นราฯจมน้ำ ใต้ป่วนประปราย รัฐส่ง "ทหาร-ตชด." สอนแทนครู
ชายแดนใต้อ่วม เจอฝนหนัก น้ำท่วมหลายพื้นที่ นราธิวาสประกาศ 13 อำเภอเป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน ขณะที่ยะลาน้ำทะลักที่รามัน ผู้ว่าฯสั่งเฝ้าระวังดินถล่ม ด้านสถานการณ์ความไม่สงบยังมีบ้างประปราย บึ้มทหารพราน ยิง ชรบ.หญิง ระทึกกู้ระเบิดรางรถไฟที่โคกโพธิ์ "บิ๊กกองทัพ" ลงพื้นที่ ไฟเขียวส่งทหาร-ตชด.สอนหนังสือแทนครู "เฉลิม" เตรียมบินถกมาเลย์ต้นปีหน้า
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ห้วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2555 ค่อนข้างเงียบสงบ มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง และหลายพื้นที่เกิดน้ำท่วม
โดยเมื่อวันพุธที่ 26 ธ.ค.2555 เวลา 07.00 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ยิง น.ส.สุพัตรา ประจู อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158 บ้านยานิง หมู่ 2 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบนถนนสายชนบทบ้านยานิง หมู่ 2 ต.จวบ ขณะที่ น.ส.สุพัตรา กำลังขี่รถจักรยานกลับจากซื้อของที่ตลาด กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน อย่างไรก็ดี มีพยานเห็นว่าผู้ตายจอดจักรยานคุยกับคนร้ายเหมือนตกลงอะไรกันบางอย่าง ก่อนจะถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ เบื้องต้นตำรวจจึงให้น้ำหนักสาเหตุการสังหารว่าน่าจะเกิดจากปัญหาขัดแย้งส่วนตัว
เวลา 11.30 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด 11 มม.ยิง นายอาลีปิน ขะใต้ อายุ 33 ปี คนขับรถขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส อยู่บ้านเลขที่ 2/1 บ้านบาตูบือซา หมู่ 6 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ กระสุนเจาะเข้าที่หน้าผาก ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และสอบสวนจนทราบว่า นายอาลีปินกำลังขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บจ 2469 นราธิวาส ซึ่งเป็นของ อบต.บาโงสะโต โดยมีคนนั่งมาในรถด้วยอีก 4 คน เพื่อเดินทางไปทำธุระใน อ.เมืองนราธิวาส แต่ระหว่างทางซึ่งอยู่ในท้องที่ ต.บาโงสะโต ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้ปืนพกขนาด 11 มม.ยิงใส่บริเวณหน้ารถ กระสุนถูก นายอาลีปิน เสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ระทึกซุกระเบิดถังแก๊สใต้รางรถไฟ
เวลา 20.35 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนเอ็ม-16 ยิง นายริดวาน มะนอ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182/2 บ้านโฉลง หมู่ 5 ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะยืนอยู่หน้าบ้านของตนเอง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิงเช่นกัน
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณเส้นทางรถไฟในท้องทีบ้านป่าไร่ หมู่ 2 ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สหุงต้ม ขนาด 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ฝังไว้บริเวณรางรถไฟ ลึกประมาณ 1 ฟุต โดยนำก้อนหินปิดทับไว้เพื่อพรางตา เจ้าหน้าที่จึงใช้ปืนน้ำแรงดันสูงยิงทำลายและเก็บกู้เอาไว้ได้อย่างปลอดภัย
บึ้มทหารพรานเจ็บ 1 ยิง ชรบ.หญิงสาหัส
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอังคารที่ 25 ธ.ค.เวลา 15.15 น.คนร้าย 2 คนได้ลอบวางระเบิดดักสังหารชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเส้นทางเพื่อรักษาความปลอดภัยครู สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 3311 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 บริเวณริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (ยะลา-เบตง) ท้องที่บ้านเจาะบันนัง หมู่ 9 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา แรงระเบิดทำให้ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ชัยวัฒน์ สุขประเสริฐพร อายุ 24 ปี ได้รับบาดเจ็บ โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง บรรจุในกล่องเหล็ก จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร เป็นการวางแบบเร่งด่วน โดยคนร้ายนำระเบิดที่ประกอบเรียบร้อยแล้วมาวางดักก่อนที่กำลังพลจะเดินทางเข้าพื้นที่เพียงไม่กี่นาที
วันจันทร์ที่ 24 ธ.ค.เวลา 22.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลา 11 พบศพชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 25-30 ปี บนถนนสายยุโป-ตาเซะ ท้องที่บ้านบาโด หมู่ 3 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา สภาพศพนุ่งผ้าโสร่ง สวมเสื้อวอร์มสีฟ้า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด สอบถามผู้ใหญ่บ้นาและคนในพื้นที่ ต.ยุโป ยืนยันว่าไม่ใช่คนในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงส่งศพให้โรงพยาบาลศูนย์ยะลาชันสูตรต่อไป
วันอาทิตย์ที่ 23 ธ.ค.เวลา 10.00 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกขนาด 11 มม.ประกบยิง นางชม สุขทอง อายุ 48 ปี สมาชิกชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) หมู่ 6 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส อยู่บ้านเลขที่ 67/1 บ้านไอร์บาลอ หมู่ 6 ต.ช้างเผือก ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดขณะที่ นางชม กำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสาย 4060 ท้องที่บ้านไอร์โซร์ หมู่ 5 ต.ช้างเผือก มุ่งหน้าไปเยี่ยมลูกชายที่ฟาร์มตัวอย่างบ้านไอร์บือแต หมู่ 4 ต.ช้างเผือก เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
บิ๊กกองทัพพาเหรดล่องใต้เล็งส่ง "ทหาร-ตชด." สอนแทนครู
ระหว่างวันอังคารที่ 25 ธ.ค.ถึงวันพุธที่ 26 ธ.ค.มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของฝ่ายทหารหลายนายเดินทางลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพล ทั้ง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งค้างคืนที่ จ.นราธิวาส ด้วย รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่นำของขวัญปีใหม่ไปมอบให้กำลังพล และ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ที่เดินทางไปตรวจเยี่ยมกองกำลังนาวิกโยธินภาคใต้ กองทัพเรือ
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า มีแนวคิดส่งทหารและตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่มีวุฒิการศึกษาด้านการศึกษา หรือเคยเป็นครู ไปช่วยสอนหนังสือแทนครูที่ชายแดนใต้เป็นการชั่วคราว เบื้องต้นทราบว่าสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ และกองทัพบกได้หารือกับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้เสนอแนวคิดในที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) ว่าหากมีความจำเป็นก็สามารถจัดทหารหลัก ตชด.และทหารพราน ไปสอนชั่วคราวแทนครูในพื้นที่ได้ โดยในส่วนของกองทัพบกและเหล่าทัพอื่นเคยเตรียมการมาหลายปีแล้ว ได้สำรวจคุณสมบัติและขึ้นทะเบียนไว้แล้ว หากรัฐบาล หรือผู้บังคับบัญชาเห็นชอบก็พร้อมทำงาน ในเบื้องต้นหากต้องการเร็วก็จะนำทหารจากฐานใกล้ๆ ไปสอนแทนก่อน
ปิ๊งไอเดียครูนั่งรถหุ้มเกราะ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ได้ปรับแผนรักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) มา 3 -4 ครั้งแล้ว และได้เสนอไปที่ กปต.เพื่อประสานกับส่วนงานที่เกี่ยวข้องที่นอกเหนือการควบคุมของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อดูแลความปลอดภัยของครู คือ ที่บ้าน ระหว่างทาง และที่โรงเรียน ต้องหาทางว่าทำอย่างไรให้ทั้ง 3 จุดปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
"ทหารทำหมดคงไม่ไหว ก็ต้องมาแบ่งกัน ช่วงไหนทหารอยู่ไม่ได้ ก็ต้องเป็นตำรวจ ช่วงไหนเบาก็ต้องเป็น ชรบ. อรบ. (ราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน) หรือลูกจ้างโครงการจ้างงานเร่งด่วนที่โรงเรียนดูแลอยู่ ตรงไหนที่มันอันตรายก็ต้องให้ครูอาศัยนั่งรถเกราะไปกับทหารช่วงลาดตระเวน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
"เฉลิม" เตรียมไปมาเลย์ต้นปีหน้า
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศปก.กปต.) กล่าวว่า ฝ่ายยุทธการจะมอบให้ทหารเป็นผู้ดูเเล ส่วนตัวเขาทำหน้าที่บูรณาการร่วมกันกับทุกฝ่ายเท่านั้น และหลังจากนี้จะประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์กับตำรวจทั่วประเทศเเละผู้ว่าราชการจังหวัด 4 จังหวัดภาคใต้ เพราะการเเก้ปัญหาชายแดนใต้นั้น ผู้ว่าฯต้องดูเเลพื้นที่ด้วยตัวเอง โดยให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเข้าไปมีส่วนร่วม
นอกจากนั้น ระหว่างวันที่ 15-17 หรือ 21-23 ม.ค.2556 เขาจะเดินทางไปประเทศมาเลเซีย ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานกับเเหล่งข่าวในพื้นที่ ส่วนจะเป็นใครไม่สามารถเปิดเผยได้ ยืนยันว่าการทำงานเเก้ปัญหาภาคใต้จะเกี่ยวข้อง 3 ด้านคือ 1.พื้นที่ 2.ประเทศเพื่อนบ้าน และ 3.ประเทศมุสลิม
สมาชิกป่วนใต้ตากใบให้ข้อมูล จนท.-พาชี้จุดยึดอุปกรณ์บึ้ม
ด้านผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ธ.ค.2555 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 36 ได้รับการแสดงตัวของ นายอับดุลการิม สาแล๊ะ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133/3 บ้านบาเดาะมาตี หมู่ 9 ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส หลังถูกให้การพาดพิงจากบุคคลที่ถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกก่อนหน้านี้ว่า กลุ่มก่อความไม่สงบที่ก่อเหตุโจมตีสถานีตำรวจน้ำตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2555 ได้ส่งมอบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุที่บ้านของนายอับดุลการิม
จากการซักถาม นายอับดุลการิม ให้การยอมรับว่ามีส่วนรู้เห็นการรับส่งอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุโจมตีสถานีตารวจน้ำตากใบจริง และยอมรับว่าเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่บ้านบาเดาะมาตี หมู่ 9 ต.ไพรวัน อ.ตากใบ โดยมีหน้าที่เก็บรักษาอาวุธและอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุรุนแรง ทั้งยังเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่างๆ ในพื้นที่ อ.ตากใบ เช่น ดูต้นทางเหตุการณ์ยิงคนเลี้ยงวัว ยิงผู้ใหญ่บ้านบ้านบาเดาะมาตีเสียชีวิต และดูต้นทางเหตุยิงคนไทยพุทธและเหตุวางระเบิดโรงเรียนในพื้นที่ ต.ศาลาใหม่ เป็นต้น โดยนายอับดุลการิมได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ร่วมก่อเหตุและคนสั่งการด้วย
นอกจากนั้น นายอับดุลการิม ได้พาไปชี้จุดที่สมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่นำอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุไปฝังไว้บริเวณชายป่าสวนยาง บ้านบาเดาะมาตี หมู่ 9 ต.ไพรวัน ห่างจากบ้านของนายอับดุลการิมประมาณ 500 เมตร เมื่อเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้น ก็พบถังพลาสติกสีฟ้าขนาดบรรจุ 30 ลิตร ฝังอยู่ในดินลึกประมาณ 1 เมตร ภายในถังพบอุปกรณ์ประกอบระเบิดพร้อมกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง จึงยึดไปตรวจสอบที่หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 36
นราฯประกาศภัยพิบัติ 13 อำเภอ – ยะลาเฝ้าระวังดินถล่ม
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ปรากฏว่าจังหวัดที่ได้รับผลประทบหนักที่สุดคือ จ.นราธิวาส โดยเมื่อวันพุธที่ 26 ธ.ค.ทางจังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่ทั้ง 13 อำเภอเป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน ทั้งนี้ อำเภอที่น้ำท่วมหนักได้แก่ อ.แว้ง อ.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงปาดี และ อ.ระแงะ หลายพื้นที่มีน้ำท่วมสูง รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านได้ โรงเรียนหลายแห่งต้องปิดการเรียนการสอน
ส่วน อ.รามัน จ.ยะลา น้ำจากแม่น้ำสายบุรีได้เอ่อล้นตลิ่งและไหลทะลักเข้าท่วมสวนยางพาราและบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.กายูบอเกาะ ต.เกะรอ ต.ตะโละหะลอ ต.อาซ่อง และ ต.บาลอ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก โรงเรียนหลายแห่งต้องปิดการเรียนการสอน
ขณะที่ นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เร่งไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย และสั่งเฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ อ.เบตง อ.ธารโต และ อ.บันนังสตา โดยเฉพาะบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 419 (ยะลา-เบตง) ซึ่งหลายช่วงตัดผ่านป่าเขา
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 น้ำทะลักท่วมพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา ทำให้ชาวบ้านและเด็กๆ ต้องใช้เรือสัญจรแทนรถ
2 พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิบัติภารกิจระหว่างเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ภาพทั้งหมด โดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
ขอบคุณ : ข่าวบางส่วนจากสำนักข่าวเนชั่น