พุทธก็โดน มุสลิมก็โดน...เมื่อทุกคนคือเป้าของวงจรสร้างความหวาดระแวง
สถานการณ์ที่ชายแดนใต้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 ก.ย.2555 เป็นต้นมา เต็มไปด้วยเหตุร้ายประเภท "ไล่ยิง-ไล่ฆ่า" โดยมีเหตุสังหารสองสามีภรรยามุสลิมในกระท่อมกลางสวนยางพาราที่บ้านบาลอ อ.รามัน จ.ยะลา เสมือนหนึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรงรอบนี้ เพราะหลังจากนั้นก็มีเหตุยิงสามีภรรยาไทยพุทธอีกอย่างน้อย 4 คู่ และยิงชาวบ้านทั้งพุทธและมุสลิม ทั้งชายทั้งหญิงและวัยรุ่น บาดเจ็บล้มตายอีกนับสิบ
เป็นความรุนแรงต่อเนื่องจากสถานการณ์ข่มขู่ให้ "หยุดทำงานและค้าขายวันศุกร์" ที่รัฐยังแก้ไม่ตก ส่งผลให้ชายแดนใต้ถูกปกคลุมไปด้วยความหวาดกลัวอีกครั้ง
หลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น?
เลือกเป้าหมายนิ่ง-ก่อเหตุให้เป็นข่าว
โมหะหมัดบักรี ตาเราะซี ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นอดีตแนวร่วมของขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดน และเป็นหนึ่งใน 93 คนของกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐที่เข้าแสดงตัวต่อแม่ทัพภาคที่ 4 เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา วิเคราะห์ในมุมที่เคยเป็น "คนใน" ว่า เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นช่วงนี้เป็นการก่อเหตุเพื่อตอบโต้กรณีที่มีบุคคลออกมามอบตัวกับรัฐเป็นจำนวนมาก ชัดเจนว่าเป้าหมายที่ฝ่ายผู้กระทำเลือกเป็นเป้าหมายอ่อนแอ สามารถก่อเหตุได้ง่าย ใครก็ได้ที่ผ่านไปพบและมีโอกาส มีจังหวะ ก็ลงมือทันที
ส่วนกรณีที่เป้าหมายส่วนหนึ่งเป็นคู่สามีภรรยานั้น โมหะหมัดบักรี บอกว่า คงเป็นช่วงโอกาสหรือจังหวะเหมาะมากกว่าที่จะจงใจเลือกเป้าหมายที่เป็นสามีภรรยา แต่สิ่งที่เหมือนกันคือทั้งหมดเป็นเป้าหมายนิ่ง แทบทุกรายไม่มีอาวุธที่จะต่อสู้ได้เลย
"กลุ่มที่ก่อเหตุในขณะนี้เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถกระทำให้เกิดเหตุใหญ่ๆ ได้ เพราะศักยภาพของขบวนการตอนนี้เหลือน้อยแล้ว ไม่มีประสิทธิภาพแล้ว เป้าหมายที่เลือกก็ชัดเจนว่าเป็นเป้าหมายอ่อนแอ ก่อเหตุเพื่อต้องการให้เป็นข่าว โดยการเพิ่มจำนวนเหตุให้มากขึ้น ทำให้ดูเหมือนว่ามีการก่อเหตุเยอะขึ้น โดยเฉพาะกับพี่น้องพุทธ ส่วนพี่น้องมุสลิมที่โดนก็มีหลายสาเหตุเหมือนกัน"
โมหะหมัดบักรี ซึ่งปัจจุบันได้รับแต่งตั้งจากแม่ทัพภาคที่ 4 ให้เป็นกรรมการประสานงานและรณรงค์เพื่อยุติการต่อสู้ด้วยวิธีรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ชาวบ้านไม่เชื่อว่าขบวนการเป็นคนทำร้ายมวลชนของตนเอง ทำให้เป้าที่ชาวบ้านเพ่งมองคือเจ้าหน้าที่รัฐ ฉะนั้นรัฐจะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้น โดยการทำความเข้าใจต้องไม่ใช้เจ้าหน้าที่ เพราะจะทำให้ความน่าเชื่อถือถูกลดทอนลง แต่สิ่งสำคัญคือรัฐไม่ควรปล่อยเลยตามเลย
รุนแรงสร้าง"หวาดระแวง" - วงจรที่ไม่สิ้นสุด
ด้านความรู้สึกของชาวบ้านในฐานะที่ตกเป็นเป้าความรุนแรงได้ทุกเมื่ออย่าง นายมะ ยูโซ๊ะ แกนนำธรรมชาติในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เขาบอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายๆ เหตุการณ์มีการทิ้งใบปลิวหลังก่อหเตุ โดยเฉพาะเหตุยิงพี่น้องไทยพุทธ และจะมีการเขียนว่าเป็นการตอบโต้จากเหตุการณ์อื่นๆ ที่คนมุสลิมโดนกระทำ โดยเฉพาะกรณีที่ชาวบ้าน อ.รามัน ถูกยิงในสวนยางพาราเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (สองสามีภรรยา) เพราะหลังจากวันนั้นก็มีพี่น้องไทยพุทธโดนยิงและโดนทำร้ายเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ที่โดนก็เป็นคนไม่มีอาวุธที่จะต่อสู้ และหลังจากโดนก็จะมีใบปลิวเขียนทิ้งไว้ว่าเป็นการแก้แค้นให้กับพี่น้องมุสลิม จึงชัดเจนในการรับรู้ว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อแก้แค้น ส่วนคนมุสลิมที่ตกเป็นเป้าช่วงนี้ก็มีหลายเรื่อง ทั้งล้างแค้น ทั้งส่วนตัว หรือแม้แต่ถูกสั่งเก็บ ถูกรังแก
"ทั้งหมดนี้ทำให้เหตุการณ์ดูหนัก ประกอบกับมีการตอบโต้ด้วยในบางกรณี จึงทำให้เหตุการณ์เกิดเยอะขึ้น พอเหตุการณ์เกิดนานๆ ทำให้คนในพื้นที่เกิดความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน คนที่มีกำลังก็จะใช้กำลังตอบโต้ คนที่อ่อนแอก็จะออกจากพื้นที่ไป และพื้นที่นี้ไม่มีวันสงบแล้ว เพราะมีผลประโยชน์ ทุกคนล้วนหากินกับเหตุการณ์"
พุทธก็โดน มุสลิมก็โดน...ทุกคนล้วนเป็นเป้าหมาย
ขณะที่ นางเรวดี (สงวนนามสกุล) ชาวบ้านไทยพุทธจาก จ.ปัตตานี กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในพื้นที่รู้สึกกลัวมาก หวาดระแวงหมด เพราะคนไทยพุทธทุกคนตกเป็นเป้า และถูกทำร้ายเยอะมาก ทุกพื้นที่น่ากลัว โดยเฉพาะระหว่างเดินทางรู้สึกเสียวหลังตลอด
"ฉันคิดว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นหนักๆ หลังจากมีกระแสห้ามทำงานวันศุกร์ จากนั้นคนพุทธก็โดนตลอด และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่คนพุทธอย่างเดียวที่โดน คนมุสลิมเองก็โดนด้วย ก็ยังงงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ คนมุสลิมก็โดน คนพุทธก็โดน ทุกคนล้วนตกเป็นเป้าหมาย ตอนเช้าพุทธโดนยิง ตอนเย็นมุสลิมโดนยิง ทุกคนตกอยู่ในความไม่ปลอดภัย อยู่ที่ว่าใครจะโดนก่อนใคร มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก"
เรวดี บอกอีกว่า รู้สึกแปลกใจที่เจ้าหน้าที่รัฐบอกว่าเหตุการณ์ในพื้นที่กำลังดีขึ้น ไม่นานจะสงบแล้ว เพราะเท่าที่อยู่ในพื้นที่ ความจริงที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่รัฐพูดมันสวนทางกันเลย เราอยู่กันอย่างหวาดระแวง ต้องระวังตัวเองตลอด ไปไหนก็ไปเท่าที่จำเป็น ไม่จำเป็นก็ไม่ไป ฉะนั้นที่รัฐบอกว่าเหตุการณ์กำลังจะสงบ อยากรู้ว่าจะสงบอย่างไร หรือแค่พูดหลอกให้ประชาชนมีกำลังใจใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ
เป็นอีกหนึ่งคำถามเสียดแทงใจที่ผู้รับผิดชอบในระดับนโยบายน่าจะมีคำตอบให้ประชาชนเจ้าของประเทศ!
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ป้ายบอกทางในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ภาพผ่านการตกแต่งโดยฝ่ายศิลป์ ทีมข่าวอิศรา)