ศอ.บต.ฮึดเดินหน้า"ฟื้นฟูนาร้าง" องค์กรสิทธิฯเตือนเสี่ยงเป็นเป้าโจมตี
ศอ.บต.เดินหน้าโครงการฟื้นฟูนาร้าง แม้เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงชาวนาจากภาคกลางที่ลงพื้นที่ชายแดนใต้ ชาวบ้านเปิดใจไม่อยากให้โครงการชะงัก ขณะที่ทหารยอมรับวันเกิดเหตุไม่มีกำลัง รปภ. ด้าน "ฮิวแมนไรท์วอทช์" เตือนเสี่ยงเป็นเป้าโจมตีซ้ำ เหตุขัดแนวทางขบวนการแยกดินแดน แนะรัฐเร่งทำความเข้าใจ
ความคืบหน้าหลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามลอบยิงกลุ่มเกษตรกรจาก จ.สิงห์บุรี และ จ.สุพรรณบุรี ที่ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เพื่อช่วยเกษตรกรในพื้นที่ ต.บาโลย อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ฟื้นฟูนาร้างจำนวน 815 ไร่ ตามโครงการของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จนเป็นเหตุให้เกษตรกรเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีก 11 ราย เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 1 ก.พ.2556 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 4 ก.พ. นายปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการ ศอ.บต. ได้เดินทางเข้าพื้นที่ ต.บาโลย เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านหลังต้องเผชิญกับเหตุร้าย และยืนยันว่า ศอ.บต.จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป โดยนายปิยะได้ร่วมหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวกับชาวบ้านในพื้นที่นำร่องฟื้นฟูนาร้างด้วย
นายมะอีซอ อีแต ชาวบ้าน ต.บาโลย ที่ร่วมโครงการกับ ศอ.บต. กล่าวว่า อยากให้โครงการนี้เดินหน้าต่อ ตอนนี้สิ่งที่กลัวที่สุดคือกลัวโครงการจะหยุดชะงัก เนื่องจากเป็นโครงการที่ดี มีการอบรมทั้งทฤษฎีและปฏิบัติจริงครบทั้งระบบ ตนตั้งใจจะเดินทางไปร่วมอบรมการทำนาที่หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย จ.สุพรรณบุรี รุ่นที่ 3 ในวันที่ 13 ก.พ.นี้ด้วย แต่เมื่อเกิดเหตุรุนแรงขึ้นกับชาวนาที่มาช่วยชาวบ้านในพื้นที่ ทำให้ไม่แน่ใจในความปลอดภัยหากจะร่วมโครงการต่อไป
ทหารยอมรับวันเกิดเหตุไม่มีกำลัง รปภ.
ด้านเจ้าหน้าที่ทหารจากฐานปฏิบัติการบ้านบาโลย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีการส่งกำลังทหารไปรักษาความปลอดภัย (รปภ.) พื้นที่โครงการและการทำกิจกรรมของกลุ่มเกษตรกรทุกวัน แต่ในวันที่เกิดเหตุ (1 ก.พ.) ทหารติดภารกิจ รปภ.ครู ทำให้ไม่ได้ส่งกำลังไปดูแล ประกอบกับในวันดังกล่าวกลุ่มชาวนาจาก จ.สิงห์บุรี และสุพรรณบุรี ที่ลงพื้นที่ช่วยฟื้นฟูนาร้าง เดินทางกลับที่พักล่าช้ากว่าปกติด้วย
องค์กรสิทธิฯชี้เคยเตือนแล้วเสี่ยงตกเป็นเป้า
นายสุนัย ผาสุก ผู้แทนฮิวแมนไรท์วอทช์ประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนระดับโลก กล่าวว่า ฮิวแมนไรท์วอทช์เคยเขียนรายงานเกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีข้อมูลส่วนหนึ่งที่ได้จากขบวนการเคลื่อนไหวที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ ระบุว่ากลุ่มขบวนการไม่เห็นด้วยกับโครงการฟื้นฟูนาร้างของภาครัฐ
"กลุ่มขบวนการให้ข้อมูลว่า การก่อเหตุรุนแรงของพวกเขาที่ต้องการขับไล่คนต่างศาสนาออกจากพื้นที่นั้น ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อเข้าครอบครองหรือหาประโยชน์จากที่ดิน แต่ต้องการให้เป็นพื้นที่ร้างเพื่อนำมาเป็นพื้นที่ส่วนกลางของมลายู ฉะนั้นการที่รัฐไทยมีโครงการฟื้นฟูนาร้าง ส่วนหนึ่งจึงเป็นการเข้าไปพัฒนาพื้นที่ที่ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางของมลายู เท่ากับสวนทางกับแนวทางที่กลุ่มขบวนการดำเนินการมาตลอด" นายสุนัย กล่าว และว่าด้วยเหตุผลนี้โครงการฟื้นฟูนาร้างจึงเป็นโครงการที่มีความอ่อนไหวสูง และเสี่ยงที่จะตกเป็นเป้าความรุนแรงอย่างมาก
แนะรัฐ รปภ.เข้ม-เร่งสร้างความเข้าใจ
อย่างไรก็ดี นายสุนัย กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี ไม่ควรหยุดชะงัก แต่ ศอ.บต.ควรประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวางเพื่อสร้างความเข้าใจว่าโครงการนี้ทำเพื่อส่วนรวม มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนทุกกลุ่ม ไม่เลือกศาสนาหรือเชื้อชาติ โดยควรคุยกับผู้นำในท้องถิ่นให้เข้าใจวัตถุประสงค์ของโครงการด้วย
ขณะเดียวกัน ศอ.บต.ต้องเน้นเรื่องการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และเร่งคลี่คลายคดีให้มีความชัดเจนว่ากลุ่มไหนที่เป็นผู้ลงมือก่อเหตุรุนแรงกับกลุ่มเกษตรกรจาก จ.สิงห์บุรี และสุพรรณบุรี
มีรายงานด้วยว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. จะเดินทางไป จ.สิงห์บุรี ในวันอังคารที่ 5 ก.พ.เพื่อร่วมงานศพชาวนาที่เสียชีวิตจากเหตุลอบยิงที่ อ.ยะรัง ด้วย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน รวมทั้งทหาร และ ศอ.บต. เข้าพื้นที่โครงการฟื้นฟูนาร้างที่ ต.บาโลย อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี
2 ปรับพื้นที่นาร้างเพื่อหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าว