ยิงครูยะรังปางตาย-9ปีสังเวย153ศพ
ใต้ระอุประกบยิงครูสาวใหญ่วัย 59 ปีบาดเจ็บสาหัสที่ยะรังขณะนั่งรถยนต์ของเพื่อนครูไปสอนหนังสือที่โรงเรียน โชเฟอร์ตั้งสติได้ขับรถเบียดมอเตอร์ไซค์คนร้ายจนล้มคว่ำเกือบตกถนน ต้องทิ้งรถวิ่งหนีเอาตัวรอด ประธานสมาพันธ์ครูปลายด้ามขวานซัดมาตรการ รปภ.ของฝ่ายความมั่นคงหละหลวม ปล่อยครูถูกปองร้ายในช่วงเวลาคุ้มเข้ม เผย 9 ปีไฟใต้สังเวยแล้ว 153 ศพ บาดเจ็บ 150 ทุพพลภาพอีก 6 ราย
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง โดยเมื่อเวลา 09.30 น.วันศุกร์ที่ 9 พ.ย.2555 พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ ผู้กำกับการ สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนทางเข้าหมู่บ้านต้นมะขาม-ยือลาแป หมู่ 4 บ้านต้นมะขาม ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี)
ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กบน 77 ปัตตานี ซึ่งเป็นรถของคนร้าย ล้มคว่ำอยู่บริเวณไหล่ทาง ส่วนคนร้ายทราบว่าวิ่งหลบหนี ส่วนผู้ที่ถูกยิงขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้ รุ่นวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กค 7017 ยะลา เข้าไปจอดในโรงเรียนตลาดนัดต้นมะขาม อยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร จึงนำกำลังตามไปตรวจสอบ ทราบว่าผู้ถูกยิงคือ นางวันเพ็ญ จันทร์แก่น อายุ 59 ปี ครูสอนชั้นอนุบาลโรงเรียนตลาดนัดต้นมะขาม มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.บริเวณแขนซ้าย 3 นัด ได้รับบาดเจ็บ อีกรายคือ นายสุกิจ ฤทธิเดช อายุ 45 ปี ครูสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเดียวกัน เป็นผู้ขับรถยนต์ ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่รถถูกกระสุนปืนจนกระจกด้านซ้ายแตกร้าว
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสุกิจได้ขับรถคันดังกล่าวมุ่งหน้าไปโรงเรียน โดยมี นางวันเพ็ญ เพื่อนครูนั่งไปด้วยกัน เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ก่อนถึงโรงเรียนประมาณ 500 เมตร ได้มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบทางด้านซ้ายของตัวรถ จากนั้นคนที่นั่งซ้อนท้ายได้ชักปืนพกขนาด 9 มม.ออกมายิงใส่ ทำให้นางวันเพ็ญได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายจะยิงซ้ำอีก แต่นายสุกิจซึ่งยังมีสติ ได้ขับรถเบียดชนรถจักรยานยนต์ของคนร้ายจนเสียหลักล้ม พร้อมทั้งเร่งเครื่องหนีเข้าไปในโรงเรียน พร้อมทั้งรีบนำตัวนางวันเพ็ญส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ส่วนคนร้ายได้ทิ้งรถจักรยานยนต์แล้ววิ่งหลบหนีไป เบื้องต้นตรวจสอบรถของคนร้ายแล้ว ติดป้ายทะเบียนปลอม น่าจะเป็นรถโจรกรรม สันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
แกนนำครูซัดมาตรการ รปภ.หละหลวม
นายบุญสม ทองศรีพลาย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การลอบยิงครู 2 รายที่ อ.ยะรัง เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะยังอยู่ในช่วงเวลาของการรักษาความปลอดภัยโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง คือ 07.00-10.00 น.ตามที่ตกลงกัน ฉะนั้นฝ่ายความมั่นคงต้องกลับไปทบทวนว่าเหตุใดจึงมีการลอบทำร้ายเพื่อนครูได้ในเวลาที่บรรดาครูคิดว่าน่าจะมีความปลอดภัยมากที่สุด
“วันนี้คำถามที่ต้องการคำตอบคือการรักษาความปลอดภัยครูหละหลวมหรือมีช่องโหว่มากขนาดไหน จนเป็นเหตุให้คนร้ายสร้างสถานการณ์ได้ในเวลาที่ครูทุกคนคิดว่าน่าจะมีความปลอดภัยสูงสุด เพราะช่วงที่ครูเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน ต้องมีกองกำลังคอยคุ้มครองอย่างเต็มที่” นายบุญสม ระบุ และว่า แม้ครูทั้งสองคนจะไม่เสียชีวิต แต่นี่คือสัญญาณอันตรายที่น่าเป็นห่วงมาก เพราะคนร้ายสามารถเลือกลงมือก่อเหตุได้ในช่วงที่มีการคุมเข้มความปลอดภัย
9 ปีไฟใต้ครูสังเวย153ศพ-เจ็บ150-พิการ6
สำหรับสถิติความสูญเสียของครูและบุคคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบันนั้น มีครูเสียชีวิต 135 ราย บุคลากรทางการศึกษา 18 ราย รวมครูและบุคลากรทางการศึกษาเสียชีวิตไปแล้ว 153 ราย บาดเจ็บ 150 ราย (รวมครูวันเพ็ญแล้ว) และมีครูที่ทุพพลภาพจากเหตุการณ์ความไม่สงบ 6 ราย
เผยเพิ่งล้อมจับผู้ต้องสงสัยพร้อมอาวุธปืน
อนึ่ง พื้นที่ ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง ในช่วงเช้ามืดก่อนเกิดเหตุยิงครูไม่กี่ชั่วโมง หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ได้สนธิกำลังกับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 และตำรวจ สภ.ยะรัง เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 124/1 บ้านเมาะมาวี หมู่ 3 ต.เมาะมาวี ซึ่งมี นางซาลีป๊ะ กาหลง แสดงตนเป็นผู้ครอบครองสถานที่ และได้เชิญตัว นายยา โตะนา ไปซักถาม โดยสามารถยึดอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ได้ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนหลายขนาดอีกจำนวนหนึ่ง
นอกจากนั้น ในช่วงเช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจค้นรถยนต์เก่ง ยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ฟ้า บริเวณถนนชลประทานบ้านเมาะมาวี หมู่ 3 ต.เมาะมาวี และพบใบกระท่อมจำนวน 70 กิโลกรัม จึงควบคุมตัว นายมาหามะ เจะหะ อยู่บ้านเลขที่ 143 บ้านสะเอะใน หมู่ 5 ต.สะเอะ อ.กรงปินัง จ.ยะลา คนขับรถ และ นายอีดือเระ สาเระ อยู่บ้านเลขที่ 82/2 บ้านโคกระกำ หมู่ 8 ต.ลูโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี ส่งตำรวจ สภ.ยะรัง เพื่อดำเนินคดีฐานครอบครองพืชกระท่อมซึ่งเป็นสารเสพติดต่อไป
จี้กระทรวงศึกษาฯแก้ปัญหาเด็กตกหล่น-หายจากระบบ
นายบุญสม ยังกล่าวถึงปัญหาเกี่ยวกับระบบการศึกษาที่ชายแดนใต้ ซึ่งผลสัมฤทธิ์ต่ำและมีเด็กตกหล่นหรือออกจากระบบการศึกษาจำนวนมาก ว่า แนวทางการแก้ปัญหาลำดับต้นๆ เลยต้องดูที่เรื่องความปลอดภัยก่อน เพราะเมื่อมีความไม่ปลอดภัย ก็จะส่งผลกระทบกับอีกหลายเรื่องตามมา เรื่องคุณภาพการสึกษาก็เช่นกัน
"หลายคนพูดว่าการศึกษาภาคใต้มีปัญหา คะแนนโอเน็ตต่ำ (การสอบวัดผลทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน) แต่ความจริงแล้วการศึกษาในพื้นที่ตกต่ำมานานมาก ตั้งแต่ก่อนปี 2547 เสียอีก แล้วปัญหาความไม่ปลอดภัยก็ยิ่งซ้ำเติม หากเรามองปัญหาให้ลึกจะพบว่าสภาพแวดล้อมในพื้นที่ก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน เพราะพื้นที่นี้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทำให้เด็กต้องเรียนหนังสือหนักกว่าเด็กในภาคอื่นๆ วิถีชีวิตในพื้นที่มีความแตกต่างจากภาคอื่น เด็กพูดภาษาถิ่น เมื่อเข้าสู่รั้วโรงเรียนทำให้อ่อนด้อยในวิชาภาษาไทย ส่งผลทำให้เด็กอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ เมื่ออ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก็จะส่งผลไปยังวิชาอื่นๆ ประกอบกับในระยะหลังๆ ครูเองก็อ่อนด้อยทางวิชาการ ครูบางคนพูดภาษาไทยยังไม่ชัด ทั้งๆ ที่ครูต้องมีความสามารถ รู้ทั้ง 2 ภาษา เพราะเด็กที่นี่ใช้ภาษาถิ่นพูด เมื่อแก้ไม่ได้ พอเข้าห้องสอบโอเน็ต เอเน็ต ข้อสอบเป็นข้อเขียน ต้องคิด วิเคราะห์ ทำให้เด็กเราทำข้อสอบไม่ได้"
ส่วนประเด็นเด็กตกหล่นและหายไปจากระบบการศึกษา นายบุญสม บอกว่า เป็นปัญหาสำคัญมาก เมื่อมีตัวเลขออกมาชัดเจนขนาดนี้แล้วว่ามีเด็กหายไปจากระบบนับแสนคน ทางเขตการศึกษาก็จะนิ่งนอนใจไม่ได้ ต้องทำอะไรสักอย่าง ทั้งประเมิน ทำวิจัย ติดตามไปที่บ้าน ดูว่าเด็กหายไปไหน ที่หายไปนั้นหายไปเพราะอะไร ถ้าหายไปเพราะไม่มีทุนการศึกษา ก็ต้องหาทุนให้ เรื่องแบบนี้ไม่ต้องรอ สามารถทำได้เลย และกระทรวงศึกษาธิการต้องมาดูแลทั้งระบบ
“อยากถามว่าที่ผ่านมาได้แต่ป้อนเด็กเข้าเรียนเทคนิค เรียนด้านวิชาชีพ แล้วเคยไหมที่จะติดตามประเมินผลว่าเด็กพวกนี้เรียนจบแล้วไปไหน เขาเรียนจบแล้วมีงานทำกี่คน ไม่มีงานทำกี่คน"
นายบุญสม กล่าวด้วยว่า อีกประเด็นหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือการพัฒนาบุคลากรครู สร้างความปลอดภัย สร้างขวัญกำลังใจให้กับครู สวัสดิการที่ครูได้รับอยู่ถือว่าสำคัญ แต่สิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ครูที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบ ต้องเจ็บเรื้อรังมีจำนวนมาก แล้วมีใครสนใจหรือไม่ ความเป็นอยู่ของครูเป็นอย่างไรบ้าง ทุกวันนี้ครูกลัวมาก กลายเป็นปัญหาที่ซ้อนทับกับปัญหาคุณภาพการศึกษาอีกชั้นหนึ่ง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : สภาพรถยนต์เก๋งของครูสุกิจ ที่ถูกคนร้ายตามประกบยิงจนกระจกแตกร้าว
ขอบคุณ :
1 คุณอับดุลเลาะ เบ็ญญากาจ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ประจำจังหวัดปัตตานี เอื้อเฟื้อภาพประกอบข่าว
2 เนื้อหาข่าวบางส่วนจากสำนักข่าวเนชั่น
อ่านประกอบ : การศึกษาชายแดนใต้วิกฤติ จบ ป.3 อ่านไม่ออก33% นร.นับแสนไม่ได้ต่ออุดมศึกษา