ป่วนเมืองปัตตานีช่วงงานสมโภชเจ้าแม่ฯ – บึ้มระแงะเด็ก 3 ขวบเจ็บ
อำเภอเมืองปัตตานีป่วนหนัก บึ้ม-เผาหลายจุด ขณะที่เมืองยะลาระทึกเจอกล่องของขวัญปริศนา เจ้าหน้าที่ใช้ปืนยิงทำลาย สุดท้ายแค่กล่องเปล่า เผยเป็นการสร้างสถานการณ์ช่วงมีงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ด้านระแงะบึ้มลวงหน้าร้านสะดวกซื้อล่อตำรวจ-ทหารเข้าจุดเกิดเหตุก่อนมอเตอร์ไซค์บอมบ์ซ้ำเจ็บ 4 เด็กสามขวบโดนด้วย กระทรวงยุติธรรมดึงอัยการร่วมทีมกลั่นกรองแยกแยะ “ผู้หลงผิด” เข้าอบรมตามมาตรา 21
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดและมีการสร้างเหตุการณ์ปั่นป่วนขึ้นหลายจุดใน จ.ปัตตานี โดยเฉพาะ อ.เมือง รวมถึง อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และ อ.เมือง จ.ยะลา
ที่ จ.ปัตตานี ช่วงค่ำของวันเสาร์ที่ 23 ก.พ.2556 เกิดเพลิงไหม้ในพื้นที่ของบริษัทหาดทิพย์ ต.ตะลุโบะ อ.เมือง ยังไม่มีรายงานความเสียหาย เมื่อเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าไปตรวจสอบ ได้เกิดระเบิดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 ตรงจุดกลับรถหน้าบริษัท ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยหลายราย
ก่อนหน้านั้นเกิดเหตุระเบิดที่ซอย 2 นาเกลือ ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกันยังมีรายงานเหตุเผายางรถยนต์ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน
ส่วนที่บ้านตาแกะ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี มีรายงานคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงหม้อแปลงไฟฟ้า ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งตำบล ขณะที่อีกหลายท้องที่มีรายงานคนร้ายโปรยตะปูเรือใบ เผายางรถยนต์
ที่ จ.ยะลา เวลาประมาณ 21.00 น.พบวัตถุต้องสงสัยเป็นกล่องของขวัญ ตั้งอยู่ในศาลาที่พักริมทาง หน้าศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ถนนสิโรรส เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบและใช้ปืนยิงทำลาย พบเป็นกล่องเปล่า คาดว่าเป็นการกระทำของผู้หวังดีที่ต้องการสร้างความปั่นป่วน
ก่อเหตุช่วงงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
การสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนโดยเฉพาะในพื้นที่ อ.เมืองของทั้ง จ.ปัตตานี และยะลา เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่กำลังมีงานประเพณีแห่พระลุยไฟแม่กอเหนี่ยวที่ จ.ยะลา และงานกตัญญูคู่ฟ้า มหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี 2556” ที่ จ.ปัตตานี
โดยในส่วนของ จ.ยะลา นั้น ได้มีพิธีแห่เกี้ยวองค์เทพจำลอง ทั้งเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เจ้าแม่กวนอิม หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และองค์พระจำลองอื่นๆ ลุยไฟที่กำลังลุกไหม้ โดยมีชาวไทยเชื้อสายจีนและศิษยานุศิษย์จากทั้งในและนอกพื้นที่มาร่วมงานอย่างคับคั้ง งานมีจนถึงวันที่ 25 ก.พ. ส่วนที่ จ.ปัตตานี ก็มีงานในลักษณะเดียวกัน แต่จัดยาวถึงวันที่ 27 ก.พ.
งานสมโภชดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงระดมกำลังรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เขตเมืองอย่างเข้มงวด และน่าจะเป็นสาเหตุให้กลุ่มก่อความไม่สงบมุ่งก่อเหตุในพื้นที่รอบนอกเพื่อสร้างความวุ่นวาย
บึ้มลวงที่ระแงะก่อนกด จยย.บอมบ์ซ้ำเจ็บ 4
ช่วงเย็นวันเดียวกัน ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส คนร้ายจุดชนวนระเบิดที่ซุกไว้ในถังขยะบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อชื่อดัง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส ตรงข้ามกองบังคับการกรมทหารพรานที่ 45 แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังเข้าตรวจจุดเกิดเหตุ จังหวะนั้นคนร้ายซึ่งคาดว่าแฝงตัวอยู่ใกล้บริเวณดังกล่าวได้จุดชนวนระเบิดมอเตอร์ไซค์บอมบ์ซ้ำ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ประกอบด้วย พ.ต.ต.ชาติ นพชำนาญ สารวัตรปราบปราม (สวป.) สภ.ระแงะ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) อนุธาน มะและ นายมูฮำหมัดซอบรี มะลอ อาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.ระแงะ และเด็กชายวัย 3 ขวบยังไม่ทราบชื่อ
เวลา 00.45 น.วันเสาร์ที่ 23 ก.พ.เช่นกัน คนร้ายลอบวางระเบิดในตู้โทรศัพท์ ตั้งอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (ยะลา-เบตง) บริเวณด้านหน้าที่ทำการไปรษณีย์ในเขตเทศบาลตำบลบันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จากการเข้าตรวจจุดเกิดเหตุในช่วงเช้า พบระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม บรรจุไว้ในท่อพีวีซี จุดชนวนด้วยความร้อน โดยใช้ธูปหรือยากันยุงเป็นตัวจุดชนวน
ดักระเบิดในโรงเรียนที่โคกโพธิ์-กำลังพลเจ็บ
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันศุกร์ที่ 22 ก.พ.เวลา 07.35 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 15322 (ร้อย ร.15322) หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 ขณะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเดินเท้าผ่านหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตะโละดือรามัน อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบไว้ในกล่องเหล็ก น้ำหนักประมาณ 3-4 กิโลกรัม โดยเป็นการวางแบบเร่งด่วนริมรั้วโรงพยาบาล
ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน คนร้ายลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการ รปภ.ครู สังกัดร้อย ร.2514 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย คือ พลทหารภัทรพรรค แก้วชู อายุ 23 ปี อาการสาหัส พลทหารบรรหาร รักนาควร อายุ 23 ปี และ พลทหารมหาราช เหล้าคำ อายุ 22 ปี โดย 2 รายหลังอาการไม่สาหัส เหตุเกิดบริเวณอาคารที่กำลังก่อสร้างภายในโรงเรียนบ้านเกาะตา หมู่ 3 ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
สำหรับระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ในกล่องเหล็ก น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ จากการตรวจสอบซิมการ์ดโทรศัพท์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เป็นหมายเลขของ นายประเสริฐ ทองอ่อน ซึ่งถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2556 ในพื้นที่บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยเป็นการยิงพร้อมนางละมัย ทองอ่อน ภรรยา แต่นางละมัยได้รับบาดเจ็บ
เอ็ม 79 ถล่มโรงพักกะพ้อ – บึ้ม อส.ยะลาเจ็บ 2
เวลา 17.50 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงใส่อาคารโรงพัก สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 3 นัด ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 8 นาย ประกอบด้วย ร.ต.ท.ทศพร ประกอบบุญ ส.ต.อ.เกรียงไกรยุทธ มากละม้าย ส.ต.ท.ธวัชชัย ไพรศูนย์ ส.ต.ท.เกรียงไกร ทองแก้ว ส.ต.ท.วิทยา กล้าประจัน ส.ต.ท.ปฎลศักดิ์ ยีหม๊ะ ส.ต.ท.ธนู ชิตวงศ์ และ ส.ต.ท.อัครพงษ์ แสนบุตร เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 19.30 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด 11 มม. และขนาด .22 ยิง นายวิชิต ใหม่เจริญ อายุ 42 ปี อส.ประจำ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี อยู่บ้านเลขที่ 33/3 หมู่ 5 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ และ นายวิสิทธิ์ เจริญสุข อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 12 ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบนถนนคอนกรีตทางเข้าหมู่บ้านปลักบ่อ หมู่ 2 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา อย่างไรก็ดี เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเหตุขัดแย้งส่วนตัว เพราะมีความเป็นไปได้ที่ผู้ตายนัดเจอกับคนร้ายเพื่อตกลงอะไรกันบางอย่าง ก่อนตกลงกันไม่ได้จึงถูกยิงเสียชีวิต
วันพุธที่ 20 ก.พ.เมื่อเวลา 07.15 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการ อส.ประจำ อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้ อส.ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 นาย คือ อส.ภิญโญ คงทน อายุ 39 ปี และ อส.สุเทพ จันทรวรรโณ อายุ 30 ปี เหตุเกิดขณะที่ทั้งคู่กำลังปฏิบัติหน้าที่ รปภ.ครู โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ บนถนนสายชนบทบ้านยุโป-บ้านบ่อเจ็ดลูก หมู่ 6 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา
ดึงอัยการร่วมกลั่นกรองแยกผู้หลงผิดเข้า ม.21
ด้านความคืบหน้าการเตรียมขยายพื้นที่ประกาศใช้มาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 (พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ) ให้มากขึ้น เพื่อเปิดช่องให้ผู้หลงผิดหรือผู้ต้องหาคดีความมั่นคงเข้ารายงานตัวและรับการอบรมเป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน แทนการถูกฟ้องคดีอาญานั้น
เมื่อวันศุกร์ที่ 22 ก.พ.ที่กระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เป็นประธานประชุมหน่วยงานความมั่นคง และหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม เพื่อกำหนดแนวทางบริหารจัดการคดีความมั่นคงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และวางแผนปฏิบัติการเพื่อการใช้มาตรา 21 พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ
พล.ต.อ.ประชา กล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้มีการนำเสนอสถิติสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยมีข้อสรุป 2 ประการสำคัญคือ 1.พิจารณาการขยายพื้นที่การใช้มาตรา 21 พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ และลดพื้นที่การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยให้เป็นไปตามความเห็นของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) 2 .ในพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้มาตรา 21 จะมีการบริหารจัดการการบังคับใช้กฎหมายอย่างบูรณาการ
สำหรับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี จะครบระยะเวลาต่ออายุคราวละ 3 เดือนในวันที่ 19 มี.ค.นี้ ซึ่งในวันดังกล่าวจะมีการพิจารณาต่อไปว่าจะยกเลิกการประกาศหรือไม่ในกี่อำเภอ
พล.ต.อ.ประชา กล่าวถึงการใช้มาตรา 21 ด้วยว่า จะต้องมีขั้นตอนการกลั่นกรองบุคคลที่จะเข้ากระบวนการ โดยเป็นหน้าที่ของหน่วยปฏิบัติคือ กอ.รมน. รวมทั้งจะมีการแต่งตั้งพนักงานอัยการเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการกลั่นกรองด้วย เพื่อแยกให้ชัดว่ากลุ่มใดคือกลุ่มผู้กระทำความผิด และกลุ่มใดคือกลุ่มผู้หลงผิด เชื่อว่ามาตรา 21 จะเป็นประตูสู่สันติภาพ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 มอเตอร์ไซค์บอมบ์ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
2-4 ภาพจุดเกิดเหตุระเบิดทั้งใน อ.เมืองปัตตานี อ.ระแงะ และการพบกล่องของขวัญต้องสงสัยที่ อ.เมืองยะลา
5 โรงเรียนบ้านเกาะตา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดถึงในโรงเรียน
ขอบคุณ : สำนักข่าวเนชั่นเอื้อเฟื้อข่าวจากกระทรวงยุติธรรม