"บัวแก้ว-ศอ.บต.-กอ.รมน."ร่วมวงถกโอไอซี นายกฯจ่อล่องใต้ 22 พ.ย.
ทีมข้าราชการไทย "บัวแก้ว-ศอ.บต.-กอ.รมน." ลัดฟ้าสู่ประเทศ "จิบูตี" ร่วมวงประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศโอไอซีครั้งที่ 39 คาดมีการนำเสนอรายงานการแก้ปัญหาไฟใต้หลังผู้แทนพิเศษเยือนไทยเมื่อเดือน พ.ค. ขณะที่ ผบ.ทบ.ไปยะลา ตรวจงานก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 410 สายใหม่ เตรียมพร้อมให้นายกฯลงพื้นที่ทำพิธีเปิด 22 พ.ย.นี้ ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังมีเหตุรุนแรงประปราย ยิงดับประธานชมรมอิหม่ามยะหาคารถ
วันที่ 15-17 พ.ย.2555 ตามเวลาในประเทศไทย มีการประชุมสภารัฐมนตรีต่างประเทศของโอไอซี (องค์การความร่วมมืออิสลาม) ครั้งที่ 39 ที่กรุงจิบูตี ประเทศจิบูตี หนึ่งในสมาชิกโอไอซีในทวีปแอฟริกา
ทั้งนี้ ได้มีคณะจากประเทศไทยเดินทางไปร่วมประชุมด้วยในฐานะผู้สังเกตการณ์ นำโดย นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมผู้แทนจากทุกหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ นายณรงค์ ศศิธร อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา, นายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ ผู้อำนวยการกองตะวันออกกลาง กระทรวงการต่างประเทศ, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.), ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ผู้แทนจุฬาราชมนตรี, นายดนัย มู่สา ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์ความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้และชนต่างวัฒนธรรม สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า)
สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญ คือ แนวทางการสนับสนุนการทำงานของทูตสันติภาพอาหรับ-ยูเอ็น (องค์การสหประชาชาติ) เพื่อยุติสถานการณ์นองเลือดในซีเรีย ปัญหาปาเลสไตน์ และการละเมิดสิทธิมนุษยชนมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ (อาระกัน) ของประเทศเมียนมาร์ โดยไม่มีวาระหลักเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ที่ชายแดนใต้อาจถูกหยิบยกขึ้นหารือในวาระที่เกี่ยวกับสถานการณ์โลกมุสลิม และอาจมีการรายงานผลการเดินทางเยือนประเทศไทยของ นายซาเยด คาสเซม เอล มาสรี ที่ปรึกษาและผู้แทนพิเศษของเลขาธิการโอไอซี ระหว่างวันที่ 7-12 พ.ค.2555 เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนจากประเทศไทยก็คาดหวังว่า รายงานฉบับดังกล่าวน่าจะมีแนวโน้มเป็นบวกกับไทย เพราะที่ปรึกษาและผู้แทนพิเศษของเลขาธิการโอไอซี ได้เคยออกแถลงการณ์หลังเสร็จสิ้นการเยือนประเทศไทยแสดงความพึงพอใจต่อความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมยืนยันไม่แทรกแซงไทย ไม่สนับสนุนแยกดินแดน และประณามผู้ก่อเหตุร้าย แต่ก็มีข้อเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษ โดยเฉพาะพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ในพื้นที่โดยเร็ว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" ก่อนเดินทางไปประเทศจิบูตีว่า คณะผู้แทนจากรัฐบาลไทยพร้อมชี้แจงทุกประเด็นหากมีการหยิบยกปัญหาภาคใต้ขึ้นมาหารือในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศโอไอซี และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่คณะผู้ไปร่วมประชุมมีตัวแทนจากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สะท้อนให้เห็นถึงการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานรัฐในการจัดการปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเป็นเอกภาพ
ผบ.ทบ.ล่องใต้ตรวจถนนสาย 410 รับนายกฯเปิด 22 พ.ย.
วันพุธที่ 14 พ.ย.2555 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาของหน่วยกำลัง และเตรียมความพร้อมให้กับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีกำหนดการเดินทางไปเปิดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ช่วงสะพานข้ามอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลาง อ.ธารโต จ.ยะลา ในวันที่ 22 พ.ย.นี้
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประชุมกับผู้แทนทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง นำโดย พล.ท.อุดมชัย ธรรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาร 4) ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เสร็จแล้วได้เดินทางต่อไปยังวัดคูหาภิมุข หรือวัดหน้าถ้ำ หมู่ 1 ต.หน้าถ้ำ อ.เมืองยะลา และเข้านมัสการ พระครูอดุลนิคมเขต เจ้าอาวาสวัดคูหาภิมุข เพื่อถวายจตุปัจจัยไทยธรรม และพบปะผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาในพื้นที่ จากนั้นได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปตรวจการก่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ช่วงสะพานข้ามอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลาง ต.แม่หวาด อ.ธารโต ที่ก่อสร้างใหม่และนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปทำพิธีเปิดด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ต้องสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น พร้อมสร้างกระบวนการสันติภาพ โดยให้โอกาสคนที่หลงผิดได้มีช่องทางกลับมาอยู่อย่างปกติสุข เพราะทุกคนคือคนไทย
ยิงประธานชมรมโต๊ะอิหม่ามยะหาเสียชีวิต
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเมื่อวันพุธที่ 14 พ.ย.เวลา 12.20 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกขนาด 11 มม.ประกบยิง นายอับดุลลาเต๊ะ โต๊ะเดร์ อายุ 50 ปี อิหม่ามประจำมัสยิดบ้านอุเบ็ง อ.ยะหา จ.ยะลา อยู่บ้านเลขที่ 100 บ้านฆอรอราแม หมู่ 4 ต.ปะแต อ.ยะหา เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะที่ นายอับดุลลาเต๊ะ กำลังขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บท 574 สงขลา อยู่บนทางหลวงหมายเลข 4070 (ยะหา-สะบ้าย้อย) ท้องที่หมู่ 3 ต.ยะหา อ.ยะหา
ทั้งนี้ นายอับดุลลาเต๊ะ นั้น นอกจากจะเป็นอิหม่ามประจำมัสยิดบ้านอุเบ็งแล้ว ยังเป็นกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา และเป็นประธานชมรมโต๊ะอิหม่าม อ.ยะหา ด้วย เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหารว่าเป็นปมขัดแย้งส่วนตัวหรือการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
รัวกระสุนดับชาวบ้าน-อาสาสมัครทหารพราน
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอังคารที่ 13 พ.ย.เวลา 03.30 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนอาก้าประกบยิง นายแวสมาแอ สมาแอ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/2 บ้านมะแนลาแล หมู่ 8 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาที่ ขณะขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน บต 1174 ปัตตานี เดินทางจากบ้านมือลอ หมู่ 7 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยจุดเกิดเหตุอยู่ที่บริเวณบริเวณสามแยกบ้านคอกวัว หมู่ 5 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ ทั้งนี้ เมื่อถูกประกบยิง รถของนายแวสมาแอได้เสียหลักพุ่งชนเก้าอี้และร่มของชาวบ้านข้างทาง จากนั้นคนร้ายยังตามมาจ่อยิงอีกชุดจนแน่ใจว่าเสียชีวิต แล้วจึงเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว
เวลา 16.30 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะเช่นกัน ใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ยิง อาสาสมัครทหารพรานซูกีพลี มะสะ อายุ 27 ปี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 อยู่บ้านเลขที่ 42/3 หมู่ 7 ต.บ้านกลาง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดในท้องที่บ้านปาโอะ หมู่ 4 ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ขณะที่ อส.ทพ.ซูกีพลี กำลังขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สี่ประตู สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กบ 9967 ปัตตานี ออกสืบสวนหาข่าวกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.สายบุรี เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ทำทีเป็นทหารจับชาวบ้านยิงทิ้ง
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะ รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบศพชายไม่ทราบชื่อถูกทิ้งบริเวณริมทางหลวงสาย 4060 ท้องที่บ้านสาวอฮีเล หมู่ 6 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายสะมะแอ มะลี อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 5 ต.สาวอ อ.รือเสาะ สภาพศพถูกมัดมือไพล่หลัง และมีผ้าปิดปาก ถูกยิงด้วยอาวุธสงครามบริเวณลำตัว
จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสะมะแอพร้อมภรรยาได้เดินทางไปกรีดยางพาราที่บ้านดือแย หมู่ 4 ต.สาวอ จากนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์ไม่ทราบจำนวน แต่งกายด้วยชุดสีดำ สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ดักรออยู่ในสวนยาง แล้วใช้อาวุธปืนจี้บังคับนายสะมะแอขึ้นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับหายไป ส่วนภรรยาของนายสะมะแอถูกทิ้งไว้ในสวนยางพารา โดยคนร้ายบอกภรรยาของนายสะมะแอว่า จะนำตัวไปส่งให้ทหารที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่ ต.สาวอ แต่ต่อมาถูกพบเป็นศพอยู่บริเวณริมทางหลวงหมายเลข 4060 ดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบที่สวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อสร้างความเข้าใจผิด
ดับหนุ่มวัยฉกรรจ์ขณะสร้างศาลา "ทำดีมีอาชีพ"
วันจันทร์ที่ 12 พ.ย.เวลา 17.30 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายฮับดุลรอฟา นิมอ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 บ้านตันหยง หมู่ 4 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดในสวนมะพร้าวภายในหมู่บ้านตันหยง หมู่ 4 ต.บาเระใต้ ขณะที่ นายฮับดุลรอฟา กำลังเดินเข้าไปในสวนเพื่อสร้างศาลาในโครงการทำดีมีอาชีพของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 20.20 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และปืนพกขนาด 9 มม.ยิง นายอาซีซี โต๊ะสรี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 บ้านสะบือแร หมู่ 4 ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะนายอาซีซีนั่งดื่มน้ำชาอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 77/1 บ้านกูวิง หมู่ 2 ต.ละหาร อ.สายบุรี โดยคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าบ้าน แล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่ทันทีจนเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ดักถล่มรองนายก อบต.ที่ทุ่งยางแดงรอดหวุดหวิด
วันอาทิตย์ที่ 11 พ.ย.เวลา 19.40 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกขนาด .38 ยิง นายซูลไมรี วาเจ๊ะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 บ้านตาแบ๊ะ หมู่ 3 ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาที่ขณะกำลังซื้อของอยู่ในร้านขายของชำในหมู่บ้านตาแบ๊ะ โดยก่อนเกิดเหตุ คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณหน้าร้าน จากนั้น นายซูลไมรี ได้เดินไปพูดคุยกับคนร้ายก่อนจะถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุการสังหารน่าจะมาจากความขัดแย้งส่วนตัว
ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนอาก้าลอบยิง นายมาหามะ อีแม็ง อายุ 54 ปี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตะโละแมะนา อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 3 ต.ตะโละแมะนา เหตุเกิดบนถนนสายชนบท ท้องที่บ้านลูกไม้ไผ่ หมู่ 1 ต.ตะโละแมะนา ขณะที่นายมาหามะขับรถกระบะออกจากบ้านไปร้านน้ำชา โชคดีที่นายมาหามะไม่ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบทำร้าย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ขณะเดินทางลงพื้นที่ จ.ยะลา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)