จับ-เชิญตัวผู้ต้องสงสัยขู่"หยุดงานวันศุกร์" เลขาฯสมช.มั่นใจกลุ่มป่วนใต้พ่ายตอนจบ
ว่าที่เลขาฯสมช. ชี้ ยุทธวิธีข่มขู่ให้หยุดงานวันศุกร์ทำได้แค่ระยะหนึ่ง มั่นใจสุดท้ายกลุ่มป่วนใต้แพ้ภัยตัวเอง เหตุยิ่งยืดเยื้อชาวบ้านยิ่งเดือดร้อน จะหันมาแจ้งเบาะแสให้รัฐมากขึ้น ด้านกระแสคุกคามลามสงขลา ทิ้งใบปลิว 50 ชุดที่จะนะ เจ้าหน้าที่เชิญตัว 12 ผู้ต้องสงสัย ส่วนที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ชาวบ้าน "ชี้จับ" ได้อีก 1
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ว่าที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" ถึงสถานการณ์ข่มขู่ให้หยุดทำงานและค้าขายในวันศุกร์ ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งต่อมามีการก่อเหตุยิงครูเพื่อข่มขู่ให้ปิดโรงเรียนวันศุกร์ด้วย ว่า สถานการณ์นี้ประชาชนจำต้องยอมรับในตอนต้น เนื่องจากเจอสภาพบังคับจากการข่มขู่ แต่ในท้ายที่สุดฝ่ายที่กระทำการต้องพ่ายแพ้ เพราะประชาชนย่อมไม่ยอมปิดกิจการตลอดไป เนื่องจากต้องทำมาหากิน อาจจะเรียกได้ว่ากลุ่มผู้ก่อการอยู่ในสภาพ "ชนะศึกแต่แพ้สงคราม"
พล.ท.ภราดร กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของประเทศมุสลิมอื่นๆ ไม่พบว่าต้องหยุดค้าขายหรือหยุดทำงานในวันศุกร์ จึงชัดเจนว่าเป็นเรื่องที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงสร้างขึ้นมา และไม่ได้เป็นเรื่องของจิตใจหรืออุดมการณ์ แต่เป็นสภาพบังคับที่เกิดจากการข่มขู่เพื่อให้ประชาชนเห็นว่ารัฐไม่สามารถอำนวยความปลอดภัยแก่ประชาชนได้อย่างเพียงพอ อย่างไรก็ดี เมื่อสถานการณ์ยืดเยื้อต่อไป ประชาชนจะเดือดร้อน และสุดท้ายจะหันมาร่วมมือกับรัฐ และแจ้งเบาะแสกลุ่มบุคคลที่ข่มขู่เพื่อให้ถูกจับกุมดำเนินคดีในที่สุด
"เรายอมรับว่าดูแลได้ไม่ทั่วถึง เรื่องข่มขู่ให้กลัวนั้นแก้ไขได้ลำบาก แต่โดยธรรมชาติจะทำได้เพียงระยะหนึ่งเท่านั้น ถือว่าฝ่ายผู้ก่อการทำลายตัวเอง ชนะศึกแต่แพ้สงคราม ชนะยุทธวิธีแต่แพ้ยุทธศาสตร์" ว่าที่เลขาธิการ สมช.ระบุ
ขู่หยุดวันศุกร์ลาม 4 อำเภอสงขลา-เชิญตัว12ผู้ต้องสงสัย
ด้านสถานการณ์จริงในพื้นที่ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ต.ค.2555 มีรายงานจาก "สำนักข่าวเนชั่น" อ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายพิรสิญจ์ พันธุ์เพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ว่าฯ ให้รับผิดชอบพื้นที่ อ.จะนะ ดูแลมาตรการรักษาความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ได้รับรายงานว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่มเข้าไปแอบแฝงแจกจ่ายใบปลิวที่มีข้อความลักษณะข่มขวัญและข่มขู่ไม่ให้ประชาชนค้าขายในวันศุกร์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้สอบสวนแล้ว
อย่างไรก็ดี นายณรงค์พร ณ พัทลุง นายอำเภอจะนะ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้ว่า ใบปลิวข่มขู่พบประมาณ 50 ชุดในเขตเทศบาลเมืองจะนะ ทราบว่ามีคนแปลกหน้าจำนวน 12 คนนำเอกสารใบปลิวไปเผยแพร่และข่มขู่ชาวบ้าน โดยโชว์อาวุธให้ดูด้วย ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวและแจ้งมาที่อำเภอ ทางอำเภอจึงประสานฝ่ายความมั่นคงเชิญตัวชายทั้ง 12 คนมาซักถาม ทั้งหมดเป็นคนจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อายุระหว่าง 20-30 ปี แต่ไม่พบอาวุธปืนหรือเอกสารใดๆ จึงไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ต้องปล่อยตัวไป
กระนั้นก็ตาม นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่กระทำการข่มขู่ไม่ให้ประชาชนค้าขายในวันศุกร์ได้จำนวนหนึ่ง พร้อมของกลางใบปลิวและอาวุธที่ใช้ข่มขู่ แต่ไม่ได้ขยายความหรือยืนยันว่าเป็นกรณีเดียวกับการเชิญตัวผู้ต้องสงสัย 12 คนที่ อ.จะนะ หรือไม่
ชาวบ้านสายบุรี "ชี้จับ" ตามรวบได้อีก 1
ส่วนที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ก็มีข่าวจับกุมผู้ต้องสงสัยได้เช่นกัน โดยแหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงใน อ.สายบุรี ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นชาย 1 คน ซึ่งมีรถยนต์เก๋งเป็นพาหนะ โดยประชาชนในพื้นที่แจ้งเบาะแสว่า ชายคนดังกล่าวนี้เป็นหนึ่งในบุคคลที่กระทำการข่มขู่ให้หยุดทำงานและปิดร้านค้าในวันศุกร์
แหล่งข่าวบอกด้วยว่า การควบคุมตัวเป็นการใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก ขณะนี้ได้ส่งตัวไปซักถามที่ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
สำหรับ อ.สายบุรี ได้เกิดเหตุคาร์บอมบ์กลางเทศบาลตำบลตะลุบัน เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บร่วมครึ่งร้อย ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบเพื่อข่มขู่ประชาชนให้หยุดทำงานวันศุกร์ ทำให้วันศุกร์ถัดมา คือวันที่ 28 ก.ย. ชาวบ้านพากันหยุดทำงานและหยุดค้าขายในวันศุกร์ทั่วทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
"ผู้ว่าฯกฤษฎา"ลงพื้นที่เอง-สั่งจัดตลาดนัดกระตุ้นบรรยากาศ
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าฯสงขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า จ.สงขลามีพื้นที่รอยต่อกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 4 อำเภอ คือ อ.จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี จึงได้ออกมาตรการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนจากกรณีมีข่าวข่มขู่ให้หยุดค้าขายวันศุกร์ โดยแบ่งพื้นที่ให้รองผู้ว่าฯ 3 คนรับผิดชอบคนละ 1 อำเภอ และตัวเขาเองรับผิดชอบอีก 1 อำเภอ คือ อ.สะบ้าย้อย ถือเป็นมาตรการเชิงรุก ทั้งยังได้ประสานไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนทหาร ตำรวจ ให้ช่วยกันดูแลที่ตั้งตลาดนัดและตลาดชุมชนอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกันได้สั่งการให้นายอำเภอประสานกับเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) รวมทั้งภาคเอกชนจัดตลาดนัดจำหน่ายสินค้าในวันศุกร์ เพื่อทดแทนร้านค้าที่ยังปิด เพื่อช่วยกระตุ้นบรรยากาศให้กลับคืนสู่ภาวะปกติ
มีรายงานด้วยว่า ตลอดหลายวันที่ผ่านมา นายกฤษฎาได้ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะใน อ.สะบ้าย้อย มีการใช้รถกระจายเสียงออกสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน และแจกจ่ายเอกสารของจุฬาราชมนตรีที่ชี้ว่าคำสอนของศาสนาอิสลามไม่ได้ให้หยุดทำงานวันศุกร์
นราฯ-ยะลาร่วมรณรงค์สู้กระแส "หยุดวันศุกร์"
ส่วนที่ จ.นราธิวาส นายอธินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยฝ่ายทหาร ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน นำโดยนายกสมาคมพ่อค้าจังหวัดนราธิวาส ได้ร่วมเดินรณรงค์แจกจ่ายใบปลิวเพื่อสร้างขวัญและเพิ่มกำลังใจให้กับร้านค้าในตัวเมืองนราธิวาสให้เปิดค้าขายในวันศุกร์ตามปกติ โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา โต๊ะอิหม่าม และอาสารักษาดินแดน (อส.) เข้าร่วมหลายร้อยคน
ทั้งนี้ หนึ่งในใบปลิวที่นำไปแจกจ่าย คือคำอธิบายหลักคำสอนในศาสนาอิสลามของ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ที่ระบุว่าอิสลามไม่ห้ามค้าขายในวันศุกร์
ขณะที่ จ.ยะลา นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ได้เรียกประชุมคณะกรรมการความมั่นคงของจังหวัดเพื่อวางมาตรการดูแลความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยในเบื้องต้นได้ออกไปพบปะเยี่ยมเยียนประชาชน และสั่งการให้นายอำเภอ ผู้กำกับการของตำรวจ และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ (ทหาร) ในพื้นที่ จัดกำลังเข้าไปดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ประกอบการ พร้อมสืบหาต้นตอหรือผู้ที่มีพฤติกรรมออกไปข่มขู่ประชาชนด้วย
อย่างไรก็ดี จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยหลายรายในหลายพื้นที่ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากเปิดขาย แต่เกรงจะไม่ปลอดภัย เพราะตอนเปิดร้านมีเจ้าหน้าที่ดูแลให้ก็จริง แต่เมื่อปิดร้านไปแล้วอาจถูกลอบวางระเบิดก็ได้ จึงคิดว่าไม่คุ้มกันหากจะฝืนเปิดขายในวันศุกร์ ฉะนั้นจึงเลือกไปเปิดขายวันอาทิตย์แทนดีกว่า
รามันระอุยิงผู้เฒ่าสาหัส-อดีตตำรวจดับ
ด้านสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 09.05 น. วันพฤหัสบดีที่ 4 ต.ค.2555 คนร้าย 4 คนมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกประกบยิง ร.ต.ท.อิงสะรี โดรอนิง อายุ 60 ปี อดีตตำรวจ สภ.รามัน จ.ยะลา จนเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านพอแม็ง หมู่ 4 ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน ขณะที่ ร.ต.ท.อิงสะรี ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากส่งลูกไปโรงเรียน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ส่วนที่ ต.จะกว๊ะ อ.รามัน เวลาประมาณ 07.00 น.คนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายสูดิง หามะ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 บ้านปูลาสะนอ ต.จะกว๊ะ อ.รามัน ทำให้นายสูดิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้าน หมู่ 3 บ้านเมเร ต.จะกว๊ะ ขณะที่นายสูดิงเดินทางกลับจากตลาดนัด มุ่งหน้ากลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไมสรุปสาเหตุการลอบยิง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ว่าที่เลขาฯสมช.คนใหม่ (ภาพโดย ปกรณ์ พึ่งเนตร)