ปิด 332 โรงเรียนปัตตานี ครูเสนอ 8 มาตรการจี้ปรับแผน รปภ.
มติสมาพันธ์ครูชายแดนใต้ปิดการเรียนการสอนโรงเรียนทั่วปัตตานี 332 แห่ง หลังเกิดเหตุยิงครูระดับ ผอ.โรงเรียนที่หนองจิกเสียชีวิตเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมเสนอ 8 มาตรการให้ฝ่ายความมั่นคงปรับแผน รปภ. แนะให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลในโรงเรียน แต่หลีกเลี่ยงการใช้พื้นที่สถานศึกษาปฏิบัติการทางยุทธวิธี สำรวจความเห็นครูหลายพื้นที่ไม่เห็นด้วยหยุดสอนไม่มีกำหนด หวั่นกระทบเด็ก ด้าน กอ.รมน.นัดถกทุกภาคส่วนวันนี้
ที่ประชุมสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้มีมติให้โรงเรียนทั้ง จ.ปัตตานี จำนวน 332 แห่งปิดการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย
มติของสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ดังกล่าว มีขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 26 พ.ย.2555 หลังจากเกิดเหตุรุนแรงกับครูครั้งล่าสุด คือเหตุคนร้ายลอบยิง นางนันทนา แก้วจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เสียชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา นับเป็นครูและบุคลากรทางการศึกษารายที่ 154 ที่ต้องสังเวยไฟใต้
แกนนำครูในพื้นที่เห็นว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไม่สามารถดูแลความปลอดภัยให้กับครูได้ เพราะในเดือน พ.ย.เพียงเดือนเดียว เกิดเหตุยิงบุคลากรทางการศึกษาเสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย บาดเจ็บอีก 2 ราย และตลอดเกือบ 9 ปีของสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครูปัตตานีถูกยิงเสียชีวิตแล้ว 66 ราย บาดเจ็บ 46 ราย
8 มาตรการ รปภ.ครูเสนอฝ่ายความมั่นคง
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ที่ประชุมครูได้ร่วมกันสะท้อนข้อมูลปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการรักษาความปลอดภัย เพื่อเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีข้อสรุป 8 ประการ คือ
1.กำหนดให้โรงเรียนเป็นพื้นที่เสี่ยงพิเศษ
2.ให้มีการลาดตระเวนเส้นทางการรับส่งครู วางกำลังให้พร้อม และให้เจ้าหน้าที่ปรากฏตัวให้เห็นเด่นชัด
3.ให้เจ้าหน้าที่สนับสนุนช่วยเหลือกรณีได้รับการร้องขอจากโรงเรียน
4.ให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณโรงเรียน
5.ให้แจ้งโรงเรียนทราบทุกครั้งหากมีการปิดล้อมตรวจค้น เพื่อป้องกันความตื่นตระหนกแก่ครูและนักเรียน
6.หลีกเลี่ยงการใช้พื้นที่โรงเรียนเป็นสถานที่ปฏิบัติการทางยุทธวิธี
7.ชี้แจงทำความเข้าใจให้แก่บุคลากรทางการศึกษา กรณีต้องสงสัยว่าเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบ เช่น ถูกออกหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) หรือหมาย ฉฉ ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ)
8.เร่งดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมถนน สะพาน และพิจารณาติดตั้งเครื่องมือพิเศษในพื้นที่โรงเรียน เช่น ไฟฟ้าส่องสว่าง กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) เป็นต้น
อนึ่ง หลังเกิดเหตุยิงครูนันทนา โรงเรียนในพื้นที่ อ.หนองจิก และในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปัตตานีเขต 1 จำนวน 43 แห่ง ได้ปิดการเรียนการสอนตั้งแต่วันศุกร์ที่ 23 พ.ย.
หัวอก"แม่พิมพ์"ค้านปิดโรงเรียนทั้งจังหวัดหวั่นกระทบเด็ก
อย่างไรก็ดี เมื่อได้สอบถามความเห็นของครูใน จ.ปัตตานี เกี่ยวกับมติสมาพันธ์ครูฯ ที่ให้โรงเรียนในจังหวัดปิดการเรียนการสอนทั้งหมด 332 แห่ง ปรากฏว่าครูหลายคนไม่เห็นด้วย เพราะเกรงจะกระทบกับเด็กนักเรียน
"สำหรับโรงเรียนที่อยู่ใกล้หรืออยู่ในรัศมีใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุรุนแรง การปิดชั่วคราวถือว่าเหมาะสม เพราะครูยังมีอาการหวาดผวา ยิ่งเป็นครูพุทธด้วยแล้วต้องดูแลตัวเองมากกว่าเดิม แต่ในส่วนของโรงเรียนในพื้นที่รอบนอกไม่ควรปิดการเรียนการสอนตาม เพราะผลกระทบจะตกแก่เด็ก ฉะนั้นควรปิดเฉพาะพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเท่านั้น" ครูรายหนึ่งที่สอนอยู่ใน จ.ปัตตานี ให้ความเห็น
และว่า ขณะนี้ครูยังรู้สึกกลัว ยิ่งคนที่เสียชีวิตเป็นถึงระดับผู้อำนวยการโรงเรียน ยิ่งทำให้เห็นเป็นเรื่องใหญ่ และน่าจะเป็นกรณีศึกษาให้รัฐต้องดูแลครูใกล้ชิดกว่านี้ ที่ผ่านมารัฐยังไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ และไม่รู้ว่าครูอีกกี่คนต้องสังเวยกับสถานการณ์ความไม่สงบ
"สงสารเด็กนักเรียนที่ต้องหยุดเรียนบ่อยๆ แต่การปิดชั่วคราวก็เพื่อความปลอดภัยของครู ส่วนผลกระทบต่อนักเรียน ทางโรงเรียนก็ต้องมีการบริหารจัดการให้เด็กเรียนทันเพื่อน" ครูปัตตานีรายเดิม กล่าว
ขณะที่ครูอีกรายใน จ.นราธิวาส กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยหากต้องปิดโรงเรียน รู้สึกสงสารเด็ก ยิ่งสถานการณ์ตอนนี้การเรียนของเด็กๆ ในพื้นที่ยังมีผลสัมฤทธิ์ต่ำ ถ้าปิดเพิ่มอีกก็จะยิ่งแย่ ฉะนั้นควรปิดเป็นบางพื้นที่น่าจะดีกว่า
วอนชาวบ้านช่วยดูแลครู...ครวญพึ่งใครไม่ได้อีกแล้ว
นายมานพ บุญทวิโรจน์ ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดยะลา กล่าวว่า หลักการที่ยึดถือร่วมกันก็คือ หากทางโรงเรียนประเมินแล้วว่าครูหรือนักเรียนไม่มีความปลอดภัย ก็ไม่ต้องรอให้ใครสั่งหยุด สามารถตัดสินใจปิดการเรียนการสอนเองได้เลย
"อยากฝากให้เพื่อนครูระวังตัวให้มาก เพราะไม่มีใครดูแลพวกเราได้ ฝากไปถึงผู้ปกครองหรือชาวบ้านในพื้นที่ด้วย อยากให้ช่วยดูแลครู เพราะขณะนี้ครูพึ่งใครไม่ได้อีกแล้ว" นายมานพ กล่าว
มีรายงานว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้เชิญแกนนำครู ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา และผู้บริหารสถานศึกษาที่เกี่ยวข้อง เข้าหารือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองกำลังทั้งหมด เพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยใหม่ร่วมกัน ที่ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ในวันอังคารที่ 27 พ.ย.2555
เจอกับระเบิดอีก 2 ลูกหลังเหตุถล่มโรงพักรามัน
ด้านความคืบหน้าเหตุคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มอยู่ในป่ายางพาราฝั่งตรงข้าม สภ.รามัน จ.ยะลา แล้วใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่อาคารโรงพัก จนมีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ ส.ต.ท.ชาญณรงค์ สงค์หมุน อายุ 30 ปี เหตุเกิดเมื่อเย็นวันพฤหัสบดีที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะกำลังรวมแถวเตรียมเคารพธงชาตินั้น
ต่อมาวันศุกร์ที่ 23 พ.ย. ตำรวจ สภ.รามัน ได้สนธิกำลังกับทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 และฝ่ายปกครอง เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมาย 6 หลังในท้องที่หมู่ 6 บ้านปูลัย และหมู่ 7 บ้านบาลูกาปาลัส ต.บาลอ อ.รามัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นบ้านที่กลุ่มผู้ก่อเหตุใช้หลบซ่อนตัว
โดยที่บ้านเลขที่ 47/1 หมู่ 7 บ้านบาลูกาปาลัส ซึ่งเป็นบ้านของ นายสตอปา ยาเงาะมะ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ในพื้นที่ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นั้น เจ้าหน้าที่พบถุงบรรจุปุ๋ยยูเรียผสมน้ำมันเบนซิน น้ำหนัก 30 กิโลกรัม ซึ่งสามารถนำไปทำเป็นระเบิดได้อย่างน้อย 3 ลูก จึงยึดไปตรวจสอบ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งได้นำกำลังเข้าไปตรวจพื้นที่รอบๆ โรงพัก สภ.รามัน พบปลอกกระสุนปืนสงครามจำนวนมาก และพบกับระเบิดแบบเหยียบ 2 ลูก คาดว่าคนร้ายนำมาวางดักสังหารเจ้าหน้าที่ชุดตรวจจุดเกิดเหตุและชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) โดยเจ้าหน้าที่เก็บกู้เอาไว้ได้อย่างปลอดภัย
บึ้มทหารพลาดเป้าที่ตากใบ-ชาวบ้านรับเคราะห์เจ็บ 3
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้วถึงต้นสัปดาห์นี้ ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 26 พ.ย.เวลา 09.00 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดแบบเครโมบนทางหลวงสาย 4084 ท้องที่บ้านศาลาเชือก หมู่ 6 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อดักสังหารทหารชุดลาดตระเวน สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 2911 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 36 ขณะออกปฏิบัติหน้าที่โดยใช้รถกระบะหุ้มเกราะแบบ เอ็ม-50 เป็นพาหนะ แต่ระเบิดทำงานพลาดเป้า ทำให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย ทราบชื่อคือ
1.นายสมชาย รัตนรักษ์ติยา อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ซอยร่วมจิตร ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส 2.นายสุวรรณเวศน์ ลิ่มทวีกูล อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 ถนนไตรภพ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส และ นายมะยูโซ๊ะ มามะ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/2 บ้านสะปอม หมู่ 13 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เอ็ม 79 ถล่มฐานทหารที่บันนังสตาเจ็บระนาว
ส่วนที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เวลา 19.55 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงระเบิดถล่มฐานปฏิบัติการ กองร้อยทหารราบที่ 7024 (ร้อย ร.7024) หน่วยเฉพาะกิจยะลา 15 ตั้งอยู่ที่บ้านบาเจาะ หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา โดยคนร้ายยิงระเบิดใส่ 2 นัด ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย ทราบชื่อคือ 1) จ.ส.อ.ไกรสร พุฒหมื่น อายุ 34 ปี 2) ส.อ.ปภาวิน มานะวิริยากุล อายุ 29 ปี และ 3) พลทหารจิรายุทธ คำแสน อายุ 22 ปี เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
มอเตอร์ไซค์บอมบ์นราฯตำรวจเจ็บ
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 พ.ย.เมื่อเวลา 18.05 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ติดตั้งไว้ในรถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซค์บอมบ์) จอดทิ้งไว้ริมถนนจารุเสถียร ท้องที่บ้านไม้งาม หมู่ 10 ต.บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ แรงระเบิดทำให้ตำรวจ สภ.มูโนะ อ.เมืองนราธิวาส ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 นาย คือ ส.ต.ท.วิรัตน์ กัตโร อายุ 33 ปี และ ร.ต.ท.อรรถพล สลับเพชร เหตุเกิดขณะทั้งคู่กำลังขับรถกระบะกลับจากปฏิบัติราชการที่ศาลจังหวัดนราธิวาส มุ่งหน้าโรงพัก สภ.มูโนะ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 19.30 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายนิมู เจ๊ะมี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/6 บ้านเขากาปั่น หมู่ 4 ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส กระสุนเจาะเข้าที่ขาซ้าย ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนสายกูแบสาลอ-บ้านเขากาปั่น หมู่ 4 ต.กะลุวอ อ.เมืองนราธิวาส ขณะที่นายนิมุกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน หลังเสร็จจากการดื่มน้ำชาที่ร้านน้ำชาในหมู่บ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
เวลา 22.50 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถกระบะเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนสงครามประกบยิง นายซูลกรีฟรี มะดง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 บ้านนาโอน หมู่ 8 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายบ้านปูโป๊ะ-บ้านมือและห์ ท้องที่บือเจาะบองอ หมู่ 7 ต.สาวอ อ.รือเสาะ ขณะที่นายซูลกรีฟรีกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ทหารกำลังเดินตรวจตราภายในโรงเรียน หนึ่งในมาตรการเข้มเพื่อรักษาความปลอดภัยครูหลังเกิดเหตุร้ายกับครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)