รัฐสรุปไม่เคอร์ฟิวใต้ เผยแม้แต่ จนท.ยังค้าน นศ.ปลุกปัญญาชนร่วมแก้ขัดแย้ง
มติ ศปก.กปต.ไม่ประกาศเคอร์ฟิวชายแดนใต้ เชื่อเจ้าหน้าที่ยังควบคุมสถานการณ์ได้ เล็งเปิดเวทีพูดคุยขยายความร่วมมือภาคประชาชน "จารุพงษ์" สั่งตรวจสอบเสื้อเกราะ อส.-ชรบ. หลังพบ 16 แนวร่วมที่ถูกวิสามัญฯใส่ก่อเหตุบุกฐานนาวิกโยธิน คดีคืบพบรอยเลือดริมคลองกอตอ คลิปอ้างพิธีศพแกนนำว่อนเน็ต ด้านผู้ต้องหาบอมบ์หาดใหญ่รับสารภาพ
เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ก.พ.2556 ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ได้เป็นประธานการประชุม ศปก.กปต. โดยมี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี รวมทั้งผู้นำหน่วยทหาร ตำรวจ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่หารือกันในที่ประชุมคือ การประกาศเคอร์ฟิว หรือมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนด ในบางพื้นที่ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามข้อเสนอของ ร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งกลายเป็นข้อถกเถียงของฝ่ายต่างๆ มานานกว่า 1 สัปดาห์
รัฐสรุปไม่ประกาศเคอร์ฟิว
ภายหลังการประชุม พล.ท.ภราดร แถลงว่า จากการประเมินความเห็นของพี่น้องประชาชน รวมทั้งสถานการณ์ วัน เวลา และสถานที่ เมื่อพิจารณาในทุกมิติแล้ว ทั้งเหตุผลของฝ่ายทหาร ฝ่ายพลเรือน ฝ่ายปกครอง และภาคประชาชน เห็นพ้องต้องกันว่าสถานการณ์ที่ชายแดนใต้ยังไม่มีความจำเป็นต้องประกาศเคอร์ฟิว ยังเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่รัฐดูแลสถานการณ์ได้
ขณะเดียวกันมาตรการปัจจุบันที่รองรับเจ้าหน้าที่ ถือว่าได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชนอยู่แล้ว โดยเฉพาะด้านการข่าวก็เพิ่มความเข้มข้นขึ้น ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการก็ยังเพียงพอ ดังนั้นรองนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศปก.กปต.ก็ได้ให้ระมัดระวังต่อไป และระบุว่าการประกาศเคอร์ฟิวเป็นแนวคิดริเริ่มของท่านเท่านั้น เมื่อได้ฟังข้อมูลจากหลายภาคส่วนแล้วก็ถือว่ารับฟังได้และยอมรับ
ลุยเปิดเวทีพูดคุย-ปัดเพิ่มอาวุธกำนัน ผญบ.
พล.ท.ภราดร กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้ประเมินสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสรุปว่าความร่วมมือของพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้รัฐบาลสามารถแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ ส่วนสถานการณ์จะรุนแรงขึ้นหรือไม่นั้น ก็มีความกังวลบ้าง แต่ไม่หนักใจ เพราะยังประเมินว่าตอนนี้พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมและให้ข่าวสารกับภาครัฐได้ดีพอสมควร จึงเชื่อมั่นว่าเหตุการณ์จะยังไม่มีอะไรน่าหนักใจ เพราะฝ่ายปฏิบัติการความรุนแรงก็ไม่ต้องการเสียมวลชนเช่นกัน
ส่วนการขยายความร่วมมือจากภาคประชาชน รัฐบาลจะดำรงความมุ่งหมายเอาไว้ โดยจะมีการจัดและเปิดเวทีพูดคุยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น ในที่ประชุมได้มีการหยิบยกแนวคิดการเพิ่มอาวุธให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านขึ้นหารือด้วย แต่บทสรุปตอนนี้ยังถือว่าไม่มีความจำเป็น เพราะต้องการพัฒนาขีดความสามารถก่อน และคิดว่าอาวุธที่มีอยู่ในปัจจุบันน่าจะมีน้ำหนักเพียงพอต่อกำนันผู้ใหญ่บ้านแล้ว ไม่ต้องยกระดับให้เป็นถึงอาวุธสงคราม
ศอ.บต.เปิดเวทีทั่วใต้-ทุกฝ่ายไม่เอาเคอร์ฟิว
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวคิดของรัฐบาลที่จะนำมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนด หรือ "เคอร์ฟิว" มาใช้ในบางอำเภอที่เกิดเหตุรุนแรงซ้ำซาก ตามมติที่ประชุม สมช.ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันจันทร์ที่ 11 ก.พ.ที่ให้ ศอ.บต.รับฟังข้อมูลจากพื้นที่ ก่อนสรุปเพื่อนำเสนอเป็นรายงานต่อที่ประชุม ศปก.กปต. ในวันศุกร์ที่ 15 ก.พ.
โดย นายประมุข ลมุน ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เชิญผู้นำศาสนาประจำมัสยิดจำนวนกว่า 600 คนเข้าร่วมประชุมที่โรงแรมเซาท์เทิร์นวิว เมื่อวันอังคารที่ 12 ก.พ.ปรากฏว่าผู้นำศาสนาทั้งหมด 100% ไม่เห็นด้วยกับการประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิว
ขณะเดียวกัน ได้มีการจัดเวทีย่อยๆ ที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี และ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ซึ่งเป็น 2 พื้นที่ที่เพิ่งเกิดเหตุรุนแรง ทั้งเหตุยิงชาวนาและยิงพ่อค้ารับซื้อผลไม้ จนรัฐบาลมีแนวคิดประกาศเคอร์ฟิวใน 2 อำเภอดังกล่าว แต่จากการรับฟังความเห็นผู้นำท้องถิ่น ปรากฏว่าไม่เห็นด้วยกับมาตรการเคอร์ฟิว
แหล่งข่าวจาก ศอ.บต.เปิดเผยว่า ได้ประสานให้ฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ประชุมนอกรอบกันด้วย เบื้องต้นส่วนใหญ่ไม่อยากให้มีการประกาศเคอร์ฟิว
ปลุกปัญญาชนชายแดนใต้แสดงบทบาทแก้ขัดแย้ง
ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาและปัญญาชน ปรากฏว่าเครือข่ายนักศึกษา ม.อ.ปัตตานี (มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี) ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของนักกิจกรรมทั้งที่มาจากชมรม องค์การนักศึกษา สภานักศึกษา และกลุ่มกิจกรรมอิสระ ได้ออกแถลงการณ์สืบเนื่องจากประเด็นเคอร์ฟิว มีเนื้อหาดังนี้
1.รัฐบาลต้องพิจารณาให้รอบคอบมากที่สุดในการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
2.รัฐบาลต้องสร้างพื้นที่ทางการเมืองสำหรับกลุ่มที่มีอุดมการณ์คิดต่างจากรัฐ
3.รัฐต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
4.ขอเรียกร้องให้เพื่อนนักศึกษา ปัญญาชนทั้งหลาย ออกมาแสดงบทบาทในการแก้ปัญหาความรุนแรงและความขัดแย้งในพื้นที่
"เฉลิม"ขอกราบเท้ากลุ่มป่วนใต้เลิกก่อเหตุ
อีกเรื่องหนึ่งที่ตกเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์คือ แนวคิดของรัฐบาลในการจ่ายเยียวยาให้กับครอบครัวของผู้ก่อความไม่สงบที่เสียชีวิตจากเหตุโจมตีฐานนาวิกโยธิน กองร้อยปืนเล็กที่ 2 ต.ยือลอ ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 01.00 น.วันพุธที่ 13 ก.พ.2556 โดยล่าสุด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า บางครั้งมีการไปแปลความหมายกันผิดๆ ได้บอกเพียงว่าเห็นใจคนที่ปฏิบัติการหรือคนที่เสียชีวิต เพราะไม่ได้มองเป็นอย่างอื่นมากกว่าเป็นคนไทยด้วยกัน
"ผมบอกว่าต้องหาทางเยียวยา ซึ่งอาจจะเป็นการพูดคุยก็ได้ ทำไมไปแปลความว่าต้องจ่ายเงิน 7.5 ล้านบาท มันคนละประเด็นกัน คำว่าเยียวยาทำได้หลายลักษณะ เช่น แสดงความเห็นใจครอบครัวเพราะสามีหลงผิด เนื่องจากใน 16 รายที่เสียชีวิตมีหมายจับ 12 ราย แล้วทำไมผมจะไม่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ เพียงแต่นิสัยผมไม่ใช่คนซ้ำเติมคน ไม่ใช่เริงร่าให้สัมภาษณ์เยียบย่ำเขา ก็เขาเสียชีวิตไปแล้ว มันจะฟื้นได้เมื่อไหร่ มันไม่เข้าท่า"
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวด้วยว่า ขอกราบเท้าทุกคนให้เลิกก่อเหตุรุนแรง กราบเท้าทีเดียวไม่พอ กราบสามทีก็ได้ อย่าก่อเหตุเลย ขอให้หันหน้ามาลืมความหลังเริ่มต้นใหม่
ด้าน ว่าที่ร้อยตรีเลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ รองเลขาธิการ ศอ.บต.กล่าวว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.ได้เตรียมลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุการณ์ความไม่สงบเฉพาะกรณี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส โดยคณะกรรมการชุดนี้จะประกอบด้วยผู้แทนจาก ศอ.บต. ผู้ว่าราชการจังหวัดสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้แทนจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ผู้แทนจากตำรวจ องค์กรภาคประชาชน และสื่อมวลชนในพื้นที่
มท.1สั่งตรวจสอบเสื้อเกราะทุกพื้นที่
ด้าน นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีผู้ก่อความไม่สงบที่บุกโจมตีฐานนาวิกโยธินสวมเสื้อเกราะของทางราชการว่า จากการตรวจสอบแล้วพบว่าเสื้อเกราะทั้งหมดจำนวน 12 ตัว เป็นของกรมการปกครอง 5 ตัว เป็นของตำรวจ 5 ตัว และอีก 2 ตัวกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
เบื้องต้นได้สั่งให้กรมการปกครองตรวจสอบอีกครั้งว่า เสื้อเกราะ 5 ตัวมีความเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงตกไปอยู่ในมือของผู้ก่อความไม่สงบ พร้อมทั้งให้ตรวจสอบเสื้อเกราะทั้งหมดใน 3 จังหวัดและ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ว่ามีทั้งหมดกี่ตัว ไปอยู่ที่ใครบ้าง เพราะทุกตัวมีเลขทะเบียนอยู่ เว้นแต่จะถูกเลาะออก เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเสื้อเกราะที่คนร้ายใส่เพื่อโจมตีฐานอาจเป็นเสื้อเกราะที่ปล้นจาก อส.และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ซึ่งกรมการปกครองได้จำหน่ายหายไป 7 ตัว และพบแล้วจากเหตุการณ์นี้ 5 ตัว ส่วนอีก 2 ตัวยังไม่ชัดเจน
"ขอย้ำว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งให้ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด นอกจากนั้นได้สั่งให้มีการตรวจสอบอาวุธปืนที่ทางราชการแจกไปทั้งหมดด้วย เพื่อไม่ให้มีการเปลี่ยนถ่าย เชื่อว่าจะได้รายละเอียดทั้งหมดในวันที่ 16 ก.พ.นี้" นายจารุพงศ์ ระบุ
คลิปวีดีโออ้างพิธีศพแกนนำถูกวิสามัญฯว่อนเน็ต
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอพิธีศพของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีฐานนาวิกโยธินในลักษณะปลุกเร้าให้ต่อสู้ต่อไปนั้น นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ภาครัฐต้องพูดความจริงให้ทุกคนทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามที่ปลุกระดม ขอให้เชื่อมั่น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คลิปวีดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ยูทิวบ์ เป็นภาพบรรยากาศพิธีฝังศพที่ทำให้ผู้ชมเข้าใจว่าเป็นหนึ่งใน 16 รายที่ถูกวิสามัญฆาตกรรมจากเหตุการณ์โจมตีฐานทหาร โดยในคลิปมีชาวบ้านและกลุ่มวัยรุ่นไปร่วมพิธีจำนวนมาก มีการเปล่งเสียงแสดงความรู้สึกเสมือนหนึ่งว่าผู้เสียชีวิตเป็นนักรบ
พบรอยเลือดคาดแก๊งโจมตีฐานหนีกบดาน
ด้านความคืบหน้าการพิสูจน์หลักฐานของกลางซึ่งเจ้าหน้าที่ยึดได้จากเหตุการณ์โจมตีฐานนาวิกโยธินนั้น พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผู้กำกับการ สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 15 ก.พ.ว่า รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บค 7968 ยะลา ที่คนร้ายนำมาใช้เป็นพาหนะก่อเหตุโจมตีฐานปฏิบัติการกองร้อยปืนเล็กที่ 2 บ้านยือลอ เป็นรถที่ถูกปล้นมาจาก นายสมพร ศรีสุข ที่หมู่ 9 ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2555 โดยใช้ป้ายทะเบียนปลอม และคนร้ายเพิ่งใช้รถคันนี้ก่อเหตุยิงชุมชนไทยพุทธ ที่บ้านโคกดีปลี อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมานี้เอง ทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บหลายราย
ด้านเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน นำโดย พ.ต.อ.จันที แจ่มจันทร์ นักวิทยาศาสตร์ (สบ 4) กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลา ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่บ้านปาลูลากา หมู่ 5 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ พบรอยเลือด 2 จุดบริเวณปากทางเข้าบ้านของผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบกองเลือดอีกจุดหนึ่งบริเวณริมคลองกอตอ ท้องที่บ้านแบลอ หมู่ 2 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ ซึ่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตามยึดยุทโธปกรณ์ ทั้งถังแก๊ส ซองอาวุธปืน เครื่องกระสุน ตลอดจนแผ่นโซลาร์เซลล์ เป้สนาม เสื้อกันฝน และเหล็กเส้นตัดท่อนจำนวนมาก จึงได้เก็บตัวอย่างเลือดและของกลางทั้งหมดไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์
สำหรับอาวุธปืนที่ยึดได้จำนวน 16 กระบอกนั้น เป็นปืนยาว 13 กระบอก และปืนสั้น 3 กระบอก โดยในส่วนของปืนยาว พบเป็นปืนเอ็ม 16 ที่ปล้นมาจากค่ายปิเหล็ง หรือค่ายกองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 จำนวน 2 กระบอก ปล้นจากฐานพระองค์ดำ หรือฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารราบที่ 15121 (ร้อย ร.15122) ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2554 จำนวน 2 กระบอก นอกจากนั้นยังมีปืนเอ็ม 4 อีก 2 กระบอกที่คนร้ายปล้นไปจากตำรวจ สภ.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา และปืนอาก้าที่ปล้นจาก อส. (อาสารักษาดินแดน) อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 กระบอก
ครูใต้หวั่นเป็นเป้าล้างแค้น-บึ้มศรีสาครไร้เจ็บ
หลายฝ่ายประเมินว่ากลุ่มก่อความไม่สงบจะเปิดปฏิบัติการความรุนแรงเพื่อตอบโต้เหตุการณ์ที่ทหารหน่วยนาวิกโยธินวิสามัญฆาตกรรมคนร้าย 16 รายขณะบุกเข้าโจมตีฐานปฏิบัติการกองร้อยปืนเล็กที่ 2 ที่บ้านยือลอ ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนใต้ กล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ถือเป็นเหตุรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่ฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบเป็นผู้สูญเสีย ดังนั้นในช่วงนี้จึงมีความจำเป็นที่เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) และคณะครูในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีออกมาก่อเหตุกับเป้าหมายอ่อนแอเพื่อล้างแค้นให้กับกลุ่มคนร้ายที่เสียชีวิต หรือตอบโต้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่
"เบื้องต้นผมได้ประสานไปยังแกนนำครูในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว" นายบุญสม ระบุ สำหรับโรงเรียนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งใน อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส พื้นที่เกิดเหตุ ยังคงเปิดการเรียนการสอนตามปกติ
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ครูในพื้นที่ต้องเตรียมตัวและระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะต้องระวังว่าอาจเกิดเหตุการณ์อะไรตามมาอย่างที่เคยมีในอดีต ทางกระทรวงศึกษาธิการได้หารือกับฝ่ายความมั่นคงอยู่ตลอดเพื่อเตรียมการเรื่อง รปภ.ครู อย่างเต็มที่ ส่วนการปิดการเรียนการสอนนั้น ให้เป็นดุลยพินิจของแต่ละโรงเรียน เพราะต้องเห็นใจผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยง
ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 14 ก.พ. ที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส คนร้ายใช้แบตเตอรี่กดจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่วางไว้บริเวณคอสะพานบ้านลาเวง ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร เพื่อโจมตีทหารชุด รปภ.ครู สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 3111 (ร้อย ร.3111) หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 37 แรงระเบิดทำให้กำลังพลจำนวน 6 นายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
เพิ่มกำลังพล อส.อีก 2.7 พันนาย – นายกฯจ่อบินมาเลย์
ส่วนที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ 12 ก.พ.ได้เห็นชอบการเพิ่มกรอบอัตรากำลังพลกองอาสารักษาดินแดน (อส.)ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 2,700 คน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
มีรายงานด้วยว่า ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย เพื่อประชุมประจำปีกับนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย โดยคาดว่าจะมีการหยิบยกปัญหาความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภายใต้ของไทยขึ้นหารือด้วย
ผู้ต้องหาบอมบ์หาดใหญ่ยอมสารภาพ – รวบทีมงานเพิ่มอีก 1
ด้านความคืบหน้าการสอบปากคำ นายเจะหมะ วานิ หรือ “ไคโร” หรือ “มาค่อม” หนึ่งในผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ที่โรงแรมลีการ์เด้นส์พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2555 ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจับกุมได้ขณะซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 5 ต.เทพา อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา และปัจจุบันควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์ซักถาม จ.ยะลา นั้น
แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวความมั่นคงที่เข้าร่วมสอบปากคำ เปิดเผยว่า นายเจะหมะได้ยอมรับสารภาพแล้วว่าร่วมกับพวกก่อเหตุลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เด้นส์พลาซ่าจริง โดยมีผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน คือ นายเสรี แวมามุ นายรุสลัน ใบมะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับไว้แล้ว และแนวร่วมจาก จ.ปัตตานี อีก 1 คนแต่ไม่ทราบชื่อ
ต่อมา พ.อ.บุญสิน พาดกลาง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธวัชชัย สังฆมิตกล รองผู้กำกับการ สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้สนธิกำลังเข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 105/3 หมู่ 5 บ้านโฉลง ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี หลังได้รับรายงานจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า มีกลุ่มผู้ต้องสงสัยเคลื่อนไหวและกบดานอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวมาหลายวันแล้ว
ผลการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบ นายอุเซ็ง โต๊ะโย๊ะ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) จำนวน 7 หมาย และเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เดนส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2555 ด้วย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ถังแก๊สที่เจ้าหน้าที่ตามยึดได้ที่ ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส คาดเกี่ยวข้องกับทีมโจมตีฐานปฏิบัติการบ้านยือลอ
2 เจ้าหน้าที่แกะรอยเส้นทางหลบหนีของผู้ก่อความไม่สงบที่รอดชีวิตจากเหตุปะทะที่ฐานนาวิกโยธิน บริเวณรอยต่อระหว่าง อ.บาเจาะ กับ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ที่อยู่ติดกัน มีเพียงลำน้ำคั่น (ภาพทั้งหมดโดย ปทิตตา หนูสันทัด)
ขอบคุณ : เนื้อหาข่าวจากส่วนกลางโดยสำนักข่าวเนชั่น