ยิงครูผู้หญิงดับอีกรายที่นราฯ บุกเผาโรงเรียนปัตตานีก่อนเปิดสอน
ครูใต้ระส่ำ ถูกสังหารอีกรายที่นราธิวาส เผยเป็นครูผู้หญิงรายที่ 2 ที่ถูกฆ่าในรอบ 11 วัน ขณะที่คนร้ายปลอมเป็นเจ้าหน้าที่อ้างตรวจโรงเรียนที่ปะนาเระก่อนเปิดการเรียนการสอน พอเข้าประตูได้จับ ชรบ.มัดมือไพล่หลังแล้วจุดไฟเผาอาคาร โชคดีเสียหายไม่หนัก ผอ.โรงเรียนสั่งปิดชั่วคราวทันที ด้านผู้ว่าฯปัตตานีรุดเยี่ยมให้กำลังใจครูบ้านท่ากำชำที่ ผอ.เพิ่งถูกยิงดับ เผยครู 3 คนขอย้ายหนีไฟใต้ ส่งผลเหลือครูแค่ 4 คนดูแลเด็กกว่าร้อยชีวิต บัวแก้วส่งหนังสือทักท้วงถึงมือเลขาฯโอไอซีแล้ว ด้านคดีจับอุปกรณ์ประกอบระเบิดที่หาดใหญ่ ตำรวจยันไม่เกี่ยวไฟใต้
สถานการณ์ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของครูในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีปัญหา ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 3 ธ.ค.2555 คนร้ายได้ก่อเหตุยิงครูเสียชีวิตอีก 1 ราย ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยครูอย่างเข้มงวดของฝ่ายความมั่นคง
เหตุยิงครูรายล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.วันจันทร์ที่ 3 ธ.ค. โดยคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง ครูฉัตรสุดา นิลสุวรรณ อายุ 32 ปี ครูโรงเรียนบ้านยาโงะ หมู่ 2 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน โดยหลังก่อเหตุ คนร้ายได้ชิงรถจักรยานยนต์ของครูฉัตรสุดาหลบหนีไปด้วย
มีรายงานว่า สาเหตุที่ครูฉัตรสุดากลับบ้านเย็นกว่าปกติ เพราะเร่งทำแบบประเมินผลการเรียนการสอนส่งผู้อำนวยการโรงเรียน และไม่ได้แจ้งฝ่ายกองกำลังขณะเดินทางกลับบ้าน จึงทำให้คนร้ายสบโอกาสลอบสังหาร
การเสียชีวิตของครูฉัตรสุดา นับเป็นเหตุคร่าชีวิตครูผู้หญิงรายที่ 2 ในรอบ 11 วัน โดยเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสังหาร ครูนันทนา แก้วจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เสียชีวิตขณะขับรถยนต์ออกจากโรงเรียนเพื่อเดินทางกลับบ้าน ทำให้สมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องประกาศปิดการเรียนการสอนโรงเรียนกว่า 300 แห่งใน จ.ปัตตานี อย่างไม่มีกำหนด เพื่อกดดันให้รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงปรับแผนรักษาความปลอดภัยครูให้รัดกุมกว่าที่เป็นอยู่
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แกนนำครูได้เข้าพบและหารือกับ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อปรับมาตรการคุ้มครองครู และยังได้เข้าพบหารือกับ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่กรุงเทพฯ เพื่อขอให้ดูแลเรื่องสวัสดิการครู โดยเฉพาะเพิ่มค่าเสี่ยงภัยจาก 2,500 บาท เป็น 3,500 บาทต่อเดือนด้วย ซึ่งรัฐมนตรีก็รับปากจะเร่งผลักดัน โดย นายพงศ์เทพ มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่ชายแดนใต้เพื่อพบปะให้กำลังใจครูในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ด้วย
สำหรับครูฉัตรสุดาที่เพิ่งถูกสังหาร นับเป็นครูและบุคลากรทางการศึกษารายที่ 155 ที่ต้องสังเวยชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
บุกเผาโรงเรียนที่ปะนาเระก่อนเปิดสอน
การเปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนทั่ว จ.ปัตตานี กว่า 300 แห่งเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 3 ธ.ค. ดำเนินไปอย่างไม่เต็มร้อย เพราะเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้ายังเกิดเหตุคนร้ายบุกวางเพลิงเผาโรงเรียนในท้องที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ทำให้โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราวอีก 1 วัน
พ.ต.อ.มานิตย์ ยิ้มซ้าย ผู้กำกับการ สภ.ปะนาเระ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานปัตตานี และกำลังทหาร ได้เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงเรียนบ้านท่าสู หมู่ 3 บ้านท่าสู ต.บ้านน้ำบ่อ อ.ปะนาเระ หลังจากเมื่อเวลา 01.30 น. (3 ธ.ค.) มีคนร้ายประมาณ 10-15 คน บุกเผาโรงเรียน
พฤติกรรมของคนร้ายสวมชุดพรางสีดำพร้อมอาวุธครบมือ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขอเข้าไปตรวจโรงเรียนก่อนที่โรงเรียนจะเปิดการเรียนการสอนในตอนเช้า โดยมี นายไซฟู ยูโซ๊ะ อายุ 32 ปี นายดอเลาะ อามะ อายุ 47 ปี และนายมะอุเซ็ง ยูโซ๊ะ อายุ 45 ปี เป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่ดูแลโรงเรียนอยู่ เมื่อ ชรบ.เปิดประตูให้ ปรากฏว่าชายชุดดำกลุ่มดังกล่าวได้กระจายกำลังไปรอบโรงเรียน พร้อมจับ ชรบ.ทั้ง 3 คน ใช้ลวดมัดมือไพล่หลัง และนำตัวไปคุมไว้กลางสนามฟุตบอล
ส่วนกลุ่มคนร้ายที่เหลือได้นำยางรถยนต์เข้าไปวางเพลิงในห้องพักครูชั้น 2 ของอาคารปูน 2 ชั้น โดยเพลิงได้เผาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 5 เครื่อง แท็บเล็ตจำนวน 18 เครื่อง และอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอนอื่นๆ ทั้งนี้เพลิงยังได้ลุกลามไปไหม้ห้องพยาบาลและห้องสมุดเสียหายบางส่วนด้วย จากนั้นคนร้ายได้พากันหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุมีชาวบ้านที่เห็นเปลวเพลิงได้ระดมกันเข้าช่วยเหลือ ชรบ.ทั้ง 3 คน และเร่งดับไฟ จนสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ในที่เกิดเหตุพบซากยางรถยนต์ 2 เส้น และคราบน้ำมันเบนซิน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ผอ.สั่งปิดโรงเรียนชั่วคราวทันที
ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนได้ประกาศหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว เนื่องจากบรรดาครูและนักเรียนเกิดอาการเสียขวัญและยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย โดยโรงเรียนแห่งนี้หยุดสอนมาแล้ว 1 สัปดาห์ตามมติของสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังเกิดเหตุคนร้ายยิง นางนันทนา แก้วจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เสียชีวิต เมื่อวันที่ 22 พ.ย.
สำหรับโรงเรียนบ้านท่าสู เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนทั้งหมด 146 คน ครู 13 คน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในพื้นที่ อ.ปะนาเระ เพิ่งเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนบ้านบางมะรวด จนอาคารเรียนเสียหายทั้งหลัง
3ครูท่ากำชำขอย้ายพ้นพื้นที่
วันเดียวกัน นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมคณะเหล่ากาชาด ได้เดินทางไปเยี่ยมปลอบขวัญครูและนักเรียนที่โรงเรียนบ้านท่ากำชำ ซึ่งคนร้ายก่อเหตุยิงครูนันทนา แก้วจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 ก.ย. ทำให้ครู 3 คนไม่กล้าเดินทางไปโรงเรียน จนทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 ต้องมีคำสั่งให้ครูทั้ง 3 คนไปช่วยราชการในโรงเรียนที่ปลอดภัย
นายนพพร มากคงแก้ว ผู้อำนวยการ สพท.ปัตตานีเขต 1 กล่าวว่า ครูหนึ่งในสามคนที่ขอย้าย ได้ทำเรื่องก่อนเกิดเหตุยิงผู้อำนวยการโรงเรียน และได้รับอนุมัติช่วงนี้พอดี ส่วนอีก 2 รายขอย้ายกรณีพิเศษหลังผู้อำนวยการถูกยิง ซึ่งทาง สพท.ปัตตานีเขต 1 ได้ให้ครูทั้งหมดออกไปช่วยราชการนอกพื้นที่ตามความต้องการแล้วเพื่อความสบายใจ อย่างไรก็ดี การโยกย้ายดังกล่าวทำให้โรงเรียนบ้านท่ากำชำมีครูเหลือเพียง 4 คน ทำหน้าที่สอนหนังสือและดูแลนักเรียนจำนวน 110 คน
สายบุรีเดือดยิงชาวบ้าน-อส.ดับ
สำหรับเหตุรุนแรงอื่นๆ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมายังคงมีอีกหลายเหตุการณ์ โดยเมื่อเวลา 12.00 น.วันจันทร์ที่ 3 ธ.ค.คนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายอับดุลฮามิ สาหะ อายุ 41 ปี ชาวสวนยางพารา อยู่บ้านเลขที่ 115 หมู่ 5 ต.ตะบิ้่ง อ.สายบุรี เสียชีวิต เหตุเกิดขณะนายอับดุลฮามิขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนในท้องที่หมู่ 8 บ้านปายอ ต.กะดุนง อ.สายบุรี หลังเสร็จจากงานในสวนยางพารา กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ธ.ค.เวลา 11.45 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ซุ่มยิง นายฮามะตอเละ ดอเลาะ อายุ 32 ปี อาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี อยู่บ้านเลขที่ 122 บ้านบือเระ หมู่ 1 ต.บือเระ อ.สายบุรี กระสุนถูกบริเวณศีรษะและลำตัวเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะ นายฮามะตอเละ ขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนในหมู่บ้านทุ่งคล้า หมู่ 5 อ.สายบุรี เพื่อไปปลูกยางพาราที่สวนหลังหมู่บ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
รัวเอ็ม 16 ถล่มนายก อบต.บางปอ สิ้นชื่อ
ที่ จ.นราธิวาส เวลาประมาณ 17.00 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถกระบะสีน้ำเงินไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ยิงใส่ นายอับดุลกอเดร์ มาหะมะ อายุ 45 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 5 ต.บางปอ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบและสอบสวนจนทราบว่า นายอับดุลกอเดร์ขับรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ญน 6196 กรุงเทพมหานคร ออกจากหน่วยเลือกตั้งที่ 9 โรงเรียนนิรันดรวิทยา มุ่งหน้ากลับบ้าน หลังเสร็จจากการสังเกตการณ์นับคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิก อบต.บางปอ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุบริเวณบ้านกูเบ หมู่ 8 ต.บางปอ นายอับดุลกอเดร์ได้จอดรถเพื่อลงไปดื่มน้ำชาในหมู่บ้าน ระหว่างลงจากรถมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับรถกระบะจอดประกบ จากนั้นใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงใส่จนเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น
รือเสาะระอุยิงชาวบ้านดับ 1 เจ็บ 2
เวลา 19.45 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดซุ่มยิง นายอาหามะวีรอ หะยีตาเอะ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81/1 บ้านกาโด๊ะ หมู่ 4 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะนายอาหามะวีรอกำลังเดินจากบ้านของตนเอง
เวลา 21.45 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายมูฮาหมัด บือราเฮง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/1 หมู่ 7 ต.สุวารี อ.รือเสาะ เสียชีวิต และ ด.ช.มูอัฟพี บือราเฮง อายุ 9 ปี อยู่บ้านเดียวกัน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดขณะที่ทั้งคู่กำลังพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
จับอุปกรณ์บึ้มที่หาดใหญ่ไม่เกี่ยวป่วนใต้
ส่วนความคืบหน้ากรณีตำรวจ สภ.ทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตรวจค้นบ้านต้องสงสัยใน ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ ซึ่งได้รับแจ้งว่าเป็นสถานที่มั่วสุมเสพยาเสพติดของกลุ่มวัยรุ่น และพบอุปกรณ์ประกอบระเบิดล็อตใหญ่ จึงควบคุมตัว นายธีระพงค์ พุ่มอยู่ อายุ 21 ปี และเยาวชนอีก 5 คนไปสอบสวนดำเนินคดี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ธ.ค.นั้น
ล่าสุด วันจันทร์ที่ 3 ธ.ค. พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา (ผบก.ภ.จว.สงขลา) กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาและตรวจสอบอุปกรณ์ประกอบระเบิด ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวโยงกับผู้ก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เป็นเพียงกลุ่มวัยรุ่นที่คึกคะนองเท่านั้น
บัวแก้วส่งหนังสือทักท้วงมติโอไอซี
กรณีองค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) สรุปรายงานผลการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศเมื่อกลางเดือน พ.ย.ตำหนิไทยว่าแก้ไขปัญหาภาคใต้ไม่คืบหน้า ล่าสุด นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มอบหนังสือชี้แจงต่อเลขาธิการโอไอซีแล้ว ระหว่างเดินทางผ่านประเทศไทยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่ออธิบายให้ทราบถึงความไม่สบายใจของทางการจากมติที่ประชุมดังกล่าว เพราะมีความคลาดเคลื่อนและไม่ได้สะท้อนถึงการทำงานของรัฐบาลตลอดเวลาที่ผ่านมา ซึ่งเลขาฯโอไอซีก็รับฟังด้วยดี
วันเดียวกัน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาลถึงสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า โดยภาพรวมดีขึ้น แต่ต้องเฝ้าระวังช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ จำนวนของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมีน้อยลง ผู้ก่อความไม่สงบจึงพยายามนำคนที่เหลืออยู่มารวมกันแล้วก่อเหตุ ยืนยันว่าแนวร่วมของผู้ก่อความไม่สงบลดน้อยลง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 เจ้าหน้าที่ทหารรักษาความปลอดภัยโรงเรียนอย่างเข้มงวดที่ จ.ยะลา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
2 อุปกรณ์ประกอบระเบิดที่ยึดได้ในบ้านย่าน ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (ภาพโดย สุเมธ ปานเพชร)
ขอบคุณ : ข่าวบางส่วนจากสำนักข่าวเนชั่น และ คุณปาเรซ โลหะสัณห์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปัตตานี หนังสือพิมพ์คมชัดลึก