ตั้งหน่วยเฉพาะกิจรักษาชีวิตครู24ชั่วโมง
ทหาร-แกนนำครูถกแผน รปภ.ลงตัว สั่งตั้งหน่วยเฉพาะกิจคุ้มครองครู 24 ชั่วโมง นำร่องพื้นที่สีแดง-ครูไทยพุทธกลุ่มเสี่ยง พร้อมทุ่มงบดึงกำลังภาคประชาชนและฝ่ายปกครองเสริม ขณะที่ "แม่พิมพ์ชาติ" คลอดแผนดูแลตัวเอง พร้อมเสนอ 6 มาตรการให้ฝ่ายกองกำลังปรับแผนรองรับ ย้ำให้แจ้งเตือนหากมีการปิดล้อมตรวจค้นก่อนครูตกเป็นเป้าล้างแค้น ในหลวงพระราชทานพวงมาลาวางหน้าหีบศพครูมายอ ไฟใต้ยังระอุ บึ้มทหารพรานเจาะไอร้องเจ็บ 6
การประชุมระหว่างฝ่ายกองกำลังกับสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อวันศุกร์ที่ 14 ธ.ค.2555 ตามบัญชาของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ลงพื้นที่ก่อนหน้านั้น 1 วัน ได้ข้อสรุปแล้ว
ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงเตรียมตั้งหน่วยเฉพาะกิจขึ้นมารับผิดชอบภารกิจคุ้มครองครูเป็นการเฉพาะตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การประสานงานระหว่างครูกับฝ่ายกองกำลังมีประสิทธิภาพเต็มร้อย ขณะที่แกนนำครูเสนอตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ รปภ.ครูของฝ่ายความมั่นคงด้วย
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเข้าร่วมประชุมกับแม่ทัพภาคที่ 4 และแกนนำครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปตรงกันว่าต่อไปฝ่ายความมั่นคงจะ รปภ.ครูตลอดทั้งวัน ไม่ รปภ.เป็นช่วงเวลาเหมือนแต่ก่อน โดยจะจัดกำลังเป็นหน่วยเฉพาะกิจดูแลครูเป็นการเฉพาะ โดยเสริมกำลังของฝ่ายปกครอง ทั้งจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน เข้าไปช่วยทหาร
"ในส่วนของฝ่ายปกครองที่จะเข้าไปเสริม ก็ต้องมีการใช้งบประมาณ ซึ่งผมรับจะไปหารือกับท่านนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดงบประมาณให้ต่อไป" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุ
นำร่องพื้นที่สีแดง-ครูไทยพุทธกลุ่มเสี่ยง
นายเสริมศักดิ์ กล่าวต่อว่า มาตรการใหม่นี้จะเริ่มคุ้มครองครูในพื้นที่สีแดงที่เป็นเป้าหมายก่อน และเน้นไปที่โรงเรียนเป้าหมายหรือบุคคลเป้าหมายโดยใช้กำลังทหารเป็นหลัก เช่น โรงเรียนที่มีครูไทยพุทธ ส่วนพื้นที่สีอ่อน (มีความปลอดภัยสูงกว่า) ที่มีเหตุรุนแรงน้อยก็จะใช้กำลังจากฝ่ายปกครองและภาคประชาชนเสริมมากขึ้น
นอกจากนั้นจะเร่งย้ายครูที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย แต่คงไม่สามารถย้ายออกจากพื้นที่ทั้งหมดได้ มิฉะนั้นจะประสบปัญหาขาดแคลนครู
สำหรับตัวเลขครูในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสี่อำเภอของ จ.สงขลา) นั้น มีข้าราชการครูราว 2.6 หมื่นคน เป็นครูไทยพุทธประมาณ 1.2 หมื่นคน
แม่ทัพสั่งตั้งหน่วยเฉพาะกิจคุ้มครองครู
พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า รายละเอียดของมาตรการคงไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่จะบูรณาการทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร และตั้งกองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจคุ้มครองครูขึ้นมา ทำหน้าที่ดูแลครูตลอด 24 ชั่วโมง ฉะนั้นต่อไปจะไม่มีปัญหาเรื่องการประสานงานอีก ครูจะเดินทางเวลาไหนก็สามารถแจ้งฝ่ายกองกำลังได้ทันที
"จากการพูดคุยรู้สึกดีใจที่ครูตระหนักว่าตนเองตกเป็นเป้าหมาย และต้องไม่ประมาท ต้องเข้าใจสถานการณ์ในพื้นที่ว่าผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้ยุทธวิธีก่อการร้าย คือทำเล็กแต่ให้เกิดผลใหญ่ และพุ่งเป้าไปที่เป้าหมายอ่อนแอ ในพื้นที่มีผู้บริสุทธิ์มากกว่า 90% ฉะนั้นเขาจะก่อเหตุที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ จึงต้องเข้าใจสถานการณ์และไม่ประมาท"
พล.ท.อุดมชัย ยังแสดงความเชื่อมั่นว่า สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะขณะนี้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคประชาชนล้วนปฏิเสธความรุนแรง จึงมีคนกลุ่มเล็กๆ เพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่ใช้ความรุนแรงอยู่ ฝ่ายความมั่นคงก็จะเร่งปรับยุทธวิธีเพื่อรับมือกับการก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อการ เพื่อให้ประชาชนได้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้มากที่สุด
ครูคลอดแผน รปภ.ตัวเอง
ในช่วงเช้าวันเดียวกัน ก่อนการประชุมร่วมกับฝ่ายกองกำลัง ทางสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้จัดประชุมระดมความเห็นครูจากทุกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อเตรียมข้อมูลและประมวลข้อห่วงใยของครู ก่อนสรุปเสนอแม่ทัพภาคที่ 4 โดยมี นายเสริมศักดิ์ และ นายอนุศักดิ์ อายุวัฒนะ ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้าร่วมรับฟังด้วย
ภายหลังการประชุมในช่วงเช้า นายอนุศักดิ์ เปิดเผยกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า ประเด็นที่ได้ข้อสรุปร่วมกันคือ ครูจะประมาทไม่ได้อีกต่อไป และต้องมีแผนปฏิบัติในส่วนของครูเอง ไม่ใช่มีแผนเฉพาะฝ่ายกองกำลังเท่านั้น
สำหรับกฎเหล็กหรือแผนปฏิบัติของครูที่ตกผลึกร่วมกัน ได้แก่
- อยู่อย่างไม่ประมาท
- ต้องศึกษาข้อมูลเส้นทาง ภูมิประเทศ และฟังข่าวสารการแจ้งเตือน
- การเดินทางต้องรักษากฎกติกาที่ตกลงไว้กับฝ่ายกองกำลังอย่างเคร่งครัด อย่าดำเนินชีวิตแบบสบายๆ อย่ามั่นใจในความปลอดภัย แม้จะอยู่ในชุมชนมานาน หรือมีลูกศิษย์ลูกหาอยู่รอบโรงเรียนก็ตาม
- อย่าทำกิจกรรมใดๆ นอกเวลา รปภ.ครู หากมีกิจกรรมนอกเวลาต้องแจ้งฝ่ายกองกำลังทราบทันที
- หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่โรงเรียนช่วงวันเสาร์ อาทิตย์
- เตือนสติตัวเองทุกครั้งที่ออกจากบ้าน
เสนอ 6 ข้อปรับแผน รปภ.-วอนแจ้งเตือนหลังปิดล้อม
สำหรับแนวทางที่แกนนำครูเห็นว่ายังเป็นจุดอ่อนของการ รปภ.อยู่ และต้องการให้ฝ่ายกองกำลังปรับแผนรองรับ มีทั้งสิ้น 6 ข้อ คือ
1.ครูที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต กว่า 80% เป็นครูไทยพุทธ (นับถือศาสนาพุทธ) ทางฝ่ายกองกำลังจะมีมาตรการดูแลครูไทยพุทธที่กำลังตกเป็นเป้าหมายอย่างไร
2.การปฏิบัติของฝ่ายกองกำลังนอกเวลาที่กำหนดให้เป็นห้วงเวลา รปภ.ครู จะดำเนินการอย่างไร
3.มีกลไกการแจ้งเตือนอย่างไรเมื่อมีการปิดล้อม ตรวจค้น จับกุมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ใดก็ตาม เพราะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่ครูจะถูกปองร้ายเพื่อตอบโต้จากฝ่ายที่ถูกปิดล้อมตรวจค้น
4.จะมีมาตรการทางการข่าวแจ้งเตือนครูล่วงหน้าได้อย่างไรว่าช่วงเวลานั้นๆ กำลังตกเป็นเป้าหมายของการลอบทำร้าย
5.ทำอย่างไรให้หน่วยปฏิบัติดำเนินการตามแผนอย่างแท้จริง เข้าถึงครู เข้าถึงโรงเรียน และเข้าถึงเส้นทาง
6.สถิติครูขอย้ายออกจากพื้นที่กำลังพุ่งสูง แนวทางการนำครู ตชด.มาสอนแทน เป็นไปได้หรือไม่ อย่างไร
ทั้งนี้ การประชุมร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 4 ในช่วงบ่าย พล.ท.อุดมชัย ได้รับข้อเสนอทุกข้อ และยืนยันกับแกนนำครูว่าจะปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มกำลังเพื่อดูแลชีวิตครูให้ปลอดภัยที่สุด
ในหลวงพระราชทานพวงมาลาหน้าหีบศพ "ครูสมศักดิ์"
วันเดียวกัน ที่ศาลายรรยง อุทัย วัดเมืองยะลา ถนนสุขยางค์ ในเขตเทศบาลนครยะลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นผู้แทนพระองค์ อัญเชิญพวงมาลาพระราชทานวางหน้าหีบศพ นายสมศักดิ์ ขวัญมา อายุ 38 ปี ครูผู้ช่วยโรงเรียนบ้านบาโง ต.ปานัน อ.มายอ จ.ปัตตานี อยู่บ้านเลขที่ 64/8 ซอยวิฑูรย์ทิศ 4 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งถูกคนร้ายบุกยิงถึงในโรงเรียนเมื่อวันอังคารที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ครอบครัวของครูสมศักดิ์ต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ โดยในพิธี มีหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อนครู เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ญาติพี่น้อง และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด ส่วนพิธีพระราชทานเพลิงศพจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 17 ธ.ค.
นายสมศักดิ์ เป็นบุตรคนโตของ นายสวัสดิ์ และ นางเสริม ขวัญมา มีพี่น้อง 3 คน นายสมศักดิ์เพิ่งสมรสกับ นางยุพิรัตน์ จันทร์ฉาย อายุ 34 ปี ครูโรงเรียนบ้านศาลาใหม่ หมู่ 3 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพียง 3 เดือนก่อนจะถูกยิงเสียชีวิต
ดักบึ้มทหารเจ็บ 6 ที่เจาะไอร้อง
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเมื่อเวลาประมาณ 08.15 น. เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวนเส้นทาง สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4808 กรมทหารพรานที่ 48 บนถนนเขตรอยต่อบ้านไอร์ปาแย-บ้านเจาะไอร้อง หมู่ 1 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้รถหุ้มเกราะรีว่า หมายเลขทะเบียนตรากงจักร 23836 ซึ่งกำลังพลใช้เป็นยานพาหนะ ตกลงไปในหลุมระเบิดลึก 2 เมตร กว้าง 3 เมตร โดยหลังเกิดระเบิด คนร้ายที่ดักซุ่มอยู่ข้างทางได้ระดมยิงเข้าใส่ แต่กำลังพลในรถได้ยิงต่อสู้จนคนร้ายล่าถอยไป
อย่างไรก็ดี มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ประกอบด้วย ส.อ.อับดุลรอฮิม ยามา หัวหน้าชุด อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ตั้งพงษ์ ภาพันธ์ อส.ทพ.อมรศักดิ์ ขันเรือน อส.ทพ.ศรชัย จันทร์แดง อส.ทพ.ชูวิทย์ จันทร์ทิพย์ และ อส.ทพ.สมชาย วาตวงศ์พันธ์ โดยทั้ง 6 นายได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดอัดจนร่างกายกระแทกกับตัวรถ แต่อาการไม่สาหัส เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
-------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พิธีศพ ครูสมศักดิ์ ขวัญมา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)