เผากล้องวงจรปิดยะลา 7 อำเภอวอด 76 ตัว ย้อนอดีต 9 ครั้งสูญ 300 ตัว!
ยะลาป่วน คนร้ายกระจายกำลังเผาทำลายกล้องวงจรปิด 43 จุดใน 7 อำเภอ คืนเดียววอด 76 ตัว ผู้ว่าฯเรียกประชุมฝ่ายกองกำลัง หวั่นกระทบมาตรการ รปภ.พร้อมตั้งกรรมการสอบด่วน ย้อนอดีตเผากล้องต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2554 รวม 9 ครั้ง สูญร่วม 300 ตัว ขณะที่เหตุร้ายรายวันยังมีต่อเนื่อง ปาประทัดยักษ์ก่อกวนฐานทหารที่รือเสาะ ด้านผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ตามยึดกระสุนเอ็ม 16 เกือบร้อยนัดที่นราธิวาส
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดและเกิดเหตุความไม่สงบขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลาประมาณ 03.30-04.50 น. หรือเช้ามืดของวันจันทร์ที่ 14 ม.ค.2556 มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ใช้ไม้พันด้วยยางในรถจักรยานยนต์และผ้าชุบน้ำมันเชื้อเพลิงจุดไฟเผากล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ในพื้นที่ 7 อำเภอของ จ.ยะลา จำนวน 43 จุด ประกอบด้วย
1.พื้นที่ อ.เมืองยะลา 5 จุด กล้องได้รับความเสียหาย 9 ตัว ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ ต.ท่าสาป
2.พื้นที่ อ.รามัน 13 จุด กล้องได้รับความเสียหาย 20 ตัว ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ ต.กายูบอเกาะ และ ต.โกตาบารู
3.พื้นที่ อ.กรงปินัง 6 จุด กล้องได้รับความเสียหาย 14 ตัว ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ ต.กรงปินัง โดยในจุดนี้มีกล้องถูกขโมยไปด้วย
4.พื้นที่ อ.ยะหา 4 จุด กล้องได้รับความเสียหาย 7 ตัว ส่วนใหญ่อยู่ใน ต.บาโร๊ะ
5.พื้นที่ อ.กาบัง 6 จุด กล้องได้รับความเสียหาย 7 ตัว ส่วนใหญ่อยู่ใน ต.กาบัง
6.พื้นที่ อ.บันนังสตา 11 จุด กล้องได้รับความเสียหาย 21 ตัว ส่วนใหญ่อยู่ใน ต.บันนังสตา ต.ตาเนาะปูเต๊ะ และ ต.บาเจาะ
7.พื้นที่ อ.ธารโต 1 จุด กล้องได้รับความเสียหาย 1 ตัว ในท้องที่ ต.บ้านแหร
ทั้งนี้ เวลา 06.00 น.ของวันจันทร์ที่ 14 ม.ค. พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกโรงพักในพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของกล้องโทรทัศน์วงจรปิด พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 จ.ยะลา เข้าเก็บหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุทั้งหมด สรุปมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดถูกเผาทำลาย 43 จุด กล้องเสียหาย 76 ตัว กล้องถูกขโมย 1 จุด สูญหาย 3 ตัว เผาตู้ชุมสายโทรศัพท์ 1 จุดในพื้นที่ อ.บันนังสตา และเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ 1 จุดในพื้นที่ อ.บันนังสตา เช่นกัน เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ผู้ว่าฯยะลาเรียกฝ่ายกองกำลังถกเครียด
ต่อมา เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ชั้น 3 อาคารศาลากลางยะลาส่วนขยาย (หลังเก่า) อ.เมือง จ.ยะลา นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เรียกประชุมฝ่ายกองกำลังในพื้นที่ทั้ง 3 ฝ่าย คือ ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ปกครอง เข้าหารือถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบเผากล้องโทรทัศน์วงจรปิดถึง 43 จุดใน 7 อำเภอ ทำให้กล้องได้รับความเสียหาย 76 ตัวในคืนเดียว ทั้งนี้ พล.ต.ปราการ ชลยุทธ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว.ยะลา และนายอำเภอทั้ง 8 อำเภอ ได้เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายเดชรัฐ กล่าวว่า ได้เรียกประชุมเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์และตรวจสอบสาเหตุการลอบวางเพลิงทำลายกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ตลอดจนผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในแง่การรักษาความปลอดภัยพื้นที่ แม้ที่ผ่านการการทำงานจะประสบความสำเร็จด้วยดีก็ตาม (จ.ยะลาไม่มีการปิดโรงเรียนเลยตลอดปี 2555)
"ต้องมาทบทวนว่ายังมีจุดบกพร่องหรือยังไม่รัดกุมตรงจุดไหน เพราะการถูกคนร้ายลอบวางเพลิงเผากล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นถึงความหละหลวมที่ต้องแก้ไข แม้คนร้ายจะก่อเหตุช่วงตี 4-5 แต่ก็เป็นเวลาที่พี่น้องมุสลิมตื่นนอนเพื่อทำละหมดแล้ว พร้อมกันนี้ผมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายของกล้องวงจรปิด และตรวจสอบถึงความเป็นมา ตลอดจนประวัติของกล้องแต่ละตัว เพราะกล้องที่ได้รับความเสียหายบางส่วนเป็นกล้องขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่อยู่นอกเมือง นอกเขตเทศบาลนครยะลา เพิ่งได้รับการอุดหนุนจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนในด้านคดีก็ได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำพยานหลักฐานที่มีเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว" ผู้ว่าฯยะลา กล่าว
เผากล้องต่อเนื่อง 9 ครั้งเสียหายยับเกือบ 300 ตัว
อนึ่ง เหตุการณ์คนร้ายเผากล้องโทรทัศน์วงจรปิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2554 ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา โดยข้อมูลที่ "ทีมข่าวอิศรา" รวบรวมได้ มีไม่น้อยกว่า 9 ครั้ง ประกอบด้วย
19 ส.ค.2554 คนร้ายออกตระเวนทำลายกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทำให้กล้องเสียหาย 29 ตัว
5 ก.ย.2554 คนร้ายไม่ทราบจำนวนออกปฏิบัติการก่อกวนทำลายกล้องโทรทัศน์วงจรปิดบริเวณริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ท้องที่บ้านต้นมะขาม หมู่ 4 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ทำให้กล้องได้รับความเสียหาย 48 ตัว
28 ก.ย.2554 คนร้ายไม่ทราบจำนวนตระเวนลอบวางเพลิงกล้องโทรทัศน์วงจรปิดซึ่งติดตั้งอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ท้องที่บ้านปูโป๊ะ หมู่ 9 ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้กล้องเสียหาย 29 ตัว
7 ธ.ค.2554 คนร้ายลอบเผากล้องโทรทัศน์วงจรปิด 16 ตัว ในท้องที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี
17 ก.พ.2555 คนร้ายเผาทำลายกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ทำให้กล้องเสียหาย 16 ตัว
9 เม.ย.2555 คนร้ายตระเวนเผากล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่ อ.รามัน และ อ.เมือง จ.ยะลา รวม 25 จุด ทำให้กล้องเสียหาย 42 ตัว นอกจากนั้นยังมีในพื้นที่ ต.ยี่งอ ต.ละหาร และ ต.ลูโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ทำให้กล้องเสียหายอีก 5 ตัว รวม 47 ตัว
11 ก.ย.2555 คนร้ายเผาทำลายกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ทำให้กล้องเสียหาย 7 ตัว
22 ธ.ค.2555 คนร้ายลอบวางเพลิงเผากล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทำให้กล้องเสียหาย 26 ตัว
14 ม.ค.2556 คนร้ายเผาทำลายกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่ 7 อำเภอของ จ.ยะลา ทำให้กล้องได้รับความเสียหาย 76 ตัว
รวมเกิดเหตุการณ์เผากล้องซีซีทีวี ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน ไม่น้อยกว่า 9 ครั้ง กล้องเสียหายไม่ต่ำกว่า 294 ตัว ไม่รวมกล้องถูกขโมยอีกจำนวนหนึ่ง
มีรายงานว่า จังหวัดยะลาได้ทำเรื่องเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 2/2555 เมื่อวันพุธที่ 11 เม.ย.2555 ซึ่งประชุมกันที่ทำเนียบรัฐบาล ขอรับการสนับสนุนโครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี จำนวน 138 จุด 150 ตัว งบประมาณ 99.37 ล้านบาท
ประทัดยักษ์ปาใส่ฐานทหารที่รือเสาะ
เมื่อเวลา 18.50 น.วันอาทิตย์ที่ 13 ม.ค. คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถกระบะและรถจักรยานยนต์อย่างละ 1 คันเป็นพาหนะ ได้จุดประทัดยักษ์ 3 ลูกแล้วขว้างใส่ฐานปฏิบัติการหมวดปืนเล็กที่ 1 (มว.ปล.ที่ 1) กองร้อยทหารราบที่ 15122 (ร้อย.ร.15122) หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ตั้งอยู่ริมถนนสายรือเสาะ-ศรีสาคร บ้านบาโงปะแต หมู่ 1 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส แต่ประทัดตกบริเวณริมถนนใกล้กับฐาน ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบที่มีเจตนาก่อกวน
เวลา 19.00 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายฮาลิม สะมะแอ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 บ้านกูวา หมู่ 5 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เสียชีวิต เหตุเกิดขณะที่นายฮาลิมกำลังยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านของตนเอง โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ของผู้ตายหลบหนีไปด้วย เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบเช่นกัน
ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ที่ อ.เบตง จ.ยะลา คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนคาร์ไบน์ยิง นายวินัย หมั่นเรียน อายุ 43 ปี ชาว จ.อำนาจเจริญ และ น.ส.อาภา ภูมี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 9 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา เสียชีวิตคาสวนยางพาราบ้านซาโห่ ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว
ยึดกระสุนปืนเอ็ม 16 เกือบร้อยนัดที่รือเสาะ
ด้านผลการปฏิบัติของฝ่ายความมั่นคง วันอาทิตย์ที่ 13 ม.ค. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 เข้าตรวจค้นพื้นที่ ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และได้ควบคุมตัว นายฮากิม มะเด็ง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166/1 หมู่ 5 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ พร้อมของกลางอาวุธปืน พืชกระท่อม และยาแก้ไอ จึงส่งตัวให้ สภ.จะแนะ ดำเนินคดี
วันเดียวกัน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ส่งกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 9/3 ถนนดูกูแคและ เขตเทศบาลตำบลบาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และได้เชิญตัวชายเจ้าของบ้านไปซักถาม
วันเสาร์ที่ 12 ม.ค. หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 จัดกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่บ้านมะลา หมู่ 5 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส สามารถตรวจยึดวิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง ประทัด 3 ถุง เสื้อ ชรบ. (ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน) 1 ตัว ต่อมาวันอาทิตย์ที่ 13 ม.ค.เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้นซ้ำ พบสัญลักษณ์เอ็ม 16 บนต้นยางพารา จึงตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างละเอียดจนพบยุทโปกรณ์ ได้แก่ กระสุนปืน เอ็ม 16 จำนวน 94 นัด กระสุนปืนลูกซอง 4 นัด น้ำมันทำความสะอาดปืน 5 กระป๋อง จึงยึดอุปกรณ์ทั้งหมดไปตรวจสอบ
รวบ 5 ผู้ต้องหา-ผู้ต้องสงสัย
เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ม.ค. ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา พ.ท.สิทธิศักดิ์ เจนบรรจง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ได้แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องสงสัยและผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคงรวม 5 ราย พร้อมของกลางเป็นเอกสารภาษายาวี โทรศัพท์มือถือ ชุดลายพราง และหมวกนิรภัย หลังนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่หมู่ 1 ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
รายชื่อผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัว ประกอบด้วย นายอุสมาน บือโต อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 2 ต.กอลำ อ.ยะรัง นายอับดุลอาซิ ดอนิ อยู่บ้านเลขที่ 123/7 หมู่ 1 ต.เขาตูม อ.ยะรัง นายอับดุลเลาะ บาเห อยู่บ้านเลขที่ 105/14 หมู่ 1 ต.เขาตูม อ.ยะรัง นายนิพา นิกูโน อยู่บ้านเลขที่ 84/1 หมู่ 5 ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และ นายมะสอและ สะมะแอ อยู่บ้านเลขที่ 43 ถนนวิฑูรอุทิศ 1 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา โดย นายอับดุลอาซิ นายนิพา และ นายมะสอและ มีหมายจับที่ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีบุกยิงครูเสียชีวิต 2 รายในโรงอาหารโรงเรียนบ้านบาโง อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อ 11 ธ.ค.2555
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ซากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ถูกเผาในพื้นที่ จ.ยะลา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)