักษณะต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างไปคุย ทั้งกองทัพ สมช. และหน่วยอื่นๆ แต่ครั้งนี้เรายืนยันเป็นมั่นเหมาะ โดยมอบหมายให้ท่านเลขาธิการ สมช.เป็นผู้แทนฝ่ายไทยในการดำเนินกระบวนการพูดคุยสันติภาพ ส่วนฝ่ายมาเลย์ก็มอบหมายให้เลขาธิการ สมช.ของเขา (หัวหน้าหน่วยงานด้านความมั่นคงที่มีสถานะใกล้เคียงกัน) เป็นผู้รับผิดชอบ" แหล่งข่าวระบุ
ยังไม่ระบุชัดคุยกับใคร-ยันไม่ผิดกฎหมาย
แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงบอกด้วยว่า ในชั้นนี้ยังไม่มีการระบุตัวบุคคลว่าไทยต้องการพูดคุยเจรจากับใครบ้าง ซึ่งความชัดเจนน่าจะเกิดขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีกลับจากมาเลเซียแล้ว อย่างไรก็ดี ย้ำว่าการดำเนินการทุกขั้นตอนมีกฎหมายรองรับ คณะทำงานที่เดินทางไปก็ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ฉะนั้นจึงไม่มีปัญหาความชอบด้วยกฎหมาย และอยากให้สังคมไทยทำความเข้าใจว่าเราไม่ได้ไปคุยกับโจรหรือต้องการยกสถานะกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน แต่เป็นการทำงานด้านหนึ่งเพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่
"มาตรการทางทหารและการบังคับใช้กฎหมายในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ยังคงดำเนินการต่อไปตามความจำเป็นของสถานการณ์ แต่การดำเนินการของรัฐบาลเป็นการทำงานในอีกมิติหนึ่งที่น่าจะช่วยให้สถานการณ์ในภาพรวมดีขึ้นได้ เพราะการเจรจาน่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายของปัญหาทั้งหมด อย่างน้อยก็จะทำให้ได้เข้าใจว่ากลุ่มเหล่านั้นต้องการอะไร" แหล่งข่าว ระบุ
"สุกำพล"ชี้เจรจาเอกราชปัตตานีผิด รธน.
ด้านความเห็นของฝ่ายความมั่นคงต่อกรณีที่ นายกัสตูรี มาห์โกตา ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นประธานขบวนการพูโล ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการข่าวทางโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ระบุว่าพร้อมเจรจากับรัฐไทย โดยพร้อมพิจารณาข้อเสนออื่นๆ ของไทยนอกเหนือจาก "เอกราช" ซึ่งเป็นอุดมการณ์ของพูโลนั้น
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ไม่ได้ติดตามการสัมภาษณ์ตามที่เป็นข่าว ส่วนที่มีการเรียกร้องเอกราชปัตตานีคงเป็นไปไม่ได้ และรัฐบาลปฏิเสธที่จะพูดคุยเรื่องนี้เพราะผิดรัฐธรรมนูญ
แม่ทัพภาค 4 ซัด "กัสตูรี" ไม่จริงใจ
ขณะที่ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) กล่าวว่า ไม่ได้ติดตามข่าว ส่วนในแง่ของความเหมาะสมที่นำนายกัสตูรีออกสื่อไทยนั้น เห็นว่าประเทศไทยมีเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งรัฐบาลก็มีนโยบายสร้างสภาวะแวดล้อมที่เกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงจะเป็นการยกระดับความสำคัญและกระทบต่อความมั่นคง ตลอดจนเป็นที่จับตามองของต่างชาติหรือไม่ พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า เราต้องการยุติความขัดแย้งและความรุนแรงในแบบสันติวิธี ฝ่ายทีเห็นต่างจากรัฐก็แสดงความคิดเห็นได้ ส่วนการเผยแพร่บทสัมภาษณ์จะกระทบการแก้ปัญหาในพื้นที่หรือไม่ เป็นสิ่งที่ต้องรอดูสถานการณ์ต่อไป
เมื่อซักว่า นายกัสตูรี อ้างว่ารัฐบาลไทยไม่มีความจริงใจต่อการเจรจาเพื่อหาทางออกอย่างสันติวิธี พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า "เขาพูดแบบนี้มาเป็นร้อยครั้งแล้ว อยากถามว่าแล้วนายกัสตูรีมีความจริงใจแค่ไหน คนที่ไม่จริงใจก็มีแต่โจรเท่านั้น ทางเราพร้อมพูดคุยและหาทางออกในการแก้ปัญหา เช่นใน จ.สงขลา มีคนมามอบตัว 4 คน ก็มีการล็อบบี้ไม่ให้เขาเข้ามามอบตัว อย่างนี้ใครกันแน่ไม่จริงใจ"
อย่างไรก็ตาม พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลว่าบทสัมภาษณ์นายกัสตูรี จะส่งผลกระทบด้านจิตวิทยากับคนที่กำลังจะเข้ารายงานตัวตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 (พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ)
ฉะพูดสร้างราคา-ไม่มีผลกับไฟใต้
เมื่อถามว่า ประธานพูโลระบุว่าต้องการเอกราชปัตตานี แต่ก็พร้อมรับข้อเรียกร้องจากรัฐบาลไทย พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า เรื่องนี้นายกัสตูรีเรียกร้องมาตั้งนานแล้ว ทุกคนก็รู้ดี และถ้าต้องการเอกราชก็คุยไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนตัวมองว่า นายกัสตูรีพูดเพื่อต้องการเรียกร้องและแสดงบทบาทว่ายังมีความสำคัญหรือสร้างราคาให้ตัวเองมากกว่า เพราะกลุ่มพูโลไม่มีกองกำลัง และไม่มีบทบาทในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นความคิดเห็นของคนที่มีความเห็นต่างคนหนึ่ง ซึ่งเราก็พร้อมรับฟัง
แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงที่รับผิดชอบปัญหาภาคใต้ กล่าวว่า นายกัสตูรีอ้างว่าเป็นประธานขบวนการปลดปล่อยสหปัตตานี ซึ่งแยกตัวมาจากพูโลเดิม โดยต้องการสร้างบทบาทในการเจรจากับรัฐไทย โดยมีอดีตเจ้าหน้าที่ สมช.เป็นผู้ประสานงาน และเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวทำงานให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบปัญหาภาคใต้หน่วยหนึ่งในพื้นที่ ซึ่งการพูดคุยเจรจาก็เป็นไปตามนโยบายข้อ 8 ของ สมช.เรื่องการเปิดพื้นที่ให้กับกลุ่มที่มีความเห็นแตกต่างจากรัฐอยู่แล้ว และมีการตั้งงบประมาณเอาไว้เพื่อการนี้ด้วย ส่วน นายกัสตูรี เมื่อได้แสดงบทบาทพูดคุยกับรัฐบาลไทยได้ ก็จะมีโอกาสขอการสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช.
ขอบคุณ : ปัญญา ทิ้วสังวาลย์ ผู้สื่อข่าวสายทหาร หนังสือพิมพ์คมชัดลึก เอื้อเฟื้อข่าวส่วนที่เป็นบทสัมภาษณ์รัฐมนตรีกลาโหม และแม่ทัพภาคที่ 4